ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน เพิกถอนคำสั่งปลด "วิชัย" อดีตผอ. สำนักกม.สรรพากร มือรับโอน "หุ้นชินคอร์ป" ออกจากราชการ ชี้ ป.ป.ช.ไร้หลักฐานแสดงได้รับประโยชน์ แลกงดเว้นคำนวณภาษี พร้อมให้คำสั่งเพิกถอน มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 29 ธันวาคม 2549 และให้เร่งคืนสิทธิประโยชน์โดยเร็ว
วันนี้ (6 ส.ค.) ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ลงโทษปลด นายวิชัย จึงรักเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร ออกจากราชการ
โดยให้มีผลย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับ ในคดีปลดนายวิชัย กรณียกเว้นภาษีการโอนหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอร์เรชั่น (SHIN) เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐาน แสดงให้เห็นว่า นายวิชัยมีเจตนาเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่น ได้ประโยชน์ที่มิควรได้
อีกทั้งไม่ปรากฎว่า นายวิชัยได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ จากการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว หรือปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้กรมสรรพากรเสียหาย
จึงไม่อาจรับฟังได้ว่า พฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดี เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติ หรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามที่คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด คำสั่งลงโทษดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ นายวิชัย ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่ากระทำความผิดวินัยร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ โดยระบุว่า นายวิชัย ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ได้ร่วมกับพวก ที่เป็นเจ้าหน้าที่นิติกร พิจารณากรณีการรับโอนหุ้น SHIN ของนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ จากนางสาวดวงตา วงศ์ภักดี ผู้ถือหุ้นแทนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2540 จำนวน 4,500,000 หุ้น มูลค่า 738 ล้านบาทแล้ว
นายวิชัย และพวก เห็นว่า เป็นการได้รับจากการอุปการะ โดยหน้าที่ธรรมจรรยา และจากการให้โดยเสน่หา เนื่องจากในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี จึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ซึ่งต่อมากระทรวงการคลังได้พิจารณาลงโทษทางวินัย ให้ปลดออกจากราชการ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
