11 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ร.ต.อ.สำเร็จ รักษาวัฒนะ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่า มีคนเสียชีวิตภายในห้องพักคนงาน โรงสีข้าวแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยราช จำนวน 2 ศพ เป็นชาย 1 ศพ หญิง 1 ศพ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยราช และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพ น.ส.บังอร หิ้วขุนทด อายุ 42 ปี ชาว ต.ห้วยราชา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอนโดยมีผ้าห่มคลุมร่างไว้ เมื่อเปิดผ้าห่มออกพบว่า ผู้ตายอยู่ในสภาพเปลือยกายไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า
จากการตรวจสอบสภาพศพ เบื้องต้นพบมีรอยถูกของมีคมฟันกลางศรีษะเป็นแผลฉกรรจ์ ใบหน้าและตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ทั้งนี้รอบบริเวณที่นอนยังพบรอยคราบเลือดหลายจุด ข้าวของกระจัดกระจาย เศษแก้วเกลื่อนห้อง ทั้งยังพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือที่มีข้อความว่า “อรพี่ขอโทษ เกิดชาติหน้า ขอให้เรา มารักกันอีก” และยังพบมีดคอด้ามยาว ประมาณ 1 เมตร เปื้อนเลือดวางอยู่ภายในห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินไปตรวจสอบบริเวณห้องน้ำ ก็พบศพนายประดิษฐ์ มาตรแสน อายุ 48 ปี ชาว ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสามี ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอเสียชีวิตในห้องน้ำในสภาพเปลือยเช่นกัน จึงได้ให้หน่วยกู้ภัยนำร่างลงมาวางที่พื้น ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย มีเพียงรอยช้ำที่ลำคอจากการผูกคอตายเท่านั้น จึงสันนิษฐานว่านายประดิษฐ์ น่าจะลงมือทำร้ายตบตี น.ส.บังอร ภรรยา ก่อนจะใช้มีดขอฟันซ้ำที่บริเวณศรีษะจนเสียชีวิต หลังจากนั้นก็ใช้ผ้าห่มคลุมร่างเอาไว้ แต่พอรุ่งเช้าอาจจะรู้สึกสำนึกผิดจึงได้ผูกคอตายตาม
จากการสอบถาม นายนิวัติ นะเรรัมย์ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นคนพบศพคนแรก เล่าว่า ตนและนายประดิษฐ์ ที่ผูกคอตายทำงานเป็นคนงานในโรงสีข้าวด้วยกัน ที่ผ่านมาก็จะแวะมาเล่นกันนายประดิษฐ์เป็นประจำ โดยเมื่อคืนนี้(10 ส.ค.) ประมาณ 2 ทุ่ม ก็ได้แวะมาหานายประดิษฐ์ที่ห้อง ก็ยังเห็นนั่งดื่มเหล้ากับภรรยาอยู่ ซึ่งสองผัวเมียจะดื่มเหล้ากันเกือบทุกวัน พอเมาแล้วก็จะชอบมีปากเสียงกันตลอด ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องหึงหวงเพราะเวลาเมาแล้วนายประดิษฐ์จะชอบระแวงภรรยา เห็นคุยกับผู้ชายคนไหนไม่ได้จะลงมือทุบตีภรรยาทุกครั้ง แต่เห็นว่าเป็นเรื่องผัวเมียจึงไม่อยากยุ่ง แต่พอประมาณบ่าย 3 โมงวันนี้ ไม่เห็นทั้งคู่ออกมาจากห้องจึงไปเคาะประตูเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ จึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นภรรยานอนอยู่บนที่นอนโดยมีผ้าห่มคลุมอยู่ แต่พอเปิดผ้าห่มออกดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ขณะที่ น.ส.อรุณนภา รอบแคว้น อายุ 27 ปี เพื่อนข้างห้อง บอกว่า ทั้งสองต่างเคยมีครอบครัวมาแล้ว และเพิ่งมาอยู่กินด้วยกันประมาณ 2-3 ปี เวลาเมาก็จะปากเสียงทะเลาะกัน และผู้ชายก็จะตบตีฝั่งผู้หญิงเป็นประจำจนเป็นเรื่องปกติ โดยเมื่อคืนประมาณ 3 – 4 ทุ่ม ก็ยังได้ยินเสียงทะเลาะกัน และเสียงคล้ายกับจับหัวโคกพื้นหลายครั้ง และก่อนที่ตนเองจะเข้าไปนอนก็ยังเห็นผู้หญิงพยายามคลานออกมาที่ประตู ก็ยังตะโกนบอกว่ากลับบ้านไปจะอยู่ให้เขาตีทำไม สักพักผู้ชายก็มาลากผู้หญิงกลับเข้าไปในห้อง ก็คิดว่าเมาแล้วทะเลาะกันเหมือนที่ผ่านมา จึงไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือช่วยเหลือเพราะไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ซึ่งคาดว่าผู้หญิงน่าจะถูกทำร้ายตายแต่เมื่อคืนเพราะได้ยินเสียงเงียบตอนเที่ยงคืน แต่ตอนเช้าประมาณ 6 โมง ยังเห็นผู้ชายเดินออกมาจากห้อง ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องแล้วไม่ออกมาอีก กระทั่งบ่าย 3 โมง ไม่เห็นออกมาทำกับข้าวและเอาหญ้าให้วัว จึงให้นายนิวัติ เดินไปดูก็พบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว
