โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

จะตามหา Passion ตัวเองได้ยังไง ถ้าทุกวันยังทำงานประจำอยู่ ? - เพจบันทึกนึกขึ้นได้

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 23 ก.ค. 2563 เวลา 17.00 น. • เพจบันทึกนึกขึ้นได้

จะว่ากันไปแล้ว การค้นหาสิ่งที่เราต้องการจริงๆในชีวิต

หรือที่เรียกกันจนช้ำว่า Passion นั้น 

บางคนอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร 

 

บางคนที่เรียนหรือทำงานในสิ่งที่ตัวชอบตั้งแต่แรก ผมดีใจด้วย

มันเป็นเรื่องน่ายินดีในชีวิตจริง ๆ นะ 

 

แต่สำหรับใครที่อ่านอยู่แล้วรู้สึกว่า 

สิ่งที่กำลังเรียน กำลังทำ มันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เรามีความสุข 

อันนี้เราต้องค่อย ๆ นั่งคุยกับตัวเอง 

 

ผมเข้าสู่ช่วงวัยทำงานมาประมาณ 10 ปีแล้ว

เป็นสิบปีที่เรียกว่า สมบุกสมบัน 

มีช่วงปีที่รู้สึกว่าไม่ได้โอเคกับการทำงานเลย

บางปีก็ โอเค พอกล้อมแกล้ม ขลุกขลิก ๆ หน่อย

 

เรียกว่าเหมือนโรลเลอร์โคสเตอร์นะ 

วิ่งขึ้นวิ่งลง ให้เวียนหัว ชวนให้อ้วกแตกอยู่หลายรอบเหมือนกัน 

 

ผมไปเจอผลสำรวจตัวหนึ่งของบริษัทเทรนนิ่งในอเมริกา ผลสำรวจในปี 2017 

ที่เค้าไปดูว่า คนทำงานในประเทศเค้านั้นมีความสุขกับการทำงานกันมั้ย

 

ปรากฏว่า 

68%  ไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งหรือ engage กับงานที่เขาทำงาน 

ซึ่งมีเพียง 13 % เท่านั้น ที่รู้สึกพอใจและมี Passinate กับหน้างานที่กำลังทำอยู่

 

ถ้าเรามีการสำรวจบ้าง อันนี้ผมคิดไปเองนะว่า ผลก็น่าจะไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่

เอาประสบการณ์จากตัวเองและคนรอบ ๆ ตัวล้วน ๆ ไม่ได้น่าเชื่อถือแต่อย่างใด

 

แต่คุณเคยรู้สึกเหมือนกันผมมั้ยว่า 

 

มึงงงง กูอยากลาออก กูไม่ไหวแล้ว กูอยากหยุด

แต่กลัวที่ใหม่ไม่ได้เงินเดือนเท่านี้ ไม่ได้สวัสดิการเท่านี้

เราเลยไม่กล้าเปลี่ยน ไม่กล้าออกไปเริ่มใหม่ กลัวสายตาของใคร ๆ ที่จะมองกลับมา

 

มันไม่มีอะไรผิดเลยที่เราจะเลือกอยู่ตรงนี้ที่เดิม ไม่ได้เปลี่ยนไปไหน

เพราะเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างเซ้นซิทีฟ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ ในชีวิตค่อนข้างเยอะ

ไม่ใช่คิดแล้วทำได้เลย มันต้องดูอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง

 

วันนี้ผมเลยมาชวนคุณมาคิดไปพร้อม ๆ กันว่า

เราจะยังคงมีความสุข มี Passionในชีวิตได้ยังไง  ในขณะที่ทุก ๆ วันยังต้องตื่นไปทำงานประจำอยู่

 

สิ่งที่ผมอยากเอามาแชร์คุณผู้ฟังวันนี้ 

เป็น 3 tips ที่จะมาบอกว่า เราจะทำอย่างนั้นได้ยังไง 

โดยที่ยังต้องไปนั่งทำงานแปดโมงเลิกห้าโมง หรือเข้าเวร เข้ากะกลางคืนอยู่ 

 

