โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ปธ.คกก.อัยการ ‘อรรถพล’ ยื่นหนังสือถือ ‘อัยการสูงสุด’ ชี้! คำสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา’ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังเคยมีคำสั่งยุติการร้องขอความเป็นธรรมไปก่อนหน้าแล้ว

สวพ.FM91

อัพเดต 05 ส.ค. 2563 เวลา 06.08 น. • เผยแพร่ 05 ส.ค. 2563 เวลา 06.08 น.
ปธ.คกก.อัยการ ‘อรรถพล’ ยื่นหนังสือถือ ‘อัยการสูงสุด’ ชี้! คำสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา’ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังเคยมีคำสั่งยุติการร้องขอความเป็นธรรมไปก่อนหน้าแล้ว

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ทำหนังสือบันทึกข้อความถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด หัวข้อเรื่อง การแถลงข่าวผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ความว่า ตามที่ คณะทำงานฯ แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการพิจารณาสั่งคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ซึ่งสรุปความได้ว่า คณะทำงานฯ เห็นว่า ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถผู้อื่นเสียหายและมีผู้ถึงแก่ความตายน่าจะมีพยานหลักฐานใหม่ อันสำคัญแก่คดี ตาม ป.วิอาญา มาตรา 147 อันจะทำให้พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินคดีอีกครั้งได้ภายในกำหนดอายุความและควรมีการแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหา ในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เพิ่มเติมด้วย ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับการใช้ดุลพินิจของพนักงานอัยการผู้เกี่ยวข้องในการสั่งคดีควรพิจารณาดำเนินการตามนัยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 ต่อไป และมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับการ้องขอความเป็นธรรมให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
 
ข้าพเจ้า ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังมีประเด็นอันควรพิจารณาเกี่ยวกับข้อกฎฆมายที่เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ในการสั่งสำนวนของพนักงานอัยการ กรณีมีคำสั่งไม่ฟ้องและผลของการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องเพิ่มเติมอีกดังนี้ (1.) กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งที่ไม่ฟ้องและคำสั่งนั้นไม่ใช่คำสั่งของอัยการสูงสุดเมื่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้อง จึงเป็นคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องหากมีการแย้งคำสั่งของพนักงานอัยการให้ส่งสำนวนพร้อมกับความเห็นที่แย้งไปยัง อัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาดเมื่ออัยการสูงสุดชี้ขาดไม่ฟ้อง จึงเป็นคำสั่งเด็กขาดไม่ฟ้องคำสั่งในขั้นตอนต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ต้องเป็นคำสั่งโดยถูกต้องตามอำนาจหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและระเบียบฯ ที่เกี่ยวข้องด้วยจึงจะสมบูรณ์ตามกฎหมาย ในกรณีที่เดิมพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องไว้แล้ว แต่มีการกลับคำสั่งเป็นคำสั่งไม่ฟ้องตามระเบียบฯ ข้อ 6 กำหนดว่า “ในกรณีที่เห็นควรกลับความเห็นหรือกลับคำสั่งเดิมให้เสนอตามลำดับชั้นจนถึง อธิบดี เพื่อพิจารณาสั่ง เว้นแต่ ความเห็นหรือคำสั่งเดิมนั้นเป็นของ อธิบดี ให้เสนออัยการสูงสุด หรือ รองอัยการสูงสุด ผู้ได้รับมอบหมายเพื่อพิจารณาสั่ง”
 
(2.) กรณีคดีมีการร้องขอความเป็นธรรมระเบียบฯ ข้อ 48 (การสั่งคดีกรณีร้องขอความเป็นธรรม) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2554 กำหนดว่า “คดีที่มีการร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่จะมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทุกข้อหาหรือบางข้อหาให้เสนอสำนวนพร้อมความเห็นตามลำดับชั้นถึง อธิบดี เพื่อพิจารณาสั่ง กรณีที่มีคำสั่งฟ้องให้ดำเนินการให้ได้ตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องต่อศาล และให้รีบทำบันทึกส่งคำร้องขอความเป็นธรรมสำเนาความเห็นและคำสั่งพร้อมทั้งสำเนารายงานการสอบสวนเสนอ อธิบดี เพื่อทราบกรณีดังกล่าวในวรรคก่อน หากเป็นกรณีที่ต้องกลับความเห็นหรือกลับคำสั่งเดิม หรือต้องถอนฟ้องให้นำความในข้อ 6 วรรคท้าย หรือ ข้อ 128 มาใช้บังคับแล้วแต่กรณี
 
