โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เฮีย ป. โอนไว หมดตัวเพราะรัก 4 ล้าน วอนเร่งรัดคดี หวั่นสาวโยกเงินไปบัญชีอื่น

ไทยรัฐออนไลน์ - Social

อัพเดต 10 ก.ค. 2563 เวลา 10.48 น. • เผยแพร่ 10 ก.ค. 2563 เวลา 10.48 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

เฮีย ป. หนุ่มใหญ่โอนไว เข้าพบตำรวจติดตามคดี หลังถูกสาวที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก ไม่เคยเจอหน้าหลอกให้โอนเงินกว่า 4 ล้านบาท วอนตำรวจช่วยเร่งรัดคดี กังวลสาวคนดังกล่าวจะโยกเงินไปบัญชีอื่น

จากกรณี ชายวัย 53 ปี หรือ เฮีย ป. ชาวเสาไห้ จ.สระบุรี นำเอกสารเข้าร้องทุกข์กับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูกสาวแจง (นามสมมติ) อายุ 32 ปี หลอกให้รัก คบกันผ่านออนไลน์ 2 ปี โอนเงินไปให้ 4 ล้านบาท โดยที่เฮีย ป. ไม่เคยได้เห็นหน้าจริง ไม่เคยเจอกัน เห็นเพียงแต่ภาพถ่ายในไลน์ และรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก จากที่ดูในภาพจะเห็นว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวยมาก

ทั้งนี้ เฮีย ป. กล่าวว่า ตอนนั้นเขายังทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี ด้วยความที่เป็นพ่อม่าย ตามหารักแท้ จึงตกลงคบหากับแจง โดยที่ฝ่ายน้องแจงได้มีการเขียนหนังสือสัญญาว่าจะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา จึงทำให้หลงรักและเชื่อใจ อยากใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน รวมถึงอยากช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ 

หลังจากที่เริ่มคบสักระยะก็มีเหตุการณ์ที่น้องแจง เอามา กล่าวอ้างว่า พ่อเสียชีวิต ไม่มีเงินทำศพ ไม่นานก็ส่งรูปงานศพแม่ให้บอกว่า ไม่มีค่าจัดงานศพแม่อีก เขาเองก็โอนเงินไปช่วยเหลือทุกครั้ง จากนั้นน้องแจง ก็อ้างอีกว่า จะเข้าทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง โดยจะต้องใช้เงินประกันการทำงาน

หลังจากนั้นอีก 4-5 เดือน ก็บอกจะมาทำงานที่สุวรรณภูมิเพื่ออ้างขอเงินกับเขาอีก รวมทั้งยังอ้างถึงที่ดิน จ.เชียงราย ติดธนาคาร ธ.ก.ส. ขอเงินไถ่ถอนเพื่อเอาออกมาขาย และจะใช้หนี้ให้ทั้งหมด

เฮีย ป. ยอมรับว่าที่ต้องมาถึง สภ.เสาไห้ ในวันนี้เพราะร้อนใจและร้อนเงิน เนื่องจากขณะนี้เหลือเงินติดตัวเพียงหมื่นเศษ และกังวลว่าสาวที่หลอกลวงจะโยกเงินไปบัญชีอื่น เพราะทราบว่าผู้หญิงไปคบผู้ชายคนใหม่ และที่อ้างว่าพ่อแม่เสียชีวิตไม่เป็นความจริง

ร.ต.อ.สัมพันธ์ หมื่นพินิจ รอง สง.สอบสวน สภ.เสาไห้ เจ้าของคดี เผยว่า คดีนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและทำหนังสือขอตรวจสอบเส้นทางการเงินกับธนาคารเจ้าของบัญชี ก่อนออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหา ส่วนสเตทเมนต์ที่ผู้เสียหายนำมาแจ้งความพบมีการโอนเงินตั้งแต่ปี 62 ถึงกลางปี 63 รวม 16 ครั้ง ครั้งที่มากที่สุดโอนเป็นเงิน 1.3 ล้านบาท.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0