วันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุครายหนึ่งโพสต์ภาพรถกระบะอาสามูลนิธิสว่างมงคลฯ เพชรบูรณ์ และได้ทำสัญลักษณ์วงกลมไว้บริเวณที่นั่งหลังคนขับ พร้อมกับข้อความว่า “ไป 3 กลับ 4 มันยังไงจารต้า” จากนั้นได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในลักษณะมองเห็นเป็นรูปผู้หญิงนั่งอยู่ภายในแคปหลังคนขับ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ซึ่งต่อมาเจ้าของรถได้เข้ามาตอบว่ามีเพียงอาสาไปด้วยกันเพียง 3 คนเท่านั้น และเป็นผู้ชายทั้งหมด ไม่มีผู้หญิงเลย จึงทำให้หลายๆ คนเชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตที่อาจจะอยู่ภายในรถคันดังกล่าว เนื่องจากเป็นรถที่ใช้ในงานกู้ภัย ช่วยเหลือคนเจ็บ รวมทั้งรับ-ส่งศพผู้เสียชีวิตด้วย และนอกจากนั้นผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นยังได้สอบถามถึงทะเบียนรถเพื่อที่จะนำไปเสี่ยงโชคด้วย จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พบ นายจักรพงษ์ พรมนนท์ อายุ 24 ปี และ นายจักรพงษ์ กระวัน อายุ 29 ปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่บ้านสูบ ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย ตนจึงได้รวบรวมข้าวของเครื่องใช้นำไปบริจาคให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยได้ออกเดินทางไปในช่วงเย็นของวันที่ 4 ส.ค. เมื่อไปถึงได้นำไปแจกตามจุดต่างๆ กระทั่งค่ำจึงได้เดินทางกลับ
ระหว่างทางได้แวะพักรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พร้อมได้ถ่ายรูปรถและโพสต์ลงในเฟซบุ๊กพร้อมข้อความว่า “ถึงผมจะมาน้อยแต่ก็ 100% กับภารกิจบริจาคของช่วยเหลือน้ำท่วม ณ บ้านสูบ ต.น้ำสวย อ.เชียนคาน จ.เลย ขอบคุณ เพื่อนๆ ในเฟซ เจ้าหน้าที่ รพ.หล่มสัก ห้อง ER งานประกัน งานเวรระเบียน ตึกอายุรกรรม และทุกๆ ท่านที่ช่วยในการบริจาคสิ่งของและเงิน ตอนนี้ผมยกเลิกภารกิจเป็นที่เรียบร้อย” จากนั้นก็เดินทางกลับที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยที่ตนไม่ได้คิดอะไร
กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นได้มีเพื่อนโทรศัพท์มาถามว่าแน่ใจหรือว่าเอาสิ่งของไปบริจาค 3 คน ทำไมกลับมา 4 คน ซึ่งตนก็ยืนยันว่ากลับมาเพียง 3 คนเท่านั้น เพื่อจึงส่งภาพมาให้ดูโดยวงกลมในในจุดที่เพื่อนเชื่อว่าเป็นคนที่ 4 ซึ่งตนดูแล้วถึงกับขนลุกซู่ เพราะถ้าสังเกตดีๆ จะมีลักษณะคล้ายผู้หญิงนั่งเอามือไว้ตรงหน้าตัก ตนจึงส่งไปให้เพื่อนๆ คนอื่นดู ซึ่งทุกคนก็มองเห็นว่าเป็นภาพผู้หญิง และเชื่อว่าเป็นวิญญาณของคนที่เราเคยช่วยเหลือ อาจจะมาขอบคุณหรืออาจจะร่วมเดินทางไปทำบุญด้วยก็ได้
ซึ่งเมื่อตนมานึกย้อนกลับไปในช่วงเดินทางไปบริจาคสิ่งของใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ขากลับใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะหลังจากออกจากปั๊มน้ำมันดังกล่าวก็มีเหตุการณ์ที่ตนและเพื่อนๆ ต้องจอดรถช่วยเหลือคนตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเจอคนเมาเดินขวางถนนต้องจอดและเรียกเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มาให้การช่วยเหลือ รวมทั้งมาเจอสายสัญญาณหล่นจากเสาไฟฟ้าและพาดขวางถนน ตนและทีมงานก็ต้องจอดรถและคอยให้สัญญาณเตือนรถคันอื่นๆ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย
พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ให้มาแก้ไข จนรถสามารถผ่านได้ตามปกติ จากนั้นจึงกลับถึงพื้นที่หล่มสัก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะหญิงสาวที่เห็นในรถหรือเปล่าไม่ทราบที่ต้องการให้ตนเจอ และให้การช่วยเหลือในเหตุการณ์ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามในส่วนตัวในฐานะที่ตนทำงานเกี่ยวกับมูลนิธิอยู่กับคนเจ็บ คนป่วย คนตาย และมีความเชื่อในเรื่องดวงวิญญาณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จึงไม่เคยลบหลู่ผู้เสียชีวิตหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
สำหรับรถคันดังกล่าวเป็นรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บห 1203 เพชรบูรณ์ ใช้สำหรับกิจกรรมอาสามูลนิธิสว่างธรรมสถานฯเพชรบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นรับคนป่วย ช่วยคนบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล นำศพส่งญาติ โดยล่าสุดได้รับศพเด็กหญิงวัย 6 เดือนไปส่งญาติเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