คุณไม่ต้องเปลี่ยนงาน ไม่ต้องล้มเลิกอะไรทั้งนั้น 

แต่ลองฟังทั้งสามข้อที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ดู 

ผมเอาเอาสิ่งที่ผมเคยทำในทุก ๆ วันมาประกอบแต่ละข้อให้คุณผู้ฟังเข้าใจ 

 

 

  • ไม่ว่ากำลังคิดอยากจะทำอะไรให้เริ่มต้นตั้งแต่ตรงนี้ ตอนนี้

 

ไม่จำเป็นที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มทำอะไร 

ไม่ต้องทำให้ดีก่อนเริ่ม

แต่ควรเริ่มต้นที่จะทำมันให้ดี ดีกว่า 

 

หลายคนชอบกลัวการเริ่มต้นใหม่

รวมถึงผมในบางครั้งด้วยเช่นกัน 

 

ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เริ่มตรงไหน ทำยังไง 

 

แต่ถ้ามันเริ่มมีความคิดว่าอยากจะเริ่มทำอะไรสักอย่างในหัว

นั่นแหละครับ มันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว 

 

จริง ๆ เราอาจไม่ได้กลัวการเริ่มต้นใหม่

แต่เรากลัวสายตาของคนอื่นที่จะเห็นการเริ่มต้นใหม่ของเรามากกว่า

 

เพราะใคร ๆ ก็ไม่ชอบเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก 

มันไม่ได้รู้สึกดี ไม่ได้รู้สึกเท่อะไรเลยนะ 

 

แต่คิดไปคิดมา 

 

ใคร ๆ ก็เริ่มต้นกันใหม่ตั้งแรกรึเปล่า ?

ทุกอย่างเริ่มต้นจากศูนย์ 

 

เราอาจจะไม่ชอบที่จะต้องคอยตอบคำถามคนที่มาถามว่า

กำลังทำอะไรอยู่หรอ ช่วงนี้ดูยุ่ง ๆ นะ ทำอะไรอยู่

 

เราอาจจะไม่ชอบสายตาช่างสงสัยของใครเหล่านั้น

 

ส่วนตัวผมชอบที่จะนั่งอ่านประวัติของคนอื่นที่ผมชื่นชมนะ

ผมอยากรู้ว่า พวกเขามีชีวิตมายังไง 

กว่าจะถึงวันนี้ได้ เค้าต้องไปเจออะไรมาบ้าง 

 

ซึ่งถ้าได้ศึกษาหรือทำความเข้าใจกันจริง ๆ 

เราจะค้นพบเลยว่า 

 

คนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเราเกือบทุกคน

ต่างเริ่มต้นจากศูนย์ 

ถูกปฏิเสธ เจ็บปวด สมบุกสมบัน 

 

เขาต้องผ่านอะไรหนัก ๆ กันมามากมาย 

ไม่ว่าทั้งร่างกายหรือจิตใจ 

 

ซึ่งจะเป็นใครก็ได้นะ 

ที่คุณชอบ ที่คุณคิดว่าเค้าเป็นไอดอล เป็นครู เป็นคนที่รู้สึกว่าเราเอาเขาเป็นแบบอย่าง

 

จริง ๆ ชีวิตเราต้องมีคนแบบนี้ให้เรารู้สึกมีแรงผลักดันบ้างนะ

 

ไปค้นดูชีวิตของพวกเค้าดี ๆ 

ไม่ได้หมายถึงเรื่องส่วนตัว

แต่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิต

ช่วงที่ดี ช่วงที่ผลิกผัน

 

มันจะช่วยเราได้เยอะ

ถ้าเรารู้ว่า คนที่เราชอบนั้นกว่าจะมาถึงตรงนี้ 

โดนปฏิเสธมาแล้วกี่ครั้ง ล้มมาแล้วกี่หน

 

ทุกคนต้องอยู่ในจุดที่ไม่มีอะไร

จุดที่ต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยกันทั้งนั้น

 

แต่อยากให้คุณเตรียม แล้วก็ฝึกตอบคำถาม

ที่จะมีคนต่าง ๆ มาถามคุณว่า กำลังเริ่มต้นทำอะไรอยู่

เตรียมชุดคำตอบตรงนี้ของตัวเองไว้ 

แล้วตั้งใจที่จะไม่รับเอาคำพูดต่าง ๆ ของพวกเขาที่จะทำให้เราหยุดทำในสิ่งที่กำลังทำอยู่กลับมา 

