วัน คนถนัดซ้าย เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในปี 1992 เพื่อเพิ่มความตระหนักถึงความได้เปรียบและเสียเปรียบของคนถนัดซ้าย ซึ่งปัจจุบัน มีข้อมูลที่แพร่หลายมากขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ต และข้าวของเครื่องใช้ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อคนถนัดซ้ายโดยเฉพาะ
ในอดีต มีวัฒนธรรมเหยียดคนถนัดมือซ้ายให้เห็นในหลายประเทศ ตั้งแต่ช่วงยุคกลางที่เชื่อว่าปีศาจถนัดซ้าย และในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 มีนักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่าคนถนัดซ้ายมีความเป็นไปได้ที่จะมีความผิดปกติทางจิต หรือครูบาอาจารย์ที่มักกดดันเด็กๆ ให้เปลี่ยนข้าง
งานวิจัยโดยสถาบันสุขภาพของสหรัฐฯ ระบุว่าความถนัดข้างไหนนั้น ถูกพัฒนามาตั้งแต่ในครรภ์แล้ว ซึ่งตัวอ่อนจะเริ่มขยับแขนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ 9 หรือ 10 และจะยังไม่แสดงให้เห็นชัดเจนจนกว่าจะออกมาดูโลก ถึงอายุราว 2-3 ขวบ แต่ก็จะมีการสลับมือบ้างเมื่อต้องทำทักษะที่แตกต่างกัน
ในทางกลับกัน คนที่ถนัดขวา เมื่อเข้าสู่วัยชราที่มือขวาเริ่มสั่น ก็จะเริ่มหันมาใช้มื้อซ้ายมากขึ้น
งานวิจัยในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2019 ของกลุ่มตัวอย่าง 9,000 คน พบว่ามียีนส์ที่มีส่วนด้านความถนัดข้างไหนถึง 40 ตัว ยีนส์แต่ละตัวนั้นจริงๆ แล้วไม่ได้มีอิทธิพลมากนัก แต่เมื่อรวมกัน 40 ตัว ทำให้มีผลต่อความถนัด
แม้โดยภาพรวม จะไม่ปรากฏว่ามีปัญหาสุขภาพอะไรที่เชื่อมโยงโดยตรงต่อการถนัดซ้าย แต่จากการสำรวจคนไข้คลินิกการนอนหลับ 100 คนในเมืองโตเลโด ประเทศสเปน เมื่อปี 2011 พบว่า 94 เปอร์เซ็นต์ของคนไข้ที่ถนัดซ้ายมักมีปัญหาขยับแขนขาบ่อยๆ ขณะนอนหลับ (หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่านอนดิ้น) ในขณะที่ในจำนวนคนไข้ที่ถนัดขวา มีคนนอนดิ้นมากๆ 69 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแน่นอนว่าการนอนดิ้น การขยับบ่อยๆ ขณะหลับ ทำให้ร่างกายไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
ประเด็นสุขภาพที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ การถนัดซ้าย
ความเครียดระหว่างตั้งครรภ์ งานวิจัยของอังกฤษระบุว่า เด็กในครรภ์ของแม่ที่มีความเครียดสูงมาก มักจะใช้มือซ้ายจับหน้าตัวเองบ่อยกว่ามือขวา ซึ่งนี่อาจเป็นสัญญาณแรกของความถนัดซ้าย นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยเมื่อปี 2008 ในสวีเดน ที่ใช้เวลาศึกษาข้อมูลนาน 5 ปี ระบุว่าหญิงที่มีความเครียดมากหรือเป็นโรคซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ ลูกที่ออกมามักถนัดซ้าย หรือใช้มือสลับกันไปมาสองข้าง
อัตราส่วนแฝดถนัดซ้ายมากกว่า มีความเชื่อที่ว่า แฝดแท้ (identical twin) มักเหมือนเป็นกระจกส่องกันและกัน ถ้าคนหนึ่งมีไฝที่แก้มขวา อีกคนก็มักมีไฝตำแหน่งเดียวกันที่แก้มซ้าย และหากคนหนึ่งถนัดขวา อีกคนมักถนัดซ้าย อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยในประเทศเบลเยี่ยมเมื่อปี 1996 พบว่า เด็กแฝด ไม่ว่าจะแฝดแท้หรือแฝดเทียม (fraternal twin) มีอัตราส่วนที่มีความถนัดซ้ายราว 21 เปอร์เซ็นต์
