คมนาคม - รถร่วมฯ ขสมก.จับมือปฏิรูปรถเมล์ การันตีหารถใหม่นำร่อง 100 คันปีใหม่ ปาดหน้า ขสมก. “ภัทรวดี” ย้ำเอกชนรวมตัวเป็น 1 รายพร้อมอัปเกรดบริการเพื่อประชาชน ขอรัฐแก้ปัญหาจริงจัง วอน ขบ.จัดสัญญา 1 เส้นทางต่อ 1 ราย ลั่นมีรถใหม่ 2,000 คันในปี 61 ด้าน ขสมก.ถอนหนังสือ “เบสท์รินฯ”ทิ้งงาน ไร้แบล็กลิสต์ ร่วมเคาะเมล์ NGV 8 ก.ย.นี้
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (รถร่วมบริการ ขสมก.) ว่า กระทรวงคมนาคมได้ข้อสรุปร่วมกับผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.ที่มีสมาชิก 75 บริษัท โดยได้ข้อสรุปร่วมกับคมนาคม 3 ข้อ คือ 1. ผู้ประกอบการเห็นด้วยกับการปฏิรูปเดินรถโดยสารในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 2. ผู้ประกอบการทั้งหมดจะรวมตัวกันเป็นรายเดียวขอรับใบอนุญาตเดินรถ 7 ปี เช่นเดียวกับ ขสมก. ภายใต้เงื่อนไข จัดหารถเมล์ใหม่ และใช้ระบบ E-Ticket ระบบ GPS เนื่องจากหลักการปฏิรูปรถเมล์จะประมูล 1 เส้นทางต่อ 1 ผู้ประกอบการ เพราะปัจจุบันบางเส้นทาง เช่น สาย 8 มีถึง 4 ราย จึงจะให้ใบอนุญาตแบบชั่วคราว 2 ปีไปก่อน เพื่อประเมินว่ารายไหนให้บริการมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่หากผู้ประกอบการจะรวมตัวกันเป็น 1 รายได้จริงจะได้ 1 เส้นทางต่อ 1 รายเหมือน ขสมก.
3. กรณีรถร่วมฯ มีค้างชำระหนี้ค่าขากับ ขสมก.กว่า 800 ล้านบาทนั้น กรมการขนส่งฯ ในฐานะผู้กำกับ (Regulator) จะเป็นคนกลางหาทางแก้ปัญหาที่เป็นธรรมทั้ง ขสมก.และผู้ประกอบการ เพื่อเข้าสู่การปฏิรูปได้อย่างเต็มที่และไม่ให้กระทบต่อการปฏิรูป
“ทางสมาคมฯ ไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อทราบถึงนโยบายแผนการปฏิรูปรถโดยสารประจำทาง ซึ่งถือว่าได้ข้อสรุปที่ดี หลักการไม่มีปัญหา เอกชนจะรวมเป็น 1 รายและจัดหารถใหม่ ปรับปรุงบริการ คัดเลือกคนขับ ดังนั้น ขสมก.ได้รับการปฏิบัติอย่างไร เอกชนก็ต้องได้เช่นเดียวกัน การปฏิรูปจะทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลง มีการแข่งขัน มีคุณภาพมากขึ้น รถร่วมฯ ขนส่งผู้โดยสาร 1 ล้านคน/วัน ขสมก.ขนส่ง 1-1.3 ล้านคน/วัน”
สำหรับอัตราค่าโดยสาร กรมการขนส่งฯ จะศึกษาและพิจารณาตามต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งหากสูงเกินไปสำหรับประชาชนรัฐต้องการดูแล และจะต้องมีการอุดหนุนผู้ประกอบการ เพื่อให้เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยอาจจะนำภาษีล้อเลื่อนที่ส่งให้ กทม.มาใช้อุดหนุนในการเดินทางส่วนนี้ทั้งระบบ เป็นต้น
***รถร่วมฯ เตรียมหารถใหม่ 100 คัน นำร่องบริการปีใหม่ 61
ด้านนางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่า บริการที่ดี คุณภาพที่ดี มาจากต้นทุน ที่ผ่านมาผู้ประกอบการเป็นจำเลยของสังคม วันนี้รัฐบาลมีนโยบายเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ทางผู้ประกอบการทั้งหมดจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนได้ของขวัญปีใหม่ โดยสมาชิก 40 บริษัท มีรถประมาณ 2,000 คัน เมื่อนโยบายชัดเจน จะเร่งจัดหารถใหม่ทันที ทยอยนำรถใหม่มาวิ่งให้บริการล็อตแรกประมาณ 100 คันภายในปีใหม่ 2561 และจะครบ 2,000 คันภายในปี 2561 โดยเป็นรถปรับอากาศและระบบไฟฟ้า ลดมลภาวะ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ต้นทุนค่อนข้างสูง จะเสนอขอเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย โดยจะมีตั๋วเหมารายวัน 40 บาทเดินทางได้ทุกสายของรถร่วมฯ
***ขสมก.แจ้งยกเลิกหนังสือ “เบสทฺรินฯ” ทิ้งงาน เปิดทางร่วมชิงเมล์ NGV 489 คันรอบใหม่
นายสมศักดิ์กล่าวถึงโครงการจัดซื้อรถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) พร้อมซ่อมแซม และบำรุงรักษา 489 คัน ราคากลาง 3,389,710,819.50 บาท ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อครั้งที่ตนได้ทำหน้าที่รักษาการ ผอ.ขสมก. ยกเลิกสัญญาและทิ้งงานของบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ต่อมาอนุ กม.บอร์ด ขสมก.เห็นว่ากรณียกเลิกสัญญาเป็นกรณีหนึ่ง ส่วนการทิ้งงานถือว่าขั้นตอนยังไม่ครบยังอยู่ในช่วงที่ให้บริษัทชี้แจง โดยนายยุกต์ จารุภูมิ รักษาการ ผอ.ขสมก.ได้มีหนังสือยกเลิกคำสั่ง กรณีให้บริษัท เบสท์รินฯ เป็นผู้ทิ้งงานไปแล้ว
ด้านนายประยูร ช่วยแก้ว รองผอ.ฝ่ายเดินรถองค์การ ขสมก. กล่าวว่า การที่ยกเลิกหนังสือแจ้งเบสท์รินฯ ว่าเป็นผู้ทิ้งงานเนื่องจาก พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทฯไม่มีเจตนาทิ้งงาน โดยการส่งมอบรถล่าช้าเนื่องจากติดปัญหาเรื่องภาษีกับกรมสุลกากร ดังนั้นถือว่า เบสท์รินฯสามารถยื่นซองประมูลได้ เพราะ ตามระเบียบพัสดุ ไม่เคยเป็นผู้ทิ้งงาน ไม่เป็นผู้ขึ้นบัญชีดำ ขณะที่ตามนโยบายนายกฯ ต้องการมีรถเมล์ใหม่เป็นของขวัญปีใหม่ 2561 ขสมก.ขายซอง วันที่ 7-11 ส.ค.มีเอกชนซื้อซอง3 ราย คือ บริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ จำกัด ,บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และกิจการร่วมค้า เจวีซีซี ซึ่งมี บริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย กำหนดยื่นซอง 24 ส.ค. และเคาะราคาอี-อ็อกชั่น8 ก.ย. สรุปผลเสนอบอร์ดในก.ย.ลงนามในก.ย. และรถจะส่งมอบกันได้ช่วงปลายเดือนธ.ค. 60
ความเห็น 0