โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

อัพเดท 5 หุ้นไอพีโอ เตรียมเทรด SET ปี 2565

Wealthy Thai

อัพเดต 10 ส.ค. 2566 เวลา 00.22 น. • เผยแพร่ 08 ธ.ค. 2564 เวลา 02.11 น. • ศุภมาศ ศรีขำ

เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายของปี 2564 แล้ว ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทยยังโดนกดดันจากการระบาดของ Covid-19 ซึ่ง Omicronเป็นเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่น่ากังวล ปัจจุบันตรวจพบผู้ติดในหลายประเทศ ในขณะที่ความเห็นเรื่องวัคซีนและความรุนแรงของอาการยังไม่ชัดเจน ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวนสูง และเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ และ พันธบัตร ต่อเนื่อง ส่วนไทยแม้ภาพตลาดจะชะลอตัวและถูดกดดันจากปัจจัยลบข้างต้น แต่ช่วงปลายปีเริ่มเห็นเม็ดเงินจาก SSF และ RMF ของนักลงทุนสถาบันเข้ามาแล้ว
แม้ภาวะตลาดหุ้นจะผันผวนแต่มีหุ้นประเภทหนึ่งที่ยังได้รับความนิยมสูง นั่นคือ หุ้นไอพีโอ โดยตั้งแต่ต้นปีมีบริษัทขนาดใหญ่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) รวม 17 บริษัท พบว่ามีเพียง 3บริษัทเท่านั้น คือ PIN, UBE และ DMT ที่ราคาปิดการซื้อขายวันแรกต่ำกว่าราคาไอพีโออย่างไรก็ตาม ยังมีบริษัทที่น่าสนใจและอยู่ระหว่างพิจารณาคำขอเข้าจดทะเบียน (Upcoming IPO)อีก 13 บริษัท และอาจเข้าจดทะเบียนใน SET ในปี 2565 วันนี้ Wealthy Thai จึงขอหยิบ 5 บริษัทที่มีธุรกิจน่าสนใจมานำเสนอ

บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC

เริ่มกันที่ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC ศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้แบรนด์ “ชิค รีพับบลิค (CHIC)” และ “รีน่า เฮย์ (Rina Hey)”แบรนด์เฟอร์นิเจอร์สุดหรูสัญชาติไทยที่เน้นสไตล์วินเทจและโมเดิร์นคลาสสิก
โดยบริษัทมีแผนจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 360,000,000 หุ้น คิดเป็น 26.47% ของหุ้นทั้งหมดหลังไอพีโอ ราคาพาร์อยู่ที่ 0.50 บาท และมี บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการขยายสาขาใหม่ ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL

ถัดมา บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVILทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานโครงการแนวราบ เช่น งานทาง งานท่าอากาศยาน งานทางรถไฟ และงานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ, ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่น ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและวัสดุก่อสร้างต่างๆ และ ธุรกิจให้เช่าและบริการอสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง โดยผลงานที่ผ่านมา เช่น โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับบนถนนรัชดาภิเษก-วิภาวดีรังสิต และ โครงการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-โคราช ตอนที่ 29, 30, 31 เป็นต้น
โดยบริษัทมีแผนจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น คิดเป็น 28.57% ของหุ้นทั้งหมดหลังไอพีโอ ราคาพาร์อยู่ที่ 1.00 บาท และมี บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับใช้ในโครงการก่อสร้าง ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) BBGI

ลำดับที่ 3 บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGIเป็น Holding Companyเน้นถือหุ้นในธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (Bio-Based Product) ประเภทผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ได้แก่ เอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ และ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Value Bio-Based Products) ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ (Health and Well-Being Products) ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทั้งนี้ BBGI เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) โดยถือหุ้นในสัดส่วน 60% และ 40% ตามลำดับ
บริษัทมีแผนจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 216,600,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30%ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังไอพีโอ ราคาพาร์อยู่ที่ 5.00 บาท และมี บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ส่วนวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทจะนำเงินไป 1. ลงทุนขยายธุรกิจ และลงทุนโครงการในอนาคตของกลุ่มบริษัท รวมถึงกระบวนการพัฒนา ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน, 2. ชำระคืนเงินกู้ยืมให้แก่สถาบันการเงิน และชำระคืนหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัท และ 3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

บริษัท ดีสโตน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน หรือ DEE

ลำดับที่ 4 บริษัท ดีสโตน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน หรือ DEE ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และส่งออกยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยางรถบรรทุกและรถโดยสาร ยางสำหรับรถและเครื่องจักรที่ใช้ในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม และยางรถจักรยานยนต์และจักรยาน แบรนด์ “ดีสโตน (DEESTONE)”
โดยบริษัทมีแผนจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน จำนวนไม่เกิน 842,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 28% ของหุ้นทั้งหมดหลังไอพีโอ แบ่งเป็น
1.หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 301,000,000 หุ้น
2. หุ้นสามัญเดิม เสนอขายโดย Fitzroy Capital Group Limited จำนวนไม่เกิน 270,500,000 หุ้น
3. หุ้นสามัญเดิม เสนอขายโดย Stanhurst Power Limited จำนวนไม่เกิน 270,500,000 หุ้น
ทั้งนี้ อาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) จำนวนไม่เกิน 126,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 15% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ ด้านราคาพาร์อยู่ที่ 1.00 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ส่วนวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทจะนำเงินไปสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต พัฒนาระบบและจัดซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ใช้สำหรับซื้อวัตถุดิบและเป็นเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจ

บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) TLI

ลำดับสุดท้าย บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) TLI บริษัทประกันชีวิตแห่งแรกในประเทศไทยที่เป็นของคนไทยและก่อตั้งโดยคนไทย ภายใต้แบรนด์ “ไทยประกันชีวิต” มีผลิตภัณฑ์ครบวงจร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ประเภทบุคคลและประเภทกลุ่ม
โดยบริษัทมีแผนจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 2,384,318,900 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 20.6% ของหุ้นทั้งหมดหลังไอพีโอ แบ่งเป็น
1.หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ ไม่เกิน 1,000,000,000 หุ้น
2. หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม (บริษัท วี.ซี. สมบัติ จำกัด) ไม่เกิน 1,218,815,600 หุ้น
3. หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม (Her Sing (H.K.) Limited) ไม่เกิน 165,503,300 หุ้น
ทั้งนี้ อาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (overallotment) จำนวนไม่เกิน 322,547,900 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 13.50% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด ส่วนราคาพาร์อยู่ที่ 1.00 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทจะนำเงินไปการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และการทำการตลาด เสริมความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายผ่านทางพันธมิตร เสริมความแข็งแกร่งของเงินทุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเงียนธุรกิจรวมถึงวัตถุประสงค์อื่น ๆ
นอกจากบริษัทที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก่อนส่งท้ายปี 2564 ยังมีบริษัทที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกหนึ่งแห่ง นั่นคือ BRI หรือ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือของ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 21 ธ.ค. นี้ ต้องรอติดตามว่าเปิดเทรดวันแรกราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร และแผนธุรกิจในอนาคตจะสร้างการเติบโตได้น่าประทับใจแค่ไหน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0