 

มันเป็นเรื่องง่ายมากที่เราจะอ่อนไหวกับคำพูดของใครสักคน

ในช่วงที่เรากำลังเริ่มต้นทำบางอย่างที่เราเชื่

 

ซึ่งส่วนใหญ่คำพูดพวกนั้นมักจะเป็นประโยคที่บอกว่า 

สิ่งที่เรากำลังทำ มันเป็นไปได้ยาก

 

แล้วก็ไม่ใช่แค่เริ่มต้นทำอย่างเดียว

เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง 

 

เพราะถ้าเราเริ่มอย่างเดียว

เราก็จะกลายเป็น starter ไปเรื่อย ๆ 

 

มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองจาก Newby 

เป็น beginner เป็น imtermidiet แล้วก็พัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ 

 

 

  • จัดแจงเวลาตัวเองให้เหมาะสม

 

ผมหมายถึงให้จัดตารางลงไปเลยนะ

ในแต่ละวันเราต้องทำอะไรบ้าง 

 

ทำทุกเวลาให้เป็นเวลาที่สามารถทำให้เราพัฒนาขึ้นมาได้ 

เป็นเวลาที่ส่งเริ่มความฝันของเราให้ใกล้เข้ามาได้ 

 

อะไรก็ตามที่คุณสนใจ 

หาเวลาให้มัน 

ไม่ใช่หาข้ออ้างให้มัน

 

มีคนรอบตัวถามผมตลอดว่า ทำไมต้องทำ 

ทำไมต้องทำให้ตัวเองวุ่นวาย และยุ่งขนาดนี้ 

 

ผมตอบไม่ได้ 

ผมตอบได้อย่างเดียวว่า

ผมทำแล้วผมมีความสุข 

 

ผมทำแล้วผมรู้สึกว่าผมเก่งขึ้นกว่าเมื่อวาน

ผมทำแล้วผมใกล้สิ่งที่ผมต้องการมากขึ้น

 

ทุกวันนี้เรามีทุกอย่างพร้อมรับความฝันของเรา

เรามีเทคโนโลยี เรามีอุปกรณ์

เรามีองค์ความรู้ เรามีคอร์สสอน เรามีกระทู้คนที่เคยทำมาเล่า

 

แต่เราต้องมีเวลาที่จะลงมือทำสิ่งนั้นของเราด้วย

ไม่ต้องเริ่มเยอะ

แบ่งมาวันละครึ่งชั่วโมง

สิบนาที อะไรก็ค่อยๆ เริ่มกันไป 

 

แต่จัดแจงเวลาให้ตัวอย่างแน่ชัดว่า จริงๆ แล้วเวลานี้เราควรต้องทำอะไร

ไม่ใช่ปล่อยให้มันผ่านไป อย่างที่ได้อะไรขึ้นมาเลย 

 

  • หาความรู้ ก่อนหาความบันเทิง

 

ฟังดูไม่น่ารักเลยใช่มั้ย

อ่านมาตั้งนาน สุดท้ายให้เลิกสนใจสิ่งบันเทิง 

นี่ทำงานมาเหนื่อยมากนะ ทำไมถึงพูดแบบนี้

 

แต่ถ้าเราไม่เสียสละบางอย่างเพื่อสิ่งที่เราต้องการ

สุดท้ายแล้วเราจะเสียสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดไป

 

ถ้าคุณอยากเติบโต หาวิธีและทำให้ตัวเองโตขึ้น 

ความฝันเปลี่ยนเป็นความจริงไม่ได้นะ ถ้าเรานั่งหรือนอนไถโทรศัพท์อยู่เฉยๆ

 

ชีวิตจะเปลี่ยนไปยังไง 

ถ้าทุกวันยังทำอะไรที่เหมือนเดิม

 

การรักษา Passion ของตัวเอง

มันคือการหลงไหลในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่

จมอยู่กับมัน ให้เวลามัน 

 

ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่า 

มันคือการทำมันให้ได้ดี 

เป็นผู้นำในด้านนั้น 

เป็นคนที่รู้ทุกอย่างในเรื่องนั้น

 

