โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ที่ 1 ของโลกด้านโควิด แต่หางแถวด้านเศรษฐกิจ

Businesstoday

เผยแพร่ 08 ส.ค. 2563 เวลา 05.00 น. • Businesstoday
ที่ 1 ของโลกด้านโควิด แต่หางแถวด้านเศรษฐกิจ

เราดีใจที่ประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศมาเป็นเวลากว่า 2 เดือน  ทำให้คนในประเทศสบายใจ  ใช้ชีวิตแบบไม่หวาดผวาเหมือนระยะแรกๆ  แม้ทุกวันนี้ยังต้องใส่หน้ากากยามออกนอกบ้าน  แต่ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานชีวิตใหม่ที่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่ยอมรับอย่างสมัครใจ

แต่ถ้าจะให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ โดยต้องปิดประเทศแบบไม่มีกำหนด  ควบคุมคนต่างชาติเข้าประเทศแล้วเป็นอุปสรรคต่อการค้าขาย  การลงทุน  การท่องเที่ยว  ซึ่งส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่ให้คนจำนวนมากทำมาหากินไม่ได้  พนักงานและลูกจ้างต้องตกงานกันเป็นล้านๆ คนจะคุ้มค่าหรือไม่

ถามว่าจะมีประโยชน์กับเลขศูนย์ที่เอาไว้อวดชาวโลกจนได้รับการยกย่องว่าเก่งเป็นที่ 1 แต่เศรษฐกิจกำลังดิ่งเหว  คุณภาพชีวิตคนในชาติกำลังตกต่ำลงทุกวัน เพราะไม่มีจะกิน หรือธุรกิจเจ๊งจนต้องฆ่าตัวตายเพราะความเครียด

สถาบันต่างประเทศหลายสำนักเคยประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยตรงกันข้อหนึ่งว่า  ไทยควบคุมโรคได้ดี แต่จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจหนักที่สุดในกลุ่มอาเซียน   ธนาคารโลกเคยประเมินว่าไทยจะรั้งท้ายอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เหนือกว่า “ฟิจิ” ประเทศที่เป็นหมู่เกาะเล็กๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีประชากรไม่ถึง 1 ล้านคน

เราเข้าใจว่าระยะแรกของการแพร่ระบาดต้องทำให้ประชาชนตื่นตัว เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับการควบคุมโรค แต่วันนี้เมื่อทำสำเร็จแล้ว สามารถผ่อนคลายได้แล้ว  ฝ่ายสาธารณสุขจึงออกมาพูดว่าไม่จำเป็นต้องเป็นศูนย์ตลอดไป  หากจะมีการติดเชื้อบ้างในระดับไม่เกิน 100 คน ระบบที่มีอยู่น่าจะสามารถรับมือได้

ความจริงคนไทยไม่เคยรังเกียจชาวต่างชาติ  แต่กลัวโควิดระบาดรอบสองแล้วต้องล็อกดาวน์กันให้เดือดร้อนอีก  การจะเปิดรับต่างชาติจึงต้องไม่มีเงื่อนไขบุคคลวีไอพีอย่างกรณีทหารอียิปต์หรือลูกทูตชาวซูดาน  ทุกคน ทุกชาติ ต้องกักตัว 14 วัน ตามระเบียบ พร้อมกับต้องมีมาตรการติดตามตัวอย่างเข้มงวดรัดกุมตลอดเวลาที่อยู่ในไทย

ความเข้าใจตรงกันนี้เป็นที่มาของการผ่อนคลายระยะที่ 6 ที่จะเปิดให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มเดินทางเข้าประเทศไทย ประกอบด้วย  กลุ่มจัดงานแสดงสินค้า  กลุ่มถ่ายทำภาพยนตร์  กลุ่มแรงงานต่างด้าว และกลุ่มที่เข้ามารักษาพยาบาลหรือเสริมความงาม

กลุ่มแรงงานต่างด้าวจากลาว กัมพูชา เมียนมา ถือว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย  ทั้งภาคเกษตรกรรม  อุตสาหกรรม และบริการ  เนื่องจากในภาวะปกติมีตัวเลขแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายจำนวน 1.5 ล้านคน  แต่หากนับรวมผิดกฎหมายอาจถึง 6 ล้านคน  วันนี้ส่วนหนึ่งพยายามลักลอบกลับเข้าไทยเพราะอยู่บ้านตัวเองก็อดตาย  ตัวเลขที่คาดว่ารัฐบาลเปิดให้เข้าเป็นทางการในระยะแรกคือ 1.5 หมื่นคน

นอกจากนี้ ในระยะต่อไปทราบว่าจะเริ่มทดลองรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย โดยให้นำร่องเที่ยว 3 จังหวัด 5 เกาะ  คือ จ.ภูเก็ต  เกาะพีพี จ.กระบี่  และเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

เรื่องการกักตัวใน State Quarantine เป็นประเด็นที่รัฐต้องชี้แจงให้กระจ่าง เพราะเคยมีปัญหามาหลายรอบและมักจะตอบสังคมอย่างคลุมเครือ  โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายว่าเมื่อเป็นต่างชาติต้องการเข้ามาจัดงาน  มาถ่ายทำภาพยนตร์  มาทำงาน  มารักษาพยาบาล คนต่างชาติต้องออกค่าใช้จ่ายใช่ไหม และเก็บหัวละเท่าไร

ก่อนหน้านี้ยังจำได้ว่าสถานที่รัฐจัดให้ ซึ่งมีโรงแรมต่างๆ มาเข้าร่วมโครงการนั้น  รัฐบาลจ่ายเหมาวันละ 1,000 บาท รวมอาหาร 3 มื้อ  กักตัว 14 วัน รวมเป็นเงิน 1.4 หมื่นบาท/คน

ที่ผ่านมามีคนไทยที่เป็นแรงงาน นักศึกษา นักธุรกิจ นักการทูตต่างชาติ เข้ารับการกักตัวหลายหมื่นคน คิดเป็นค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านบาท  จึงมีข่าวแก๊งไอ้โม่งวิ่งติดต่อโรงแรมขอกินค่าหัวคิว แลกกับการเอาเข้าร่วมเป็น State Quarantine  ซึ่งวันนี้เรื่องได้เงียบหายไปกับสายลม

ล่าสุด มีเสียงแว่วว่ามีคนเรียกเก็บค่ากักตัวหัวละ 5 หมื่นบาท  สงสัยว่านอนหรูกินอร่อยในโรงแรมระดับไหน  และแก๊งไอ้โม่งจะย้อนกลับมาใหม่พร้อมกับเฟส 6 หรือไม่

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0