ที่ศาลเจ้าพ่อบึงกลีบเมฆ บริเวณโคนต้นไทรริมบึงกลีบเมฆ หมู่ 5 ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นศาลที่สร้างจากไม้หลังคาสังกะสีกว้าง 1.20 เมตร ยาว 1.50 เมตร สูง 1 เมตร ด้านในศาลพบมีซากหัวกะโหลกควายอยู่เป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ภายในศาลพร้อมด้วยพวงมาลัย ดอกไม้สดและกระถางธูปตั้งอยู่ติดกับศาลปูนทรงไทยหลังใหญ่อยู่ใต้ต้นไทรริมบึง ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านที่มักจะมีการบนบานศาลกล่าวให้หายป่วยและขอโชคลาภนำไปเสี่ยงดวงกันเป็นประจำ
นายบุญส่ง แจ้งปุย อายุ 83 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เล่าให้ฟังว่า ในอดีตที่ผ่านมาศาลเจ้าพ่อบึงกลีบเมฆ ตั้งอยู่โคนต้นไทรขนาดใหญ่ติดกับบึงน้ำธรรมชาติเป็นที่สิงสถิตจระเข้เจ้าพ่อ ชาวบ้านจะพบจระเข้ตัวขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นประจำตอนนำละครมาแก้บนทุกปี
ส่วนซากกะโหลกควายที่อยู่เต็มศาลนั้นในอดีตที่ผ่านมาจะมีการเลี้ยงควายในหมู่บ้านเมื่อควายเจ็บป่วยก็จะมาทำการบนบานขอให้เจ้าพ่อบึงกลีบเมฆช่วยรักษา เมื่อควายหายป่วยแล้วก็ให้ผู้ที่ดูแลศาลเจ้าพ่อทำการเลี้ยงดูต่อไป เมื่อเสียชีวิตลงทางผู้ดูแลก็นำซากหัวกะโหลกควายมาตั้งไว้ที่บนศาล
ส่วนเรื่องราวที่พบเห็นจระเข้เจ้าพ่อก็เหลือเพียงการเล่าขาน เนื่องจากมีการสร้างถนนเข้ามาใช้ในการเดินทาง ส่วนบึงก็เริ่มตื้นเขิน แต่ความศรัทธายังคงมีอยู่ในใจของชาวบ้าน ซึ่งหากเจ็บไข้เมื่อใดก็จะมาบนบานขอให้เจ้าพ่อช่วยเหลือกันเป็นประจำ และที่ไม่พลาดเรื่องการหาตัวเลขไปเสี่ยงดวงจะพบเห็นชาวบ้านที่ได้โชคลาภจะมาแก้บนให้เห็นอยู่เป็นประจำ
