โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

มารู้จัก "คอสตาส ซิมิคัส" ว่าที่แข้งใหม่ “หงส์แดง”

Soccersuck

เผยแพร่ 10 ส.ค. 2563 เวลา 16.06 น. • Soccersuck


แม้ ณ​ เวลานี้ “เดอะ ค็อป” จะอยู่ในฐานะ “แชมป์ประเทศ” แต่เชื่อว่าความรู้สึกในการเตรียม “ป้องกันแชมป์” ฤดูกาลหน้ามันไม่สปาร์คจอยเอาซะเลย
เพราะด้วยพิษโควิด-19 ทำให้ FSG ไม่มีงบใหญ่ให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ช้อปปิ้งจนเป็นเหตุทำให้เสีย ติโม แวร์เนอร์ ให้ เชลซี ดังที่เราทราบกันดี
การจะซื้อนักเตะที่อยู่ในระดับ “top” ในปีนี้คงต้องขายออกสถานเดียว ลิสรายชื่อในโครงการ “ขายเพื่อสิ่งที่ดีกว่า” นำโดย มาร์โก กรูยิช, แฮร์รี่ วิลสัน และ เชอร์ดาน ชาร์กิรี่ นี่คือ 3 ตัวความหวังที่อาจทำให้ได้เงินกลับมาราวๆ 50 ล้านปอนด์ (ถ้าไม่มีโควิดน่าจะทะลุ 60 ได้ไม่ยาก)
แต่เนื่องด้วยหลายทีมรัดเข็มขัดทำให้การจะขายนักเตะในราคาเกิน 15 ล้านปอนด์+ ในปีนี้อาจจะยากเต็มกลืน
ดังนั้นจึงเหลืองบเบาๆที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ใช้จ่ายกับนักเตะโนมเนมอย่าง คอสตาส ซิมิคัส ในราคา 11.75 ล้านปอนด์
นักเตะกำลังจะเป็น “เด็กหงส์” ในไม่ช้านี้หลังอยู่ในระหว่างเข้ารับการตรวจร่างกายโดยตกลงเงื่อนไขส่วนตัวไปเรียบร้อยแล้วด้วยสัญญายาวถึง 2025
ชัดเจนครับที่ คล็อปป์ ต้องการ “back up” ในตำแหน่งแบ็คซ้ายหลัง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ถูกใช้งานหนักจนนักเตะกรอบเกรียมจนฟอร์มหลุดในช่วงท้ายซีซั่น
ถ้าเป็นยุคผู้จัดการทีมคนอื่นๆเชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลคงถล่มแหลกเพราะไม่เชื่อน้ำยาว่านักเตะตลาดล่างจะเข้ามายกระดับอะไรได้
แต่เราได้ประจักษ์สายตากันไปแล้วกับในรายของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่ย้ายมาจากทีมตกชั้นอย่าง ฮัลล์ ซิตี้ ในราคา 8 ล้านปอนด์แต่ตอนนี้แบ็คทีมชาติสก็อตแลนด์ level up อยู่ในกลุ่มระดับแนวหน้าไปแล้ว
การปั้นนักเตะของ JK หลายต่อหลายคนทำให้แฟนบอลรู้สึกว่าใครก็ตามที่ย้ายเข้าต้องมี “ของ” ไม่มากก็น้อย
บวกกับสายตาของแมวมองที่กว่าจะซื้อนักเตะซักคนไม่ว่าจะราคาแพงหรือถูกมีการเฝ้าดูวิเคราะห์กันอย่างหนักทำให้ “หงส์แดง” ยุคนี้ใช้เงินทุกเพนนีทุกปอนด์คุ้มค่ามากกว่าตำน้ำพริกเหมือนในอดีตอย่างไม่ต้องสงสัย
คอสตาส ซิมิคัส เขาคือใคร มีดีอย่างไร ปูมหลังเป็นอย่างไร เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆกันครับ…
