โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

พรีเมียร์ลีกกลับมาใช้กฎเปลี่ยนตัวสำรอง 3 คนในซีซั่นหน้า

TNN ช่อง16

อัพเดต 06 ส.ค. 2563 เวลา 14.29 น. • เผยแพร่ 06 ส.ค. 2563 เวลา 14.29 น. • TNN Thailand
พรีเมียร์ลีกกลับมาใช้กฎเปลี่ยนตัวสำรอง 3 คนในซีซั่นหน้า
สโมสรในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ทำการลงมติยกเลิกกฎการเปลี่ยนตัว 5 คน กลับมายึดเปลี่ยนสำรองได้ 3 คนตามมาตรฐานเดิม ในฤดูกาลหน้า

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีการประชุมทั้ง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีก เพื่อร่วมลงคะแนนโหวตเกี่ยวกับกฎการเปลี่ยนตัวที่จะใช้สำหรับฤดูกาลหน้า ซึ่งสรุปให้ยกเลิกกฎเปลี่ยน 5 คน กลับมาใช้ 3 คนตามเดิม

จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกต้องหยุดระงับการแข่งขันไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้กลับมารีสตาร์ตเตะต่อในเดือนมิถุนายน ทาง พรีเมียร์ลีก จึงได้เปลี่ยนแปลงกฎการเปลี่ยนตัวชั่วคราว โดยอนุญาตให้ส่งรายชื่อสำรองได้ 9 คน และเปลี่ยนตัวได้ 5 คน เพื่อป้องกันนักเตะบาดเจ็บ หลังต้องแข่งขันอย่างต่อเนื่องในช่วงท้ายฤดูกาล 2019/20

อย่างไรก็ตาม จากการประชุมล่าสุด ทีมพรีเมียร์ลีก ได้โหวตให้การแข่งขันในฤดูกาลหน้า กลับมาใช้กฎส่งชื่อตัวสำรองได้ 7 คน และเปลี่ยนตัวได้ 3 คนตามมาตรฐานเดิม เพราะกลัวว่าบิ๊กซิกซ์จะได้รับความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้ เชลซี เป็นสโมสรที่ได้เสนอให้ใช้กฎการเปลี่ยนสำรองได้ 5 คน จาก 9 คนต่อไปในซีซั่นหน้า และเหล่าทีมต้นตารางก็เห็นชอบ อย่างไรก็ตามกลุ่มท้ายตารางลงคะแนนเสียงคัดค้าน เพราะพวกเขามีความกังวลว่า หากสามารถเปลี่ยนผู้เล่นสำรองได้มากขึ้น สโมสรบิ๊กซิกซ์จะเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้นไปอีก

โดยกฎของลีก ระบุว่า ต้องมีคะแนนเสียงโหวตอย่างน้อย 14 เสียง เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงใดๆ จึงจะนำมาใช้เป็นบทสรุปได้ ซึ่งมีแค่ 9 ทีมที่อยากจะใช้กฎเปลี่ยนตัว 5 คน นอกจากนั้นยืนยันจะยึดกฎเปลี่ยนสำรอง 3 คนตามเดิม ทำให้ซีซั่นหน้าฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะกลับมาใช้กฎการเปลี่ยนตัว 3 คน จากสำรอง 7 คนตามปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หวั่นแข้งเจ็บ!นูโน่หวังพรีเมียร์ลีกให้ทีมเล่นถ้วยยุโรปพักมากขึ้น

บอร์นมัธเล็งดึง "เทอร์รี่" นั่งแท่นตำแหน่งกุนซือแทนที่ "ฮาว"

ประกาศแล้ว! อินเตอร์ยืนยันคว้า "อเล็กซิส" จากแมนยูร่วมทัพแบบถาวร

เกาะติดข่าวที่นี่ 

website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand 
facebook live : TNN Live 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNONLINE 
Youtube Official : TNNThailand 
Instagram : @tnn_online 
TIKTOK : @tnnonline

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0