แต่มันคือการแลกวันและคืนที่คนอื่นกำลังนอนเฉย ๆ

แต่เราลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง

แลกกับวันหยุดที่เขาไปเที่ยว แต่เรามานั่งทำในสิ่งที่เราหลงไหล

 

 

ลองเลือกดู เราเลือกได้ 

เลือกที่มีความสุขตอนนี้เลย โดยการเลิกอ่านตัวหนังสือของผมตอนนี้ 

แล้วไปดูซีรีส์ให้สบายใจ 

 

หรือเราจะก้มหน้าก้มตาทำในสิ่งเรากำลังทำต่อไป

ที่มันจะออกดอกออกผลในอีกสองปีสามปีข้างหน้า

แล้วหลังจากนั้นเราจะมีเวลานอนดูซีรีส์ยาว ๆ แบบที่ไม่ต้องกังวลกับอะไร 

 

เราเลือกได้นะ

 

มีผลสำรวจบอกมาว่า

คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่

ใช้เงินที่เขาหาได้มา 10-25% ไปกับสิ่งที่จะทำให้เค้าพัฒนาขึ้น

หนังสือ คอร์สเรียน การศึกษา 

 

ผมไม่ได้บอกว่าคุณจะต้องเอาเงินไปทำอะไรแบบนั้น

แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ ถ้าเราอยากจะให้ Passion ของเรายังอยู่

ในขณะที่ยังต้องทำงานประจำทุกวัน 

 

เราต้องหาเวลา พลังงาน หรือเงินที่มี มาลงกับสิ่งที่พัฒนาให้เราดีขึ้น

แทนที่จะเอาเวลาไปลงกับสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เราเดินหน้าต่อไปเท่าไหร่

 

ทำให้ Education กลายเป็นเรื่อง Entertainment ของตัวเอง

 

ไม่ใช่การบังคับ แต่มันคือการทำทุกวันให้เรารู้สึกว่า 

เราใกล้ความฝันที่มันเป็น Passion ของเรามากขึ้น 

 

ฟังดูอาจจะอี๋ สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่าน

แต่ถ้าคุณได้อ่าน ได้เรียนรู้ในสิ่งที่คุณสนใจ 

คุณจะไม่อี๋กับมันเลยนะ 

 

หา และศึกษาในสิ่งที่คุณสนใจ

แล้วยกระดับทักษะของตัวเอง

 

ยิ่งเราเชี่ยวชาญมันมากเท่าไหร่

โอกาสยิ่งเดินเข้ามาหาเราเท่านั้น

 

แต่ถ้าอ่านถึงตรงนี้แล้ว คุณจะถามผมว่า

อ่านมาตั้งนาน เราก็ยังไม่รู้เลยว่า Passion ของตัวเองคืออะไร

ผมเองก็ตอบให้ไม่ได้

แต่คุณสามารถเอาทั้ง 3 ข้อนี้ไปลองทำเพื่อหา Passion ของตัวเองได้

 

ลองเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง

ศึกษาชีวิตของคนที่คุณชอบ 

หาเวลาไปทำอะไรที่คุณไม่เคยทำ

ลองทำดูว่าชอบ หรือมีความสุขกับมันมั้ย

อ่านหนังสือ ฟังพ็อดแคส หรือดูคลิปวีดีโอ

ทำทุกอย่างเหมือนกันหมดเลย

เพียงแค่เรายังไม่รู้ว่าเราชอบอะไร

 

แต่ถ้าได้ลองทำ เราจะรู้ว่าเราไม่ชอบอะไร 

สุดท้ายเราจะเลือกได้เอง ว่าเราอยู่กับอะไรได้นานที่สุด

 

Passion ไม่ได้มาจากอยู่เฉย ๆ

แต่มันมาจากการลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง

ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้ หรือตอนนี้ยังต้องนั่งทำงานอยู่

 

แต่เราจะรู้แล้วว่า หลังเลิกงาน หรือคืนนี้ พรุ่งนี้เราต้องทำไร

 

เพื่อให้แต่ละวัน 

เราเข้าใกล้มันมากที่สุด

ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก เพจบันทึกนึกขึ้นได้ ได้บน LINE TODAY ทุกวันศุกร์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0