โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ชั้นเบื่อแก...ชาวญี่ปุ่นหย่ากันเพิ่มขึ้นเพราะอยู่ด้วยกันมากเกินไปในช่วงกักตัว - เพจ Eak SummerSnow

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2563 เวลา 17.28 น. • เพจ Eak SummerSnow

แม้ตอนนี้สถาการณ์ไวรัสจะค่อนข้างคลี่คลายไปแล้ว ในญี่ปุ่นแม้จะยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ แต่สถาการณ์ตอนนี้ก็ถือว่าเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ มีการคลายล๊อคดาวน์ในสถานที่ต่าง ๆ และกลับไปทำงานกันตามปกติแล้วครับ แม้สถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติแบบ New Normal แล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปสำหรับหลาย ๆ ครอบครัวในญี่ปุ่น เนื่องจากการที่ใช้เวลาด้วยกันมากเกินไปในช่วงที่กักตัวอยู่กับบ้านนี่แหละ !

เพราะเขาบอกว่าหลังจากที่มีการกักตัว มีการ Work from home จากที่บ้าน ทำให้สามี-ภรรยาได้อยู่ใกล้ชิด มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ข้อดีก็คือได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ได้กินข้าวพร้อมกันทุกมื้อ แต่ด้วยความใกล้ชิดที่มากเกินไปนี่เอง ก็อาจจะทำให้เกิดสถาการณ์แห่งความอึดอัดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับฝ่ายหญิง

แม้จากผลสำรวจเขาบอกว่ามีภรรยามากกว่าครึ่ง (67%) ที่รู้สึกมีความสุขมากขึ้นหลังจากสามีได้หยุดอยู่กับบ้าน และมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ขณะที่ภรรยาที่เหลืออีก 33% บอกว่าไม่มีความสุขกับการที่สามีต้องอยู่บ้านมากขึ้น เพราะต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่มีเวลาอยู่คนเดียวเป็นส่วนตัว แถมสามียังต้องหอบงานมาทำที่บ้าน ทำให้บรรยากาศที่บ้านเคร่งเครียด และยังต้องกังวลถึงปัญหาเรื่องที่จะถูกลดเงินเดือนลงอีกต่างหาก 

นอกจากนั้นบางคนก็บอกว่าในช่วงที่ได้อยู่ด้วยกันตลอด ทำให้เขาได้เรียนรู้ถึงพฤติกรรมอันน่ารำคาญบางอย่างของสามีที่เขาไม่เคยแสดงออกมาในช่วงเวลาปกติ หรือในเวลาปกติภรรยาก็สามารถมองข้ามมันไปได้ แต่พออยู่ด้วยกันตลอดเวลาก็เลยยิ่งทำให้รู้สึกแย่และไม่อาจจะมองข้ามมันได้อีกต่อไป

นอกจากปัจจัยที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแล้ว ในช่วงเวลากักตัวนี้ถือเป็นศึกหนักของคุณแม่บ้านญี่ปุ่น เพราะปกติก็จะดูแลคุณสามีแค่ช่วงเช้าและเย็นหลังจากคุณสามีกลับจากทำงาน แต่ในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านเขาจะต้องดูแลคุณสามีตลอดเวลา งานบ้านก็เยอะขึ้น คุณสามีก็ไม่ช่วยงานบ้าน แถมคุณลูก ๆ ก็ยังหยุดเรียนอีก ทำให้คุณแม่บ้านมีความเครียดสะสมใจช่วงนี้ค่อนข้างสูง นำไปสู่ปัญหาในครอบครัวและการหย่าร้างในที่สุด จนมีคำศัพท์ที่ว่า コロナ離婚 (coronarikon)  หรือการหย่าร้างเพราะไวรัสโคโรน่าเกิดขึ้นมาในสังคมญี่ปุ่น

ทนายที่ให้คำปรึกษาด้านการหย่าในญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่าในช่วงนี้เธอได้รับการเข้ามาปรึกษาจากทางคุณแม่บ้านผู้อยากหย่ามากขึ้น โดยบางคนก็มีเหตุผลแปลก ๆ เช่น ทนไม่ได้ที่สามีต้องให้คอยดูแลทุกอย่างจนถึงขนาดที่บอกให้ใส่ถุงเท้าให้ ซึ่งมันก็เกิดจากความใกล้ชิดมากเกินไปในช่วงกักตัวนี่เอง

แต่ในวิกฤตก็ย่อมมีคนมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจอยู่เหมือนกัน เพราะบริษัท Kasoku ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการห้องเช่าในญี่ปุ่น ได้ใช้โอกาสนี้สร้างแคมเปญ “ห่างกันซักพัก” เป็นโครงการที่พักราคาประหยัดที่ให้คุณสามีหรือภรรยาได้แยกตัวออกมาอยู่ จะได้ไม่ต้องปะทะกับอีกฝ่ายตลอดเวลา แถมยังมีบริการให้คำปรึกษาเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ของหลาย ๆ ครอบครัวเอาไว้ 

