วันที่ 9 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานที่บริเวณบ้านเลขที่ 83/3 หมู่ที่ 2 ตำบลรำมะสัก อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง พบ นาง บัวหวั่น สำลี อายุ 79 ปี หญิงชราที่ถูกงูเห่าด่าง หรืองูเห่าปะ เนื่องจากมีตัวสีดำสีขาวด่างเปรอะทั้งตัว ได้พ่นพิษเข้าไปในดวงตาทั้ง 2 ข้าง จนได้รับบาดเจ็บ ทางญาติได้นำตัวไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ดวงตามองเห็นเป็นปกติ แต่ยังมีอาการเคืองนัยน์ตา และดวงตายังคงมีสีแดงกล่ำอยู่ ทางแพทย์ได้อนุญาตให้กลับมานอนรักษาตัวที่บ้าน พร้อมให้ยามารับประทาน และยาหยอดตามาให้ทำการหยอดดวงตา 3 เวลา เพื่อให้หายเป็นปกติ
จากการสอบถาม นาง บัวหวั่น เล่าให้ฟัง ตนเองอยู่เพียงลำพังในบ้านไม้หลังคาสังกะสี ยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร เมื่อวานที่ผ่านมา ตนเองได้ยินเสียขู่คำรามของแมวที่เลี้ยงไว้ 5 ตัว ที่บริเวณกะละมังพลาสติกสีดำใต้แคร่ จึงเข้าไปตรวจสอบมองดูพบว่ามีงูเห่าด่างตัวสีดำสลับขาวแผ่แม่เบี้ยขู่สู้กับแมวอยู่ ด้วยความใจกล้าไม่เคยกลัวงูอยู่แล้ว จึงได้ใช้มือดึงลากกะละมังออกมาที่โล่งแจ้งหน้าบ้าน พร้อมได้ใช้ฉมวกที่มีอยู่แทงเข้าไปที่บริเวณกลางลำตัวงูเห่าที่อยู่ในกะละมัง พร้อมกับใช้ค้อนที่มีอยู่กระหน่ำตีหัวงูเห่า แต่เนื่องจากงูเห่านั้นโดนแทงที่กลางหลังแต่ยังคงชูคอแผ่แม่เบี้ยสู้กับตนเองอย่างไม่ยอมแพ้ และขณะที่ตนเองกำลังก้มลงใช้ค้อนทุบหัวงูเห่าอยู่นั้นก็ต้องตกใจแทบช๊อค เมื่องูเห่าได้พ่นพิษเข้าไปในดวงตาทั้ง 2 ข้างของตนเอง ทำให้แสบร้อนไปหมดแทบลืมตาไม่ขึ้น มีอาการพร่ามัวไปหมด
ตนเองจึงปล่อยฉมวกที่แทงงูคาไว้ แล้วนำน้ำสะอาดทำการล้างตา จากนั้นได้มีญาติมาพบช่วยทำการทุบงูเห่าจนเละตายคาที่ แล้วนำตัวยายบัวหวั่นส่งโรงพยาบาลโพธิ์ทอง เพื่อทำการรักษา พร้อมนำซากงูไปให้ทางแพทย์ได้ทำการตรวจดู เบื้องต้นทางแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการล้างตาและให้ยารับประทานจนอาการปลอดภัยดีแล้ว โชคยังดีที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง มองเห็นเป็นปกติแล้ว แต่ยังกังวลเรื่องงูเห่าที่เป็นคู่ของงูเห่าตัวที่ตายจะตามมาอาฆาตแก้แค้น เนื่องจากมีการเล่าต่อกันมาว่าหากคู่ของงูเห่าโดนฆ่าตายตัวที่เหลือจะตามมาแก้แค้น ซึ่งบริเวณบ้านของยายอยู่กลางทุ่งนาและมีป่าไม้ล้อมรอบ ที่ผ่านมาเคยพบงูเห่าเข้ามาเป็นประจำ แต่ก็ไล่ออกไปได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้างูเห่าด่างไม่ยอมหนีออกไป และต่อสู้จึงทำการทุบจนตาย ตัวเองก็ถูกพ่นพิษเข้าดวงตาอีกด้วย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอเหมือนกันครั้งนี้พบเป็นครั้งแรก
งูเห่าด่าง เป็นงูเห่าที่สามารถพ่นพิษได้ โดยสามารถพ่นพิษได้ไกล ถึง 5 – 8 เมตร เมื่อพ่นน้ำพิษหมดแล้ว สามารถผลิตน้ำพิษได้ในเวลา 10 นาที ก็สามารถพ่นน้ำพิษใหม่ได้ ขณะชูคอแผ่แม่เบี้ยขู่ ก็จะอ้าปากเพื่อเตรียมพ่นพิษใส่ศัตรู โดยจะมีรูของเขี้ยวพิษอยู่ทางด้านหน้า เพื่อสะดวกในการฉีดพ่นพิษออกไป และถ้าพิษเข้าตาจะไม่ทำให้ตาบอด ยกเว้นแต่เราขยี้ตา ถ้าถูกพิษทางผิวหนังที่มีแผล ก็จะทำให้เกิดการอักเสบ แต่ไม่อันตรายมากเพราะได้รับปริมาณพิษน้อย
ภาพ/ข่าว : ศุภเสกข์ แสงตระการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อ่างทอง
