บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 10 ส.ค. 2563
สรุป ราคาทองคำวันศุกร์ปิดร่วง 32.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาเผชิญกับแรงกดดันหลายประการ ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนัก ปัจจัยดังกล่าวมีดังนี้
1) แรงขายทำกำไร หลังจาก 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทะยานขึ้นกว่า 265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากราคาเปิดตลาดของวันที่ 20 ก.ค. ที่ 1,809 ดอลลาร์ต่อออนซ์สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันศุกร์ที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์
2) การเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด อาทิ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.763 ล้านตำแหน่งในเดือน ก.ค. ซึ่ง“สูงกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.48 ล้านตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 10.2% ซึ่ง “ต่ำกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.6%
3) การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือน ก.ค. ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.69%
4) การปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังนักลงทุนเทขายพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยส่งผลกดดันทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย
ปัจจัยที่กล่าวมากระตุ้นแรงขายจนราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 2,015 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันศุกร์ ก่อนที่จะมีแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาในตลาดท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -5.84 ตัน
สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)
คำแนะนำ เข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว แนะนำทยอยปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 2,041-2,047 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เพื่อรอซื้อใหม่หากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ 2,015-2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