แบ็คซ้ายชาว กรีก วัย 24 ปีเจ้าของความสูง 178 ซม. (เท่าสายควัน) เป็นนักเตะเยาวชนของ เนอาโปลี ธีสสาโลนิกิ และ พานเซร์ราอิกอส ก่อนย้ายมาเล่นให้ทีมใหญ่อย่าง โอลิมเปียกอส ในปี 2014
ซิมิคัส ประเดิมตัวจริงให้ “กอส” ในปี 2015 แต่ด้วยอายุอานามเพียง 19 ปียังเร็วไปที่จะเป็นตัวหลักให้สโมสรที่ดังที่สุดใน กรีซ ซึ่งมีผู้สนับสนุนกว่า 4 ล้านคนในประเทศและอีก 1 ล้านคนนอกประเทศ
แบ็คหน้าละอ่อนจึงถูกส่งให้ เอสเบิร์ก “ลีก เดนมาร์ก” ยืมตัวไปเล่นในครึ่งซีซั่นหลังของฤดูกาล 2016/17 โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 13 เกม
ในซีซั่นต่อมา ซิมิคัส ถูกส่งไปเก็บเวลอีกหน คราวนี้แข็งขึ้นคือ วิลเลียม ทเว ในลีก ฮอนแลนด์
ที่นี่เองที่พี่แกฉายแววเด่นลงสนามไปถึง 33 เกมเป็นตัวจริง 32 ยิง 3 แอสซิสต์ 3 แต่สโมสรได้อันดับ 13 จากทั้งสิ้น 18 ทีม
ลูกตีลังกายิงของ ซิมิคัส ในเกมชนะ อูเทรทช์ 3-2 ได้รับการโหวตเป็นประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนรวมถึงเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคม 2018
เมื่อเล่นได้ขนาดนี้ในวัย 22 ปีจึงถึงเวลาอันเป็นสมควรเมื่อ เปรโดร มาร์ตินส์ กุนซือจึงไม่ให้ใครยืมแล้วและเก็บไว้สู้ศึกในฤดูกาล 2018-19
แบ็คซ้ายจอมพลิ้วผู้นี้เป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอให้ โอลิมเปียกอส ตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุดและมีส่วนช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกในปีนี้
สไตล์ของ ซิมิคัส เข้ากับระบบ “หงส์แดง” เป็นอย่างมากเมื่อชอบเติมเกมรุกจนช่วย โอลิมเปียกอส ทำแอสซิสต์ไป 7 หน
ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมหน้าที่หลักคือเกมรับ ความขยันไล่กวดยาม “พื้นที่ดูแล” ถูกคุกคามคืออีกจุดเด่นที่ทำให้ “แมวมอง” แชมป์พรีเมียร์ลีก ส่งซิกให้ JK ว่าหมอนี่เหมาะที่จะมาเล่นใน แอนฟิลด์ เอามากๆ
ลูกครอสและการเลี้ยงก็เป็นอีกจุดแข็งของ ซิมิคัส โดยมีค่าเฉลี่ย “ครอส” 1.7 ครั้งต่อเกมซึ่งการ “เลี้ยง” ก็มีตัวเลขเฉลี่ยเท่ากัน
นอกจากนี้ด้วยความที่คล่องและยุกยิกเก่งเลยถูกทำฟาว์ลบ่อยไม่น้อยที่ 1.8 หนต่อเกมและจ่ายบอลสำคัญ 1.3 หนต่อ 90 นาที
ในส่วนของเกมรับอย่างที่บอกไม่ขี้เหร่ “เข้าบอล” 3.4 หนต่อเกมและ “เคลียร์บอล” 2.8 หนต่อเกมรวมถึง “ตัดบอล” 2.2 หน
ซิมิคัส เคยลิ้มลองรสชาติกลิ่นอายของ พรีเมียร์ลีก มาบ้างแล้วหลังเคยเจอกับ สเปอร์ส, อาร์เซนอล และ วูลฟ์ ทั้งใน แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก ในซีซั่นนี้มาแล้ว
