วิเคราะห์ : โปรโมชั่นฟรีที่อาจไม่ฟรี

โปรโมชั่นโครงการอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโดฯ ในช่วงเดือนมีนาคม เมษายน 2563 ที่การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แรงสุดนั้น

โปรโมชั่นลดราคาอย่างหนัก 20-40% แบบว่าขายแทบทุกราคาที่ลูกค้าจะซื้อ ดูเป็นที่ตื่นตาตื่นใจที่สุด โปรโมชั่นลักษณะนี้เป็นที่เข้าใจได้ เพราะแรกๆ ผู้ซื้อยังไม่คิดควักเงินออกมาซื้อ แต่ถ้าราคาถูกพอ ก็ทำให้ผู้ซื้อเปลี่ยนใจมาซื้อได้

แต่มีอีกโปรโมชั่นหนึ่งที่น่าฉงนใจมาก เป็นโปรโมชั่นให้เข้าอยู่ฟรี 2-3 ปีก่อน

โปรโมชั่นอยู่ฟรี ปกติแล้ววงการอสังหาริมทรัพย์ไม่นิยมใช้วิธีนี้ เพราะถ้าให้ลูกค้าเข้าอยู่ก่อนจนถูกใจแล้วค่อยตัดสินใจซื้อภายหลังนั้นทางโครงการมีความเสี่ยงกรณีลูกค้าไม่ชอบ ย้ายออกไปห้องชุดห้องนั้นหรือบ้านหลังนั้นก็กลายเป็นบ้านเก่าที่มีคนเคยอยู่แล้ว อาจทำให้ราคาเสียได้

แต่วิกฤตโควิด-19 คราวนี้ มีบริษัทอสังหาฯ หลายรายและเป็นรายใหญ่ของตลาดเสียด้วยที่ใช้โปรโมชั่นอยู่ฟรี

ข้อแตกต่างของโปรโมชั่นอยู่ฟรีครั้งนี้ต่างจากยุคก่อน และต่างจากโปรโมชั่นอื่นๆ

โปรโมชั่นทั่วไปหวังให้ลูกค้าใหม่เดินเข้ามาจองที่สำนักงานขายหรือจองออนไลน์ด้วยแรงจูงใจโปรโมชั่น

แต่โปรโมชั่นอยู่ฟรี 2-3 ปี มีเป้าหมายจูงใจให้ลูกค้าที่วางเงินจอง ผ่อนเงินดาวน์ไปแล้ว หรือบางรายอาจผ่อนดาวน์ครบแล้ว แต่ไม่กล้าโอน ให้กล้ากู้กล้าโอน

เพราะวิกฤตโควิด-19 ทำให้อาชีพที่เคยมั่นคงกลายเป็นอาชีพสั่นคลอนขึ้นมาทันทีทันใด ได้แก่ อาชีพเกี่ยวกับการบิน ไม่ว่าจะเป็นนักบิน แอร์โฮสเตท สจ๊วต อาชีพเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวทุกระดับ ซี่งอาชีพเหล่านี้ที่ผ่านมาเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีมั่นคง แต่เมื่อเจอวิกฤตโควิด-19 การเดินทาง การท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดชะงัก ธุรกิจเหล่านี้เกิดวิกฤตทันที คนทำงานเจอปัญหาตกงานหรือรายได้ลดทันที

สถาบันการเงินก็ปฏิเสธการปล่อยกู้สินเชื่อให้กับคนเหล่านี้แทบจะทันทีเหมือนกัน

นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้ขายสินค้าที่อยู่อาศัย จึงต้องเข้ามาเป็นผู้แก้ปัญหาผ่าทางตันนี้ โดยการเข้าไปเจรจาตกลงกับสถาบันการเงิน เข้าไปเป็นผู้รับภาระชำระเงินงวดของเงินกู้ให้กับลูกค้าก่อนระยะหนึ่ง 2-3 ปี ซึ่งสถาบันการเงินพิจารณาให้เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยและงวดการชำระพิเศษ

ผู้ซื้อที่ผ่อนดาวน์ครบแล้ว หรืออยู่ระหว่างผ่อนดาวน์ มั่นใจได้ว่าแม้จะตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน ก็ไม่มีปัญหา 2-3 ปีนี้ยังไม่ต้องผ่อน

ลูกค้าใหม่ที่ยังไม่ได้จองจะใช้สิทธินี้ ทางโครงการก็ยินดี

กรณีดังกล่าวนี้ ไม่ได้บอกว่านักพัฒนาอสังหาฯ เป็นนักบุญ แต่เป็นนักแก้ปัญหาและจำเป็นต้องแก้

เพราะเงินดาวน์ที่ได้จากลูกค้านั้นเป็นเพียง 10% ของราคาบ้าน แต่ถ้าลูกค้ายอมโอนและโอนได้ บริษัทจะได้เงินอีก 90% ที่ลูกค้ากู้จากธนาคารทันที เงินก้อนนี้เป็นก้อนใหญ่เป็นกอบเป็นกำ โดยยอมเป็นภาระผ่อนงวดเงินกู้แทนลูกค้าไปพลางก่อน 2-3 ปี

ถึงเวลานั้นเศรษฐกิจธุรกิจแก้ปัญหาจบไปแล้ว ลูกค้าธุรกิจฟื้นตัว ลูกค้ามีงานทำมีรายได้ สามารถรับภาระการผ่อนได้เอง

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่