เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 13 สิงหาคม จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีรัฐมนตรีใหม่ ร่วมประชุมฯ ครั้งแรกเพื่ออนุมัติฯ ให้มีการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ออกไปอีก 40 ปี ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่กลับใช้ มาตรา 44 เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันฯ โดยมีเหตุผลดังนี้
1.ข้ออ้าง กทม.ใช้มาตรา 44 ขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว มี 2 ประเด็น คือ 1.1 ให้บีทีเอสรับหนี้แทนกทม. 1.2 ค่าโดยสารถูก เหลือ 65 บาทตลอดสาย มาเจรจาแลกกับการต่อสัมปทาน 2.กทม.อ้างว่าทำ market sounding แล้วไม่มีเอกชนสนใจ เลยต้องเจรจากับรายเดิมคือบีทีเอส 3.เรื่องนี้ผิดกฎหมายฯ เพราะสัญญาเหลือเป็น 10 ปี ทำไม ไม่รอสัญญาให้ครบค่อยเปิดประมูลใหม่ ซึ่งรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีคนเข้าร่วมประมูลฯ เรื่องหนี้ค่าก่อสร้างที่ รฟม.รับภาระอยู่ ทำไม ต้องโอนให้ กทม. แล้วเอาไปแลกกับการต่อสัมปทาน ถ้าจะโอนให้ กทม. รัฐก็จัดงบประมาณจ่ายให้ กทม.ไป เหมือนที่จ่ายให้ รฟม.ในสายอื่นๆ หรือให้ กทม.securitize เงินในอนาคตมาจ่ายก็ได้ เรื่องค่าโดยสารถูก ส่วนต่อขยาย กทม.เก็บถูกอยู่แล้ว 10-15 บาท ส่วนไข่แดงก็ให้บีทีเอส เก็บไปตามสัญญาจบ ปี 2573 จากนั้นประมูลใหม่ก็กำหนดค่าโดยสารใหม่ทั้งสายให้ถูกลงได้ สัญญาส่วนต่อขยายที่จ้างอยู่ก็หนี พ.ร.บ.ร่วมทุน โดย กทม. ใช้ KT-กรุงเทพธนาคม จ้างบีทีเอส (อ้างว่าไม่ใช่รัฐ ทั้งที่ กทม.ถือหุ้น 100%) เรื่องนี้ผิดมาเป็น 10 ปี เรื่องนี้อยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) การออก มาตรา 44 (เมษายน 62)ทั้งที่เรื่องนี้เป็น PPP ต้องทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 (บังคับใช้ มีนาคม 62) และในมาตรา 44 ยังระบุว่า เมื่ออนุมัติจบให้ถือว่าเป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน โดยอนุโลม เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการฟอกตัวสิ่งที่ทำผิดกฎหมาย เอื้อประโยชน์ เมื่อเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง มี พ.ร.บ.PPP บังคับใช้แล้ว ควรยกเลิกมาตรา 44 ฉบับนี้
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า 4.ที่ผ่านมา สคร.กระทรวงการคลัง และ สศช.ไม่มีใครเห็นด้วยกับ กทม. เพราะไม่มีเหตุผล และผิดกฎหมาย สุดท้ายกระทรวงมหาดไทย จึงขอใช้มาตรา 44 และเมื่อเข้าสภาฯ สภาก็มีมติฯไม่ให้ต่อขยายสัมปทาน 40 ปี 5.แม้ใช้ มาตรา 44 ออกคำสั่งที่ คสช.ที่ 3/2562 แล้วยังใช้เกินขอบเขตอำนาจของคำสั่งจากการแก้ไขสัญญาสัมปทาน เป็นการยกเลิกสัญญาสัมปทาน และได้ยื่นคัดค้านฯ ไว้ ดังนั้นถ้าวันที่ 13 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯยังดึงดันอนุมัติให้ต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เท่ากับว่า
1.จงใจใช้คำสั่งมาตรา 44 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 2.ไม่เคารพรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2562 ที่ตราขึ้นมาเอง 3.เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนฯ โดยหลีกหนีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม 4.ไม่เคารพ ต่อมติของสภา 5.รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่เพิ่งถวายสัตย์เข้ามารับตำแหน่งฯ ใหม่ยังไม่รู้เรื่องเลยมามัดมือชกให้อนุมัติฯ ในสัญญาที่เหลืออีก 10 ปี แสดงถึงความไม่ชอบมาพากลเร่งรีบทำไม ไม่ให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจใหม่ไปดูมาให้รอบคอบเสียก่อน ทั้งหมดนี้แสดงออกอย่างชัดเจน เหมือนที่ม็อบนักศึกษาว่ารัฐบาลนี้มีพฤติกรรมปล้นชาติชัดๆ จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ระงับยับยั้งเรื่องการต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปีก่อน ถ้าไม่เช่นนั้นต้องร้องเรียน ครม.ชุดนี้ (ทั้งใหม่และเก่า) ต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบต่อไป
