ปารีส, 9 ส.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ (8 ส.ค.) ทางการแคว้นอีลเดอฟร็องส์ของฝรั่งเศส เตรียมออกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนที่มีอายุ 11 ปีขึ้นไป ในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่นของอีลเดอฟร็องส์ ซึ่งรวมถึงกรุงปารีสและพื้นที่โดยรอบ เริ่มตั้งแต่เช้าวันจันทร์ (10 ส.ค.)
ทางการระบุว่า "ตัวชี้วัดทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าไวรัสได้แพร่ระบาดในภูมิภาคนี้อีกครั้ง นับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม" พร้อมเสริมว่าคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 เดือน
ตำรวจปารีสกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่าจะมีการเผยรายชื่อพื้นที่ที่อยู่ภายใต้คำสั่งดังกล่าวอย่างชัดเจนอีกครั้งช่วงเย็นวันอาทิตย์ (9 ส.ค.) โดยในกรุงปารีสนั้นจะครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยว ตลาดเปิด พื้นที่รอบสถานีรถไฟ พื้นที่ริมฝั่ง แม่น้ำแซน คลองแซงต์ มาร์แตง รวมถึงสถานที่อื่นที่การปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมนั้นทำได้ยาก
ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์เดียวกัน ศาลาว่าการกรุงปารีสประกาศว่ากำลังพิจารณาออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะกลางแจ้งที่มีผู้คนพลุกพล่าน หลังรัฐบาลกลางมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดำเนินการยกระดับมาตรการ เพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน
หลายเมืองในฝรั่งเศสได้ออกคำสั่งสวมหน้ากากในสถานที่กลางแจ้งแล้ว โดยประชาชนที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับจะถูกปรับเงินจำนวน 135 ยูโร (ประมาณ 4,900 บาท) ส่วนผู้ที่ฝ่าฝืนข้อบังคับมากกว่า 3 ครั้งภายในระยะเวลา 1 เดือนจะต้องโทษจำคุก 6 เดือน
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ (7 ส.ค.) ฝรั่งเศสรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 2,288 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขผู้ป่วยรายวันสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน นอกจากนั้น ตั้งแต่รัฐบาลฝรั่งเศสเริ่มทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. มีการพบการระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อน 787 กรณี ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมี 288 กรณีที่มีผู้ป่วยซึ่งยังรักษาตัวอยู่