ความได้เปรียบทางกีฬา มีสิ่งหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันเกี่ยวกับคนถนัดซ้าย คือมักมีความสามารถในกีฬาชนิดตัวต่อตัวดีกว่าคนถนัดขวา ซึ่งมีการอธิบายว่า เพราะนักกีฬาถนัดซ้ายมักต้องฝึกฝนแข่งขันกับคนถนัดขวาจนชำนาญ ในขณะที่คนถนัดขวามักไม่ค่อยมีโอกาสได้ฝึกฝนตัวต่อตัวกับคนถนัดซ้าย
ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ คนถนัดซ้าย
- คนถนัดซ้ายคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก
- สหรัฐฯ มีประธานาธิบดีที่ถนัดซ้าย ถึง 8 คน คือ เจมส์ การ์ฟิลด์, เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์, แฮร์รี่ ทรูแมน, เจอรัลด์ ฟอร์ด, โรนัลด์ เรแกนฒ จอร์จ เอชดับเบิลยู บุช, บิล คลินตัน และ บารัค โอบามา
- นอกจากผู้นำสหรัฐฯ หลายๆ คน สมาชิกราชวงศ์อังกฤษ เจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าชายวิลเลียม แห่งสหราชอาณาจักร หรือคนดังของโลกอย่าง พอล แมคคาร์ทนีย์, ทอม ครูซ, บิลล์ เกตส์ และ โอปราห์ วินฟรีย์ ต่างก็เป็นคนถนัดซ้าย
- มีเมืองหนึ่งในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ชื่อเมือง “เลฟแฮนด์” (มือซ้าย) มีประชากร 390 คน
- 25 เปอร์เซ็นต์ของนักบินอวกาศยานอพอลโลเป็น คนถนัดซ้าย
- งานศึกษาวิจัยในสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัย เซ็นต์ลอว์เรนซ์ พบว่า คนที่ถนัดซ้ายจะมีไหวพริบและมีอารมณ์คมคายมากกว่าคนถนัดขวา และส่วนมาก มักทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อย่างดนตรี งานเขียน งานศิลปะต่างๆ เพราะมักมีนิสัยชอบคิดค้น ชอบทดลอง ชอบหาทางเลือกใหม่ๆ
- มีอีกหนึ่งงานวิจัย ที่พบว่า ตามสถิติแล้ว คนที่ถนัดซ้ายมักขับรถดีกว่าคนถนัดขวา โดยวัดจากอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ที่ติดตามคนที่ขับรถ 1,500 คน เป็นระยะเวลา 10 ปี พบว่าคนถนีดซ้ายมักประสบอุบัติเหตุน้อยกว่า
- สัดส่วนของประชากรถนัดซ้ายในประเทศแถบอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยุโรปตะวันตก มีอัตราสูงกว่าภูมิภาคอื่น ขณะที่เอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ มีอัตราต่ำสุด คือที่ 4 – 6 เปอร์เซ็นต์
ความไม่แตกต่าง
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว สุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเท็กซัสออสตินของสหรัฐฯ ศาสตราจารย์ ดร. โดนัลด์ เยา กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จะถนัดซ้ายหรือขวาก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แม้จะมีการศึกษาวิจัยมากมาย มีข้อมูล ข้อเท็จจริงสนุกๆ เกี่ยวกับคนถนัดซ้าย รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ในโลกนี้ที่ส่วนมากสร้างขึ้นเพื่อคนถนัดขวา แต่เอาเข้าจริงแล้ว การที่จะบ่งชี้ชัดเจนว่าความถนัดซ้ายหรือขวามีความเชื่อมโยงโดยตรงกับความสามารถ กับปัญหาสุขภาพ หรือกับประเด็นใดๆ ความแตกต่างระหว่างคนที่มีความถนัดข้างใดข้างหนึ่งนั้นน้อยมาก
