ช่วงนี้มีแต่ข่าวความรักของผู้คน เป็นข่าวใหญ่ๆ ให้ติดตาม และแชร์โซเชียลฯ กันสนั่นหวั่นไหว รักกันแต่ทำร้ายกัน หลอกกัน ตีกัน ตบกัน ขับรถชนกัน ตกลงเป็นปัญหาความรัก หรือความไม่รักกันแน่ บางเรื่องช่างซับซ้อน ละครยังทำบทไม่ได้ถึงขั้นนี้ บางทีเวลาดูข่าวต้องบอกตัวเองว่า อย่าเพิ่งชิงตัดสินใคร ถ้ายังไม่รู้ไปซะทุกมุม
ข่าวแต่ละวันเหมือนเป็นหนังคนละม้วน หลายคนถึงชอบดูละครที่มาจากชีวิตจริงไงคะ เพราะถ้าเป็นละค๊อน ละคร ตอนจบพระเอกนางเอกต้องสมหวัง ไม่ว่าชีวิตจะพังแค่ไหนสุดท้ายควรแฮปปี้ แต่ชีวิตจริงไม่แน่ คนที่เจอเรื่องแย่ๆ กลายเป็นคนดีๆ ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง ทำดีแทบตายสุดท้ายชีวิตเศร้า แค่เราต้องเดินต่อไป เพราะละครอวสานได้ แต่ชีวิตถ้ายังไม่หมดลมหายใจ อย่าเพิ่งไปเดาตอนจบ
เหมือนคำถามหนึ่งที่ถามมาทาง LINE TODAY ค่ะ อ่านแล้วถึงขั้นอุทานเลย "ว้าวว ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครจริงๆ"
“เรื่องของดิฉันเป็นเรื่องราวความรู้สึกที่คิดว่าไม่ควรเกิด ดิฉันย้ายที่ทำงานใหม่ เข้ามาทำงานในเมืองค่ะ ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา จะขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งตลอดค่ะ ตอนนั้นเราไม่เอะใจเลยว่าเขาขึ้นพร้อมเรามาตลอดเวลา ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีน้ำเงิน จนรู้สึกตัวว่าเราอยู่ใกล้กัน ใกล้กันจนเกินคนทั่วไป เวลาเราจะล้มก็จะมีคนๆ นี้คอยรับ คอยระวังให้ตลอด จนวันหนึ่งเราแลกไลน์กันค่ะ ได้คุยกัน เขาบอกว่าเขามองเรามานานแล้วนะ จำเสื้อผ้า รองเท้า ของเราได้หลายชุดแล้ว ก่อนหน้านี้เวลาเลิกงานเขาจะมามองหาเราที่สถานีเดิมทุกครั้งค่ะ เราลงสถานีเดียวกันทุกวัน แต่เขาบอกไม่เคยเจอเราเลยตอนเย็น เพราะเราเลิกงานไม่ตรงกัน ความสัมพันธ์ดำเนินไปเรื่อยๆ ค่ะ มาพร้อมกัน กลับพร้อมกัน คุยกัน จนตอนนี้ในหัวใจรู้สึกมีเขาเข้ามาแทนที่แฟนแล้วค่ะ
ใช่ค่ะ ดิฉันมีแฟนแล้ว และผู้ชายคนนั้นก็มีครอบครัวแล้ว เราอยากออกจากความสัมพันธ์แบบนี้จังค่ะ แต่ต้องมาทำงานที่นี่อยู่ ยังเดินทางเส้นทางนี้อยู่ มันรู้สึกดี รู้สึกหวิวๆ ในใจไปแล้ว รู้นะคะว่าผิด ตอนนี้ก็กำลังตัดใจ พยายามไม่ตอบไม่ทัก ไม่ขึ้นขบวนเดียวกัน แต่ก็มองไปก็เจอเขาทุกครั้ง ยากจังความรู้สึกนี้”
