สธ.แจง ศบค. คาดอย่างเร็ว 6 เดือน ทดลองฉีดวัคซีนโควิดในคน ด้าน“บิ๊กตู่”สั่งหาข้อกฎหมายเสริมพ.ร.บ.โรคติดต่อ หากเลิกใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19 หรือ ศบค.ทางกระทรวงสาธารณสุข รายงานความคืบหน้าของการศึกษาและทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ได้ทดลองกับลิง และคาดว่าอีกประมาณ 6 เดือน จะสามารถทดลองฉีดวัคซีนนี้ในมนุษย์ และอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี เป็นอย่างน้อย จึงจะมีวัคซีนดังกล่าวออกมาใช้ได้
- อ่าน ศบค. รายงานผู้ป่วยโควิด พบเพิ่มอีก 11 ราย ทั้งหมดเดินทางกลับจากคูเวต!
- อ่าน มอสโกเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 1,500 ราย หลังชันสูตรศพซ้ำ-เจอไวรัสอื้อ
- อ่าน ไม่ได้ขู่! หมอเตือน โควิด2 มาแน่ คูณยกกำลังสอง ติดเชื้อ-ตาย ขึ้นกับคน 3 กลุ่ม
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดและจำนวนผู้ติดเชื้อในไทย ที่ดีขึ้นเรื่อยๆแต่อีกหลายประเทศยังน่าเป็นห่วง ขณะเดียวกัน การตรวจพบคนไทยที่ติดเชื้อหลังกลับจากต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น รวมทั้งสำรวจพฤติกรรมประชาชนในระยะหลังพบว่าป้องกันตัวลดลง และประชาชนยังเดินทางออกนอกจังหวัด และมีการพบปะรวมกลุ่มกันมากขึ้น ขณะที่สถานที่หลายแห่งมีการจัดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไม่เข้มข้นเท่าที่ควร
ทั้งนี้ นายกฯย้ำในที่ประชุมว่าทุกหน่วยต้องช่วยย้ำประชาชนว่าอย่าประมาท และต้องปฏิบัติมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด แม้ได้เข้าสู่การผ่อนปรนกิจการและกิจกรรม ในระยะที่ 3 เพราะสถานการณ์ของโรคดังกล่าวถือว่ายังวางใจไม่ได้ และนายกฯสั่งการให้ทีมงานความมั่นคงไปตรวจสอบกิจการต่างๆที่ได้รับการผ่อนคลายระยะที่ 3 ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการที่ศบค.กำหนดครบถ้วนหรือไม่
ในที่ประชุมศบค.ยังไม่ได้หารือว่าควรจะใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไปถึงเดือนไหน แต่นายกฯ กำชับบรรดาหน่วยงานที่อยู่ในศูนย์ปฏิบัติต่างๆของ ศบค.ให้เร่งศึกษาว่าหากในอนาคตจะยกเลิกการใช้ พ.ร.ก. จะออกมาตรการอะไรมารองรับหรือนำกฎหมายใดบ้างที่ใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เพราะคาดว่าพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 คงไม่เพียงพอ
เนื่องจากการทำงานในการควบคุมและป้องกันโรคมีหลายด้านประกอบกัน หลังจากยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วพบว่าสถานการณ์ของโรคเปลี่ยนไป จนทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกคำสั่งใดๆอีก อาทิ สั่งปิดกิจการ หรือต้องจำกัดการเดินทางของประชาชน ก็อาจจะทำให้หน่วยงานรัฐ ถูกคนบางส่วนใช้กฎหมายอื่นๆไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการทำงานและจะส่งผลกระทบกับการแก้ปัญหา ได้ นายกฯเป็นห่วงประเด็นนี้จึงย้ำให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบปกติ เพราะไม่มีทางที่จะใช้พ.ร.ก.ดังกล่าวไปได้ตลอด
