โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ลงทุนอย่างไรให้ยั่งยืนบนภาวะโควิด-19

Businesstoday

เผยแพร่ 09 ส.ค. 2563 เวลา 11.06 น. • Businesstoday
ลงทุนอย่างไรให้ยั่งยืนบนภาวะโควิด-19

ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ทุกคนก็คงพอจะเห็นแล้วว่าโรคระบาดนี้ทำให้เกิดความเสียหายที่รุนแรงไปทั่วโลก ไม่เฉพาะแต่เรื่องการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่การป้องกันโดยใช้มาตรการสร้างระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ยังส่งผลกระทบต่อการหยุดชะงักด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่ สิ่งที่ตามมาก็คือการว่างงานจำนวนมหาศาล เพราะหลายธุรกิจต้องหยุดหรือชะลอการดำเนินงาน มีการคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะติดลบอย่างมากและคงเป็นไปอย่างนั้น จนกว่าจะมีการผลิตวัคซีนหรือยาออกมาปราบไวรัสตัวนี้ ซึ่งทางวงการแพทย์เองต่างก็คาดว่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 2 ปี ต่อจากนี้ ในระหว่างนี้ทุกประเทศก็คงบอบช้ำไปตามๆ กัน

ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าโลกหลังวิกฤติโควิด-19 จะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแน่นอน เพราะถ้าสังเกตดูระหว่างวิกฤติโควิด-19 นี้ มีหลายอย่างที่ทำให้ชีวิตผู้คนเปลี่ยนไปและอาจไม่กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะพื้นฐาน (Fundamental Changes) ในชีวิตและสังคมของมนุษย์จนหลายๆ คนเชื่อว่าเรากำลังก้าวไปสู่โลกใหม่ (A New World)

ตลาดทุนภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ต้องเลือกลงทุนแบบใด

เพราะว่าวิกฤติครั้งนี้กระทบกับหลายธุรกิจ ทำให้การดำเนินชีวิตของคนทั่วไปเปลี่ยนไป โดยเฉพาะพฤติกรรมของคนในระยะยาวหลังจากนี้ เช่น การทำกิจกรรมที่ต้องรวมอยู่กับผู้คนเยอะๆ คนก็หลีกเลี่ยงไปพอสมควร ธุรกิจสื่อสารผู้คนก็คงต้องใช้เพิ่มขึ้น ธุรกิจอาหารและสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีพมีแนวโน้มที่ดี ธุรกิจประกันภัยและประกันสุขภาพก็จะมีคนให้ความสำคัญมากขึ้น

บทพิสูจน์หุ้นยั่งยืนและการลงทุนอย่างยั่งยืน

นักลงทุนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับข้อมูลการจัดการความเสี่ยงของธุรกิจมากขึ้น เพราะการจัดการความเสี่ยงนับเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งในองค์ประกอบกลยุทธ์ความยั่งยืน ที่จะพาธุรกิจรอดพ้นจากวิกฤติเมื่อเกิดเหตุการณ์ยากลำบาก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีค่าอย่างมากต่อการตัดสินใจเลือกลงทุนในอนาคต

ในอดีตผู้ลงทุนอาจพิจารณาข้อมูลตัวเลขผลประกอบการและบทวิเคราะห์ทางการเงินเท่านั้น แต่ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำธุรกิจอย่างคำนึงถึงหลักความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG (Environmental Social Governance) เป็นการบริหารจัดการธุรกิจที่สร้างสมดุลในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ที่เชื่อมโยงจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิต การจัดซื้อ การบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบควบคุมภายใน การขนส่ง และการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค ดังนั้น การบูรณาการเรื่อง ESG เข้าไปในกระบวนการดำเนินธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียให้เพิ่มขึ้น อันจะนำไปสู่การสร้างความแข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืนให้กับธุรกิจ

ที่ผ่านมานักลงทุนในไทยอาจจะยังไม่ได้เลือกลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจโดยคำนึงถึงหลักการ ESG มากนัก ในขณะที่ปัจจุบันผู้ลงทุนสถาบันต่างชาติตัดสินใจเลือกเข้าไปลงทุนมากขึ้นในบริษัทไทยที่มุ่งเน้นทำเรื่อง ESG อย่างจริงจัง จากผลการศึกษาต่างๆ มีการระบุว่าบริษัทที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดีจะมีความเสี่ยงต่ำกว่าและมีต้นทุนของเงินทุน (Cost of Capital) ต่ำกว่าบริษัทที่ไม่ให้ความสำคัญด้าน ESG รวมถึงมีความได้เปรียบมากกว่าในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ดังนั้น แม้ว่าราคาหุ้นของบริษัทที่คำนึงถึงความยั่งยืนอาจมีสภาวะขึ้นลงตามสภาพแวดล้อมของตลาด แต่การลงทุนในหุ้นของบริษัทเหล่านี้จะมีความผันผวนน้อยกว่าแม้จะเจอพิษโควิด-19

จากสถิติมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่อยู่ใน หุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) มีมูลค่าตามราคาตลาดประมาณ 9.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 63% จากมูลค่าตามราคาตลาดทั้งหมด 14.7 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ก.ค. 2563) และเมื่อดูสถิติย้อนหลังเปรียบเทียบอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ของบริษัทจดทะเบียนใน THSI มี Dividend Yield ประมาณ 5.22% ซึ่งสูงกว่า Dividend Yield ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีค่าเฉลี่ยประมาณ 3.42% (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ก.ค. 2563)

ทั้งหมดนี้เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าในสภาวะที่ตลาดมีความผันผวนจากวิกฤติโควิด-19 ผู้ลงทุนควรพิจารณาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนได้พิจารณาถึงโอกาสและความเสี่ยงในด้าน ESG ควบคู่กับการพิจารณาผลประกอบการทางการเงิน เพื่อ“การลงทุนอย่างยั่งยืน” ที่จะสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ร่วมกับการสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีทางอ้อมจากการสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญเรื่อง ESG

 

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0