ช่างมีความรถไฟฟ้ามาหานะเธอ แค่ต้องระวังเจอรถไฟชนกัน ชีวิตจริงมันไม่โรแมนติกเหมือนในหนัง เพราะต่อให้มีซีนหวานแค่ไหน แต่นี่คือการทรยศนอกใจคนในครอบครัว เจอคนที่ใช่ในเวลาที่ผิด ให้คิดไปเลยว่าไม่ใช่ เรารู้จักกันอยู่ไกลๆ มองยังไงก็สวย อยู่ด้วยอาจเป็นอีกแบบ คนอยู่ใกล้ นานๆ ไปเริ่มชินๆ ชาๆ คนที่เพิ่งเข้ามาเลยน่าตื่นเต้น
บางทีแค่ใหม่กว่าก็ชนะแล้ว ต้องระวังตัว ระวังใจดีๆ แต่งงานแล้ว ใช่ว่าจะเจอคนที่ถูกใจกว่าไม่ได้ แต่เมื่อเลือกใคร ต้องรับผิดชอบความรู้สึกคนๆนั้นด้วย ใจเขาใจเราค่ะ ความเบื่อทำหน้าที่ทุกวัน ไม่มีคู่ไหนตกหลุมรักกันตลอดเวลา วันที่เราเริ่มเฉยๆ ชาๆ กับสามีหรือภรรยา ต้องหาวิธี “หาเรื่องที่จะรักกัน” ชอบคำนี้มาก ครั้งหนึ่งเคยสัมภาษณ์น้องนานา ไรบีน่า น้องเล่าว่า สามีคือเวย์ ไทเทเนียม มักพูดว่า “ยิ่งคบกันนาน เรายิ่งต้องหาเรื่องที่จะรักกัน” ไม่อย่างนั้นความเบื่อจะเข้ามาแทนที่
เมื่อไหร่เริ่มหวั่นไหว ต้องเริ่มพาตัวเองออกมาให้ไกลจากภาวะเสี่ยง หลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจทำให้เราสูญเสียการควบคุมความรู้สึกตัวเอง นอกใจกับติดยาเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ เราคิดว่าไม่น่าจะติด แค่นิดเดียวเองไม่น่าจะเป็นไร แล้วเรื่องใหญ่ก็ตามมาในที่สุด ตอนนี้ผิดถูกรู้หมดเหลือแค่อดไม่ได้ค่ะ
ไม่มีประโยคใดสมเหตุสมผลพอจะเป็นข้ออ้างที่จะไม่ยอมห่างจากเขา “ต้องทำงานที่เดิมค่ะ” “ต้องขึ้นรถไฟขบวนเดิมค่ะ” “อยู่ตู้เดียวกันตลอดเลยค่ะ” แค่ต่างคนต่างมีเจ้าของก็ต้องจบแล้วค่ะ ถ้าวันหนึ่งสามีเราไปเฝ้ารอเจอผู้หญิงคนไหนที่ไม่ใช่เราในรถไฟฟ้า
น้องจะชื่นใจตรงไหน คนที่เราอยากได้ ก็เป็นสามีคนอื่นด้วย เคยเป็นส่วนเติมเต็มของครอบครัวเราอยู่ดีๆ อยากหนีไปเป็นส่วนเกินของครอบครัวอื่นจริงๆหรือ? เป็นผู้กระทำเรามักไม่รู้สึก จะเจ็บลึกตอนถูกกระทำบ้าง ไม่อยากให้ใครทำแบบไหนกับเรา ก็อย่าทำแบบนั้นกับใคร ไม่อยากให้คนที่บ้านนอกใจ แล้วทำอย่างนั้นกับคนที่บ้านเราทำไม อย่าให้บ้านร้าวเพราะมือเราค่ะ ไม่ว่าจะบ้านเขาหรือบ้านเราก็ตาม
รถไฟฟ้าพาคนสองคนมาเจอกันแล้วก็ผ่านไป ต่างลงสถานีใครสถานีมัน ครอบครัวใคร ครอบครัวมัน เพราะต่างมีคนรอให้เรากลับบ้านทุกวันค่ะ
------------------------------
พบกับ "ดีเจพี่อ้อย" ใน ‘The OutLINE’ รายการที่จะพาไป “คุยนอกกรอบ ตอบนอกเส้น” โดยผู้ประกาศข่าวผู้ทรงพลัง “สุทธิชัย หยุ่น” ที่จะพูดคุยกับแขกรับเชิญสุดพิเศษในประเด็นที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน ทุกเรื่องราวของคนระดับประเทศ! จะถูกเปิดเผยที่นี่ วันพฤหัสบดีที่ 14 ก.พ. นี้ 2 ทุ่มตรง บน LINE TODAY เท่านั้น
