โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

GULF วางแผน 10ปี ทุ่มเงิน 7.4 หมื่นลบ. ลงทุนโรงไฟฟ้า-ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน

Wealthy Thai

อัพเดต 10 ส.ค. 2566 เวลา 04.06 น. • เผยแพร่ 24 พ.ย. 2564 เวลา 16.46 น. • This’s Alano

GULF เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนในอีก 10 ปีข้างหน้า (65-74) จะใช้งบลงทุนรวมราว 74,000 ล้านบาท (ไม่รวม M&A) เพื่อรองรับการลงทุน กางแผนปี 65 รายได้โต 60%ปัจจัยบวกเพียบบุ๊ก INTUCHเต็มปี
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนในอีก 10 ปีข้างหน้า (65-74) จะใช้งบลงทุนรวมราว 74,000 ล้านบาท (ไม่รวม M&A) เพื่อรองรับการลงทุนในโครงการตามแผน ทั้งในธุรกิจ พลังงานหมุนเวียนราว 62% รวมทั้งธุรกิจ Gas-fired Power Generationราว 23%และInfrastructure อีก 15%โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากเงินทุนหมุเวียน สถาบันการเงิน และการออกหุ้นกู้
ทั้งนี้ทางบริษัทบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายราย เพื่อเข้าซื้อกิจการ หรือ M&Aโดยมูลค่าการลงทุนตั้งแต่ 10,000-30,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/65 หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกครั้งภายหลัง
ในปี 2565 วางเป้าหมายจะมีรายได้รวมเติบโตระดับ 60%จากปี 64โดยปัจจัยสนับสนุนจะมาจาก จะมีการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ เอสอาร์ซี (GSRC) หน่วยที่ 3-4 ขนาดกำลังการผลิตรวม 1,325 เมกะวัตต์ (MW) โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือน มี.ค.และต.ค. 65
รวมทั้งยังมีโครงโซลาร์รูฟท็อปราว 90 MW ที่จะทยอย COD ในปี 65นอกจากนี้ยังมีการรับรู้รายได้และกำไรเต็มปีจากโครงการ GSRC Units 1 & 2 ขนาด 1,325 MWรวมถึงโรงไฟฟ้าที่โอมานเฟส 1 บริษัทถือหุ้น 49% ขนาด 40% ก็จะรับรู้กำไรเต็มปีอีกด้วย และบันทึกบัญชีสำหรับเงินลงทุนใน INTUCH เป็น Equity Methodแบบเต็มปีเช่นกัน โดยวางงบลงทุนในปี 65 ราว 10,000 ล้านบาท รองรับโครงการตามแผน ไม่รวม M&A

ไตรมาส 4/64 รายได้โตต่อ

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/64 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจาก โรงไฟฟ้า GSRC Unit 2 กำลังการผลิต 662.5 MWที่ COD ไปแล้วช่วงเดือนต.ค.64รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนามเฟส 1 จำนวน 30 MW ที่คาดจะ COD ในไตรมาส 4/64 ประกอบกับยังมีผลบวกจากโรงไฟฟ้าแก๊สที่ประเทศโอมาน DIPWP Phase 1 จำนวน 40 MWคาดว่าจะ COD ในเดือนธ.ค.นี้ และโครงการโซลาร์รูฟท็อป GULF1 projects 10 MWจะ COD ภายในไตรมาส 4/64
นอกจากนี้ยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของ โครงการ Borkum Riffgrund 2 Offshore Wind projectขนาด 465 MWที่ประเทศเยอรมันนี ขณะเดียวกันความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าจะกลับเข้ามาหลังจากเปิดประเทศทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้นในไตรมาส 4/64 รวมทั้งยังเริ่มบันทึกบัญชีสำหรับเงินลงทุนใน INTUCH เป็น Equity Method ทำให้จะเริ่มต้นรับรู้ส่วนแบ่งกำไรใน INTUCH เป็นไตรมาสแรก ดังนั้นจึงคาดว่าปี 2564 จะมีรายได้เติบโตระดับ 50% จากปีก่อน
ขณะที่พรุ่งนี้ (25 พ.ย.64) บริษัทจะมีการลงนามในสัญญาร่วมทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3ในส่วนของท่าเทียบเรือ F กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยบริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลตั้งขึ้นเฉพาะกิจ (SPV) ของกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC (บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ถือหุ้น 40%, บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (บริษัทในกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT) ถือหุ้น 30% และ บริษัท China Harbour Engineering Company Limited ถือหุ้น 30%)
ส่วนความคืบหน้าในการลงนามบันทึกความร่วมมือกับ Singapore Telecommunications Limited (Singtel) เพื่อร่วมกันศึกษาและจัดทำแผนพัฒนาธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศไทย คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในช่วงไตรมาส 1/65
ขณะที่ในช่วงต้นปี 65 บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ราว 2 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับใช้คืนหนี้เงินกู้ซื้อ INTUCHและเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0