แบ็คผู้นี้เคยสร้างฝันร้ายให้ อดาม่า ตราโอเร่ เจ้าของฉายาปีก “เบบี้ออย” มาแล้วครับ เรียกว่าสื่อแคปชั่น “ซิมิคัส เก็บ ตราโอเล่ เข้ากระเป๋า” เกมที่ โอลิมเปียกอส ชนะ 1-0 ในเลกสอง
จึงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรซ์ใดๆที่ ซิมิคัส จะเป็นนักเตะที่ “เข้าบอล” ติดชาร์ตอันดับ 4 ในรายการ ยูโรป้า ลีกที่ค่าเฉลี่ย 4.3 หนต่อเกม
ครับ เมื่อมีจุดแข็งแล้วยังไงก็ต้องมีจุดอ่อน คือแกเล่นเท้าซ้ายอย่างเดียว เท้าขวามีเอาไว้ให้อวัยวะครบ 32 เท่านั้น ถ้าคู่แข่งทำการบ้านมาดีๆจะรอดักซ้ายแล้วบีบให้ตัดเข้าขวาอย่างเดียว
อีกจุดอ่อนที่ต้องมาเสริมในรั้ว แอนฟิลด์ กันต่อคือการ “เก็บบอล” เพราะแม้จะเลี้ยงเก่งคล่องแคล่วแต่มักเสียบอลบ่อย
1.4 หนต่อเกม นี่คือค่าเฉลี่ยการ “ควบคุมบอล” และ “เสียบอล” 0.6 หนแต่ยังดีที่แกขยันจึงมาแก้ตัวแย่งบอลกลับได้บ่อยครั้ง
เดอะ ค็อป จงภูมิใจซะนะครับเพราะ สเปอร์ส, อาร์เซนอล และ เลสเตอร์ ต่างก็ให้ความสนใจอยากได้ไปร่วมทีมในขณะที่ กลาส์โกว์ เรนเจอร์ส ก็แอบเล็งตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ส่วนอดีตเต็งจ๋าอย่าง นาโปลี ก็เคยเอาจริงเอาจังกับ ซิมิคัส เอามากๆเมื่อต้นปีหลังแมวมองส่งรายงานฟอร์มในเวที แชมเปี้ยนส์ลีก บอกตัวนี้ไม่ธรรมดา
“เขาเป็นนักเตะที่ดีคนนึง เป็นแบ็คจอมบุกดาวรุ่งซึ่งเล่นได้ดีเอามากๆ” จอห์น ฟานท์ ชิพ โค้ชทีมชาติ กรีซ กล่าวถึงลูกทีมที่เพิ่งติดทีมชาติไปได้แค่ 3 นัด
“เขามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับการได้ลงเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ ผมไม่แปลกใจเลยที่หลายทีมให้ความสนใจเขา, ถ้า นาโปลี เป็นหนึ่งในนั้มันก็เข้าใจได้แหละ”
ในเกมอาชีพการ “แข่งขัน”ภายในทีมจะทำให้เกิดการพัฒนาโดยตรงในตำแหน่งนั้นๆ ดังนั้น โรเบิร์ตสัน จะยิ่งต้องเค้นฟอร์มตัวเองให้สม่ำเสมอกว่าเดิมหลัง “ผูกขาด” แบ็คซ้ายมาตลอด 18 เดือนหลังสุด
อย่าคิดว่า ซิมิคัส จะเข้ามาเป็น “อะไหล่สำรอง” ถ้าคิดแบบนี้อันตราย!!
ลองดูตัวอย่างตอน อัลแบร์โต้ โมเรโน่ เป็นตัวจริงครับ ชื่อชั้นเหนือกว่าหลายขุมแต่ท้ายที่สุด “สายควัน” ที่มาจากทีมตกชั้นค่อยๆฝึกปรือพัฒนาจนทำให้ฝ่ายแรกนั่งยาวก่อนย้ายออกไปเลย
เดอะ ค็อป คงไม่ได้เห็นนักเตะค่าตัวแพงๆหรือชื่อดังๆในตลาดรอบนี้ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ก็ถือซะว่าหาเรื่องลุ้นฟอร์มนักเตะป้ายแดงชื่อชั้นโนมเนมฆ่าเวลาไปพลางๆก่อน
ดีไม่ดีเราอาจได้เห็นแข้ง “ซุปตาร์” มาประดับรั้วแอนฟิลด์เพิ่มอีกคนด้วยต้นทุนที่แสนถูกอีกคนครับ…

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0