วันที่ 12 ส.ค. 63 เมื่อเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอุทยานธรรมสถาน อ.พานทอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ รีบแจ้งพ.ต.ต.ประเสริฐกุล บุตรดี สารวัตรสอบสวน สภ.พานทอง และประสานไปยังรถดับเพลิงของ อบต.พานทองหนองกะขะ เข้าตรวจสอบบริเวณหน้าบ้าน ม.5 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ สีขาว ไฟกำลังลุกไหม้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้ถังดับเพลิงฉีดใส่เพื่อสกัดแสงเพลิงไม่ให้ลุกลาม เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึง จึงได้รีบฉีดน้ำสกัด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สามารถดับเพลิงไว้ได้
นางแดง (นามสมมติ) เจ้าของบ้าน เล่าว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของลูกชายตนเอง ตอนเกิดเหตุตนขายของอยู่ที่ตลาดพานทอง ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้านว่ามีไฟไหม้รถยนต์ จึงได้มาดู เมื่อเห็นก็แทบจะเป็นลม จากการสอบถามเพิ่มเติมได้ความว่า เมื่อช่วงเช้า นายอาธิป อายุ 28 ปี ลูกชายกับลูกสะใภ้ ทะเลาะมีปากเสียงกันจนลูกชายโมโห จึงออกไปซื้อน้ำมันมาราดที่เบาะรถยนต์และภายในรถ ญาติ ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันห้าม และช่วยกันล้างเช็ดรถเพื่อเอาคราบน้ำมันออก
จากนั้น ก็เห็นทั้ง 2 คน หายโกรธจนคุยกันดี ลูกสะใภ้ของตนขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปกับเพื่อน ลูกชายจึงเกิดความโมโหขึ้นมาอีกครั้ง พยายามจะขับรถคันดังกล่าวออกไปตาม จังหวะนั้นจุดบุหรี่ในรถ ไฟก็ได้ลุกไหม้ภายในห้องโดยสาร เพื่อนบ้านที่เห็นก็ช่วยกันนำสายยางมาฉีดน้ำ แต่ไฟได้ลุกอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถที่จะดับไว้ได้ จึงรีบแจ้ง 191 ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจมาช่วย
หลังเกิดเหตุนายอาธิปก็ได้หายไป ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญทั้งนายอาธิปและภรรยาและชาวบ้านที่เห็นตอนเกิดเหตุมาสอบปากคำ ว่าสาเหตุที่ไฟไหม้ในครั้งเกิดจากสาเหตุใด หากทั้ง 2 คนไม่ติดใจ ตำรวจก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เนื่องจากรถยนต์เป็นทรัพย์สินของทั้ง 2 คน ถือเป็นการทำลายทรัพย์สินของตัวเอง แต่หากมีทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหายก็อาจต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์