โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

NER เมื่อธุรกิจ “แผ่นปูนอนวัว” อาจเป็น key catalyst การเติบโตในอนาคต

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 22.07 น. • เผยแพร่ 15 พ.ย. 2564 เวลา 08.35 น. • ศุภมาศ ศรีขำ

NER หรือ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นยางพาราที่ทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3/64 ทำกำไรสุทธิที่ 440 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยนักวิเคราะห์จาก บล.เคทีบีเอสทีระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ NER สูงกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาด 10% จาก Gross margin ที่สูงกว่าคาด หากตัดรายการพิเศษและขาดทุนจาก FX ออก core profit จะอยู่ที่ 609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยสาเหตุที่เติบโตโดดเด่นจากไตรมาส 3/63 เป็นผลจากทั้งปริมาณการขายและราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปริมาณขายอยู่ที่ 140 แสนตัน เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 51.2 บาทต่อกก.เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 5% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วน gross margin อยู่ที่ 13.2% ขณะที่ไตรมาส 3/63 อยู่ที่ 9.3%และไตรมาส 2/64 ที่ 12.6% ซึ่งสูงกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้ที่ 12.5% ทั้งนี้ค่าใช้จ่าย SG&A/Sales ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 3.2% เทียบกับไตรมาส 2/64ที่ 3.9% จากสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศลดลงทำให้ค่าธรรมเนียมส่งออกยางพาราลดลง
ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 1,863 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% จากปีก่อน ส่วนปี 2565 คาดกำไรสุทธิที่ 2,077 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปีนี้ ดัวยปัจจัยหนุน 1. คาดปริมาณการขายปี 2564-2565 อยู่ที่ 450,000 ตัน และ 500,000 ตัน ตามลำดับ, 2. คงประมาณการ gross margin ปี 2564/65 ที่ 12.2% โดยกำไรปี 2565 มี upside จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นและรายได้จากธุรกิจแผ่นปูนอนวัวที่ฝ่ายวิเคราะห์ยังไม่ได้รวมไปในประมาณการ
ขณะเดียวกันราคาหุ้นของ NER underperform SET ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา 6% และช่วง 3 เดือนประมาณ 20%จาก sector rotation ไปยังกลุ่มพลังงานและเปิดประเทศ โดยฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"เพราะมองว่าการเข้าไปทำธุรกิจปลายน้ำของบริษัท จะเป็น key catalyst หลักในการเติบโตในอนาคต โดยธุรกิจแผ่นปูนอนวัวเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง คาด net margin อยู่ราว 20% จาก net margin ของบริษัทปัจจุบันอยู่ประมาณ 5-6%ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากความต้องการยางที่ยังอยู่ในระดับสูง และกำไรเพิ่มเติมจากธุรกิจใหม่ โดยปัจจุบันบริษัทเทรดอยู่ที่ PER 2565 เพียง 6.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมยางในอดีตที่ประมาณ 8 เท่า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0