(3.) กรณีตามคดีนี้ ได้ความว่า ในการ้องขอความเป็นธรรมหลายครั้งของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหา การร้องขอความเป็นธรรมในชั้นหลังที่มีประเด็นพิจารณาถึงคำให้การ รองศาสตร์จารย์ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม และรายงานพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วยอัยการสูงสุด (ร.ต.ต.พงษ์นิติ ยุทธภัณฑ์บริภาร) ได้สั่งให้ยุติการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาที่ 1 แล้ว ดังนั้น ต้องถือว่าคำสั่งฟ้องที่สั่งไว้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
 
(4.) หลังจากนั้น หากมีกรณีร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาสู่การพิจารณาของพนักงานอัยการอีก การที่พนักงานอัยการคนใดจะหยิบยกเพื่อพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมและมีคำสั่งใดๆ ใหม่ ต้องมีคำสั่งจากอัยการสูงสุดก่อน จึงจะดำเนินการได้ เพราะอัยการสูงสุดได้วินิจฉัยไว้แล้วให้ยุติการพิจารณากรณีร้องขอความเป็นธรรม หากพนักงานอนัยการผู้ใดมีการหยิบยกการร้องขอความเป็นธรรมขึ้นพิจารณาอีก และมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมโดยมิได้ขอความเห็นชอบจาก อัยการสูงสุด ก่อนไม่น่าจะกระทำได้ และจะมีผลการดำเนินการในขั้นตอนต่อๆ มาทั้งหลายไม่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบฯ ทำให้คำสั่งต่างๆ ที่มีตามมารวมทั้งคำสั่งไม่ฟ้องไม่อาจมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายได้
 
(5.) กรณีที่ รองอัยการสูงสุด หยิบยกการร้องขอความเป็นธรรมขึ้นพิจารณาอีกครั้งทั้งที่ อัยการสูงสุด มีคำสั่งให้ยุติแล้ว จึงมีนัยสำคัญที่ควรพิจารณาว่า เกิดผลตามที่กล่าวมาตามข้อ 4 หรือไม่ หากเป็นผลต้องถือว่า คำสั่งไม่ฟ้องยังไม่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบฯ การส่งสำนวนพร้อมความเห็นไปให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วไม่แย้งคำสั่งก็หาเป็นผลให้เกิดเป็นคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องที่ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมายไม่ และคำสั่งฟ้องเดิมของ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ต้องถือว่ายังมิได้ถูกกลับและมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายอยู่
 
(6.) ในการพิจารณากรณีการร้องความเป็นธรรมครั้งหลังจากที่ อัยการสูงสุดท่านเดิม (ร.ต.อ.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริหาร) มีคำสั่งให้ยุติการพิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมก่อนหน้านั้นไปแล้ว ดังนั้น พนักงานอัยการผู้มีอำนาจพิจารณาดำเนินการสั่งคดีดังกล่าวได้อีกก็แต่เฉพาะ อัยการสูงสุด เท่านั้น รองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมายหรือปฏิบัติราชการแทนไม่มีอำนาจสั่งคดีดังกล่าว หากอัยการสุงสุดไม่ได้มีคำสั่งใด คำสั่งฟ้องของอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ก้ยังคงใช้บังคับอยู่เช่นเดิม แต่ถ้าอัยการสูงสุด สั่งให้พิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้งหนึ่ง อัยการสูงสุดก็มีอำนาจสั่งยุติการพิจารณาการร้องขอความเป็นธรรมหรือสั่งสอบสวนเพิ่มเติม หรือกลับคำสั่งฟ้องตามความเห็นเดิมเป็นสั่งไม่ฟ้องก็ได้ ตามดุลพินิจที่เห็นว่าถูกต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับพยานหลักฐานในสำนวน
 
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
 
อนึ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและมีผลต่อความเชื่อถือศรัทธาที่ประชาชนมีต่อองค์กรอัยการ จึงใคร่ขอนำความเห็นของข้าพเจ้าตามบันทึกนี้ เผยแพร่ทางสื่อต่างๆ ให้ประชาชนได้ทราบด้วย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ดูเพิ่มเติม สวพ.FM91