สุดเศร้า! นักธุรกิจเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังในเมืองหาดใหญ่ ใช้อาวุธปืนยิงเมียและยิงตัวตายตามคาร้าน จากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่ประสบปัญหามีหนี้สินจำนวนมาก และมาเจอโควิดซ้ำพยายามประคับประคองให้อยู่รอดแต่สุดท้ายก็หาทางออกไม่เจอตัดสินใจจบชีวิตพร้อมๆกันในสภาพที่ภรรยานอนกอดสามีอยู่บนเตียงนอน
วันที่ 9 ก.ค. ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต 2 รายภายใน หจก.ณัฐริกา เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังใน อ.หาดใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 448/16 ถนนสยามซิตี้เซ็นเตอร์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา
หลังจาก พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผู้กำกับการสภ.หาดใหญ่ พร้อมตำรวจชุดสืบสวนและปราบปราม แพทย์ รพ.หาดใหญ่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่า บนห้องนอนชั้น 3 มีร่างของชายหญิงนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน ทราบชื่อ นายสมศักดิ์ สุวรรณกิจวัฒน์ หรือเฮียศักดิ์ อายุ 55 ปี และนางณัฐริกา สุวรรณกิจวัฒน์ อายุ 60 ปี หรือเจ้ณัฐ ทั้งคู่เป็นผัวเมียกันและเป็นเจ้าของ หจก.ณัฐริกา เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งตั้งตามชื่อของภรรยา โดยสภาพทั้งสองคนฝ่ายชายนอนหงายอยู่บนเตียงโดยมีร่างของฝ่ายหญิงนอนกอดอยู่ และทั้งคู่มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กลางศรีษะคนละนัดในลักษณะจ่อยิง ที่พื้นพบปืนสั้นขนาด 0.22 ตกอยู่ และที่มือซ้ายของฝ่ายชายยังมีคราบเขม่าดินปืน ภายในห้องไม่มีร่องรอยของการรื้อค้นหรือการต่อสู้
เบื้องต้นคาดว่าเป็นการจงใจยิงตัวตาย โดยฝ่ายชายยิงภรรยาก่อนแล้วยิงตัวตายตาม พนักงานสอบสวนจึงได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและจะสอบสวนผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการกสอบถามพี่ชายของผู้ตายซึ่งเข้ามาที่ร้านและพบศพเป็นคนแรกบอกว่าเมื่อคืนนี้ตอนตี 3 นายสมศักดิ์ น้องชายได้ไลน์ไปหาบอกว่าให้ช่วยมาหาที่ร้านโดยได้เปิดประตูหลังร้านรอไว้ ตอน 6 โมงเช้าจึงมาที่ร้านและเงียบผิดปกติเรียกไม่มีใครตอบจึงขึ้นไปบนห้องนอนเปิดประตูเข้าไปก็พบร่างทั้งสองคนนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงจึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ส่วนสาเหตุพี่ชายบอกว่า น่าจะมาจากความเครียดเรื่องธุรกิจร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งคู่ทำอยู่เนื่องจากระยะหลังตั้งแต่ก่อนเกิดโควิดเริ่มมีปัญหาและมีหนี้สินจำนวนมาก พอมาช่วงโควิดยิ่งหนักแต่ก็ยังพยายามประคองมาตลอด แต่สุดท้ายน่าจะถึงจุดที่หาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจยิงตัวตายพร้อมกันเพื่อจบปัญหา โดยที่ร้านอยู่ด้วยกัน 3 คนคือน้องชายกับภรรยาและแม่อายุประมาณ 90 ปี ซึ่งอยู่อีกห้อง ส่วนสาเหตุอื่นไม่น่าจะมีทั้งปัญหาครอบครัวซึ่งมีลูกสาว 2 คนที่อยู่กรุงเทพฯโดยกำลังเรียน 1 คน และทำงานแล้ว 1 คน
ด้านพนักงานที่ร้านของผู้ตายซึ่งเดินทางมาทำงานที่ร้านในช่วงเช้าถึงกับกอดกันร้องไห้ด้วยความตกใจและเสียใจที่มาทราบข่าวว่าทั้งเฮียศักดิ์และเจ๊ณัฐ ฆ่าตัวตาย โดยพนักงานชายที่เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตายเมื่อวานนี้เล่าว่า ทั้งเฮียศักดิ์และเจ๊ณัฐ เป็นเจ้านายที่ใจดีมากรักลูกน้องโดยมีร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่ 2 สาขาใน อ.หาดใหญ่ คือ สาขาที่เกิดเหตุและอีกสาขาอยู่ที่ถนนสามสิบเมตร เมื่อวานนี้ตนได้ขับรถให้เฮียศักดิ์ เจ้านายนำโฉนดที่ดินไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคาร
โดยเฮียศักดิ์ได้เปิดใจเล่าปัญหาทั้งหมดเกี่ยวกับธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ให้ฟังซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับหนี้สินและพยายามประคับประคองให้ร้านและพนักงานอีก 8 คนอยู่ให้ได้ และยังไลน์มาสั่งงานให้ช่วยกันเซลล์สินค้า และกุญแจรถให้เข้ามาเอาได้เลยประตูหลังเปิดอยู่ โดยเฮียศักดิ์ เครียดมาหลายวันอยู่แต่บนห้องไม่ค่อยได้ลงมาหน้าร้าน
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยในนำร่างของทั้งคู่ส่ง รพ.หาดใหญ่เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้งและมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
