โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สร้างจริง โบสถ์ 8 ล้าน บอส อยู่วิทยา ชดใช้กรรม ดต.วิเชียร

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 14 ส.ค. 2563 เวลา 03.34 น. • เผยแพร่ 14 ส.ค. 2563 เวลา 03.22 น.

ตามที่ นายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความประจำครอบครัวอยู่วิทยา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสังคมมองด้านเดียวว่า ครอบครัวอยู่วิทยา ไม่ได้ดูแลเยียวยา ครอบครัว ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ คู่กรณีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จากเหตุการณ์ นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา เหตุเกิดเมื่อปี 2555 แต่ที่ผ่านมา นายวรยุทธ หรือ บอส และครอบครัว ได้รับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับ ครอบครัวของด.ต.วิเชียร ด้วยการเยียวยา เงิน 3 ล้านบาท ผ่านนายพรอนันต์ กลั่นประเสริฐ พี่ชายของด.ต.วิเชียร ช่วยจัดการพิธีศพเป็นเงินมูลค่า 5 แสนบาท การชดใช้ค่าวิทยุสื่อสารของตำรวจที่สูญหาย และซ่อมรถจักรยานยนต์ตำรวจให้ และที่สำคัญ ด.ต.วิเชียร ก่อนเสียชีวิต ได้เคยกล่าวกับญาติๆ ว่า หากมีโอกาสต้องการทำบุญบูรณะและสร้างอุโบสถ์ เป็นความประสงค์ก่อนเสียชีวิต ทางครอบครัวอยู่วิทยา จึงสานต่อความต้องงการ ด้วยการสร้างอุโบสถหลังใหม่ ที่วัดศรีบุญเรือง จ.สกลนคร มูลค่า 8 ล้านบาท เพื่ออุทิศให้กับ ด.ต.วิเชียรฯ ที่เสียชีวิต รวมถึงการร่วมบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อการกุศลต่างๆ ด้วย แต่ที่ผ่านมาครอบครัว ‘อยู่วิทยา’ ไม่เคยแจ้งต่อสาธารณะ ว่ามีการเยียวยาเป็นมูลค่าทางการเงิน และด้านจิตใจ และการดังกล่าวไม่เคยหวังผลทางคดี

ที่วัดศรีบุญเรือง บ.โมน ต.พันนา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ที่ถูกระบุว่า เป็นที่ตั้งของอุโบสถ ที่ครอบครัวอยู่วิทยา มาสร้างไว้ตามที่กล่าวอ้าง พบกับ พระครูประภัศร์ ธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง และรองเจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน ยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง ก่อสร้างทดแทนอุโบสถหลังเดิมที่เก่าและทรุดโทรม  พระครูประภัศร์ เปิดเผยว่า ประมาณต้นปี 2558 มีพระสงฆ์ผู้ใหญ่จากกรุงเทพมหานคร และยังเป็นชาวสกลนคร ได้แนะนำมาว่า มีโยมใจบุญต้องการสร้างอุโบสถให้ใหม่ทั้งหลัง ด้วยที่อุโบสถ หรือโบสถ์ ของวัดศรีบุญเรือง สร้างมาตั้งแต่ปี 2472 อายุกว่า 86 ปี มีสภาพทรุดโทรม ทางคณะกรรมการวัด จึงตัดสินใจรับคำขอเป็นเจ้าภาพสร้างอุโบสถหลังใหม่ ทราบแต่เพียงว่า เจ้าภาพเป็นตระกูลนักธุรกิจ เป็นเจ้าของกระทิงแดง หลังทางวัดตอบตกลง ทางเจ้าภาพก็ส่งทีมช่าง มาจากกรุงเทพมหานคร ทราบเพียงว่า ผู้รับเหมาเป็นผู้หญิง ชื่อช่างแก้ว หรือ คุณพิกุล มาควบคุมการก่อสร้าง โดยมีตัวแทนครอบครัวอยู่วิทยา ทราบว่า เป็นญาติทางคุณดารณี อยู่วิทยา มาพร้อมกับสามีเป็นนายทหารระดับเสธ. มาเป็นประธานทำพิธีบวงสรวงก่อนการก่อสร้าง ซึ่งตลอดระยะเวลาก่อสร้าง ก็ไม่มีคนของครอบครัวอยู่วิทยา ลงมาดูความคืบหน้า มีเพียงช่างแก้ว ที่คอยรายงานให้ทราบ

               พระครูประภัศร์  ธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง

เจ้าอาวาส วัดศรีบุญเรือง กล่าวว่า การก่อสร้างใช้เวลาประมาณ 1 ปีเศษ ประมาณปลายปี 2559 ทางครอบครัว ก็มาทำพิธียกช่อฟ้า ตัดลูกนิมิต โดยมีครอบครัว อยู่วิทยา และญาติพี่น้อง ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ มาร่วมงาน โดยพิธีก็ตั้งแต่ทำบุญตักบาตร การประกอบพิธีฝังลูกนิมิต และเมื่อถามว่า มีใครมาร่วมในงานในวันนั้น เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง กล่าวว่า ไม่ทราบอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพ และไม่ทราบว่า นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา มาด้วยหรือไม่ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ตอบว่า ไม่แน่ใจ เพราะมีคนมาเยอะ และตนเองก็เป็นเพียงเจ้าของสถานที่ มีเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ใช้เวลาประกอบพิธีไม่นาน เสร็จแล้วคณะทั้งหมดก็เดินทางกลับ ส่วนที่มีการบอกว่าการก่อสร้างจำนวน 8 ล้านนั้น สร้างจริงๆประมาณ 7 ล้าน เป็นโครงสร้างโบสถ์ มุงหลังคา และพื้นที่รอบๆ แต่ต่อมาทางวัดศรีบุญเรืองและชาวบ้านโมน  ได้ร่วมกันจัดทำผ้าป่าและกฐิน บริจาคเงินทำลวดลาย การตกแต่ง และภาพเขียนฝาผนังเพิ่มเติม อีกประมาณ 7 ล้านบาท รวมการก่อสร้างโบสถ์หลังนี้ ใช้เงินไปขณะราวๆแล้ว 14 ล้านบาท สำหรับวัตถุประสงค์การก่อสร้างจะอุทิศกุศลให้ใครนั้น เป็นเรื่องของเจ้าภาพเอง แต่วันนั้นเจ้าภาพ ระบุเป็นเพียงอุทิศบุญกุสลให้กับเจ้ากรรม นายเวร เท่านั้นไม่ได้ระบุชื่อใครเป็นพิเศษ มีเพียงการติดแผ่นประกาศอนุโมทนา นายวาริท อยู่วิทยา นายวรยุทธ อยู่วิทยา เป็นเจ้าภาพในการสร้างอุโบสถ และสร้างพระประธานประจำวัดศรีบุญเรือง ติดไว้ที่หน้าประตูอุโบสถ ซ้าย-ขวา ด้านทิศตะวันออก

ทวีป  ศรีสุชาติ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สกลนคร

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0