การเสริมจมูก ไม่ใช่แค่ทรงเท่านั้นที่ทุกคนต้องรู้ข้อมูล
และเตรียมตัวก่อนเข้ารับคำปรึกษากับศัลยแพทย์ แต่การผ่าตัด
ยังมีเรื่องของแผลซึ่งเป็นเทคนิคที่เราควรศึกษาไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการคุยกับหมอที่เข้าใจมากขึ้น
และสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจได้เช่นกัน โดยการเสริมจมูกนั้นมีการผ่าตัด 2
เทคนิคที่คุณหมอจะพิจารณา
ซึ่งความต่างหลักๆ อยู่ที่ลักษณะการผ่าตัด และแผลที่จะเกิดขึ้นหลังผ่าตัดนั่นเอง
เสริมจมูก ด้วยการผ่าตัดแบบปิด
แบบปิดหรือแบบ Close แปลว่า การผ่าตัดจมูกที่ใช้เทคนิคการทำให้ไม่เห็นแผลภายนอก ซึ่งคุณหมอจะใช้วิธีการผ่าเฉพาะในรูจมูก และผ่าให้แผลซ้อนอยู่ในรูจมูกทั้ง 2 ด้าน และที่เรียกว่าปิด ยังมีเหตุผลอีกว่า เป็นวิธีที่ไม่ได้เปิดโครงสร้างให้เห็นทั้งจมูก คุณหมอจึงต้องมีความเชี่ยวชาญทราบตำแหน่งของกระดูกอ่อนของจมูกว่าอยู่บริเวณส่วนไหน
ข้อดีและข้อจำกัด
แผลเล็ก แทบจะมองไม่เห็นเพราะอยู่ด้านในรูจมูก จึงเป็นวิธีที่คนนิยมทำ หากไม่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างจมูกใดๆ
บวมช้ำน้อย หายเร็วขึ้น เพราะพอไม่ได้เปิดโครงสร้างให้เห็นทั้งหมด ก็ทำให้ไม่กระทบเนื้อเยื่อมาก
การดูแลรักษาจะไม่ยุ่งยาก เนื่องจากแผลอยู่ด้านใน
ผ่าตัดเร็วกว่าใช้เวลา 1.5 – 2 ชั่วโมง
เหมาะกับการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอย่างเดียว
เสริมจมูก ด้วยการผ่าตัดแบบเปิด
แบบเปิดหรือแบบ Open แปลตรงตัวคือ การผ่าตัดที่ต้องเปิดโครงสร้างจมูก ซึ่งจะมีการเปิดจากรูจมูกด้านหนึ่งและผ่านเนื้อจมูกตรงกลาง จึงทำให้เห็นแผลตรงสันจมูกได้นั่นเอง
ข้อดีและข้อจำกัด
แผลค่อนข้างเห็นชัดตรงสันจมูก ยิ่งตอนเมื่อเงยหน้าขึ้น
แผลหายยากกว่าแบบปิด จึงพักฟื้นนานกว่า
ความต่างที่ชัดมากระหว่างผ่าตัดแบบปิด คือสามารถปรับโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมด ทั้งการแก้ไข ลดขนาดจมูก หรือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างจมูก เช่น จมูกคด ทำให้หายใจไม่สะดวก เป็นต้น
เหมาะกับการใช้กระดูกอ่อนมาเสริมจมูกร่วมด้วย
ผ่าตัดนานกว่า 2-4 ชั่วโมง
ราคาจะแพงกว่า เพราะอาจต้องใช้ยาสลบด้วย
คำแนะนำ
การที่จะดูว่าเราเสริมจมูกแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ของคุณหมอ เพราะโครงสร้างและความต้องการของคนไข้แต่ละเคสไม่เหมือนกัน การปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดจึงมีความสำคัญมากๆ นั่นเองจ้า และถ้าอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเสริมจมูกตามโหงวเฮ้ง CLICK
