โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศาลให้ประกัน'เจ้าสัวเปรมชัย'สู้ฎีกา ตีราคา5แสน ไม่กำหนดเงื่อนไข

แนวหน้า

เผยแพร่ 11 ส.ค. 2563 เวลา 07.41 น.

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 สิงหาคม 2563 ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.1144/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 66 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490

โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2561 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2561 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพัก ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.โดยนายเปรมชัยให้การรับสารภาพ

คดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2562 เห็นว่า พิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบทให้จำคุก 1 ปี ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 , 72 วรรคหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลยยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดี ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จึงไม่อาจรอการลงโทษได้

อุทธรณ์คดี พร้อมยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษด้วย ส่วนอัยการโจทก์ ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนัก โดยไม่รอลงอาญา

วันนี้ นายเปรมชัย จำเลย ซึ่งได้รับการประกันตัวตามที่ศาลตีราคาประกัน 2 แสนบาท ระหว่างอุทธรณ์ เดินทางมาฟังคำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน อาวุธปืนของกลางมีหลายกระบอก ได้ปืนมาคนละครั้งคราวนั้น เห็นว่า โจทก์ไม่มีการกล่าวอ้างในคำฟ้องตั้งแต่ในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย อีกทั้งโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า อาวุธปืนแต่ละกระบอกได้มาอย่างไร และการตรวจยึดอาวุธปืนได้ในคราวเดียวกัน จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ส่วนที่โจทก์ขออุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานหนักนั้น เห็นว่าศาลชั้นต้นวางโทษไว้เหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลง

สำหรับจำเลยอุทธรณ์ว่า เป็นอาวุธปืนของบิดาที่ถึงแก่กรรมแล้ว และลูกจ้างได้ขนย้ายเอามาวางไว้ในบ้านโดยจำเลยไม่ทราบ ศาลเห็นว่า ขัดกับคำรับสารภาพ เป็นเรื่องที่ไม่ได้ว่ากันในศาลชั้นต้น จึงไม่รับวินิจฉัย ที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่า จำเลยมีอาวุธปืน 5 กระบอก บางส่วนใช้ล่าสัตว์ หากมีการนำไปใช้ก่ออาชญากรรม หรือกระทำความผิดล่าสัตว์ จะยากแก่การติดตามหาผู้กระทำผิด ถือเป็นเรื่องร้ายแรง และที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่า ป่วยร้ายแรงนั้น ในเรือนจำก็มีรพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งมีแพทย์ให้การรักษาอยู่แล้ว หากมีอาการร้ายแรงอาจส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ - จำเลย ฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน จำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา

ต่อมา ทนายความของนายเปรมชัย จำเลย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 500,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา

กระทั่งเวลา 14.00 น.ศาลอาญาพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นายเปรมชัย ประกันตัวไประหว่างฎีกา โดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของนายเปรมชัย เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว ถือเป็นคดีต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 ที่บัญญัติไว้ว่า เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จึงห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เว้นเเต่ผู้พิพากษาที่เคยพิจารณาสำนวนหรือผู้พิพากษาที่มีอำนาจหรืออัยการสูงสุดจะเป็นผู้รับรองฎีกาให้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0