จริง ๆ แล้วมันก็ถือเป็นแคมเปญเพื่อประคับประคองธุรกิจของทางบริษัทเองด้วย เพราะห้องเช่าที่เคยมีคนเช่าเต็มอยู่ตลอดเวลาก็กลับว่างในช่วงไวรัสระบาดแบบนี้ แต่ผลสรุปก็คือไม่ได้มีคนไปใช้บริการแคมเปญ “ห่างกันซักพัก” มากสักเท่าไร เพราะบางทีครอบครัวคนญี่ปุ่นก็อายเกินที่จะให้คนอื่นรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบ้านของตัวเอง และการมาร่วมโครงการนี้ก็เหมือนเป็นการบอกกับคนอื่นให้รู้ว่าครอบครัวของคุณกำลังมีปัญหานั่นเอง…

ในขณะที่ความรักของผู้ใหญ่ที่แต่งงานแล้วดูจะสั่นคลอนเพราะไวรัส แต่ในหมู่เด็ก ๆ วัยรุ่น กลับเกิดปัญหาที่เกิดจากการท้องในวัยเรียนกันมากขึ้นในช่วงนี้ซะอย่างนั้น โดยเรื่องนี้โรงพยาบาล Jikei ในจังหวัดคุมาโมโต้เขาออกมาเปิดเผยข้อมูลอันน่าแปลกใจว่า ในช่วงที่โรงเรียนปิดเพราะไวรัสนี้ กลับมีนักเรียนมัธยม ทั้ง ม.ต้น และม.ปลาย โทรเข้ามาปรึกษาที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ คือมากที่สุดตั้งแต่โรงพยาบาลเคยก่อตั้งแผนกให้คำปรึกษาเรื่องการตั้งครรภ์มาเลย 

เขาบอกว่า "เป็นเพราะเด็ก ๆ มีเวลาว่างมากเกินไป"ปกติในช่วงเปิดเทอมก็จะไปโรงเรียนในตอนเช้า กลับบ้านมาตอนเย็น ทำการบ้านก็หมดวันแล้ว เสาร์-อาทิตย์ว่างก็ค่อยออกไปเที่ยวกัน ปิดเทอมก็อาจจะไปเที่ยวกันเป็นกลุ่ม แต่ก็ยังมีการบ้าน มีรายงานที่ต้องรับผิดชอบ 

ต่างจากช่วงนี้ที่ว่างคือว่างจริง ๆ ไม่มีงาน ไม่มีการบ้าน ไม่มีอะไรทำ แถมเพราะไม่ได้เจอกันที่โรงเรียนบ่อย ๆ เหมือนเดิม ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกคิดถึงกันมากขึ้น เลยมักจะหาโอกาสแอบมาใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และเลยเถิดไปถึงขั้นมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งมากขึ้น และมันมักจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน ไม่ได้มีการป้องกัน ทำให้กลายเป็นปัญหาท้องในวัยเรียนของเหล่าเด็กมัธยมญี่ปุ่นขึ้นมา

ทั้งนี้ทั้งนั้น การอยู่ด้วยกันมากเกินไปในช่วงเวลากักตัวมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายไปซะทั้งหมดนะครับ เพราะแม้จะมีครอบครัวที่หย่ากันมากขึ้น แต่นั่นก็ยังเป็นส่วนน้อยถ้าเทียบกับอัตราส่วนที่เหลือ เพราะคนส่วนใหญ่ก็มองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ถ้าจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น มีเวลาทานข้าว พูดคุยกันมากขึ้นจากเดิมที่ต้องทำงานตลอดเวลา 

อย่างบางครอบครัวที่ทั้งสามีและภรรยาต่างต้องทำงานด้วยกันทั้งคู่ พอได้อยู่บ้านทำงานจากที่บ้าน ก็ทำให้พวกเขาได้เห็นแง่มุมที่ไม่เคยเห็นจากอีกฝ่าย อย่างเช่นครอบครัวหนึ่งที่คุณภรรยาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาองค์กร ต้องทำงานโดยการคุยให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ คุณสามีที่ปกติจะไม่มีโอกาสได้เห็นภรรยาทำงาน พอเห็นการทำงานของภรรยาเขาก็ถึงกับมาโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นภรรยาของผมทำงาน เธอพูดคุยให้คำปรึกษากับผู้อื่นอย่างอ่อนโยน นั่นทำให้ผมหลงรักเธอมากขึ้นกว่าเดิม และมันทำให้ผมได้รู้ว่าผมโชคดีแค่ไหนที่มีเธออยู่ข้าง ๆ…”

ในช่วงภาวะไวรัสระบาดมันก็สร้างผลกระทบในวงกว้าง ช่วงนี้ความเครียดจากเรื่องต่าง ๆ มันก็มีมากอยู่แล้ว อาจจะทำให้หลาย ๆ คนเกิดความเครียดสะสมจนเกิดเป็นปัญหาในครอบครัวได้ ดังนั้นการปรับตัว ปรับมุมมอง และการเว้นระยะห่างระหว่างกัน ไม่ได้ใช้เพื่อป้องกันไวรัสเท่านั้น แต่มันสามารถใช้เพื่อจะประคับประคองชีวิตครอบครัวได้อีกด้วย…

อ้างอิงข่าวจาก livedoornews

ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม

Facebook :Eak SummerSnow

Youtube :Eak SummerSnow

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0