โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วิษณุอ้างสมัยปู ใช้รัฐมนตรีแจงแทน

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 17 ส.ค. 2562 เวลา 17.51 น. • เผยแพร่ 17 ส.ค. 2562 เวลา 22.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

พท.เย้ยตู่หนีสภา เด็กกลัวบ้านผีสิง

พท.ดาหน้าขย่ม “บิ๊กตู่” “เจ๊หน่อย” ย้อนทำไมต้องให้ทวงสำนึก ร่าง รธน.มากับมือดันทำผิดซะเอง รู้ตัวว่าผิดสารภาพซะก็จบ เย้ยอย่าทำตัวเป็นเด็กกลัวบ้านผีสิง โฆษก พท.กระทุ้งหนีสภาฯคือการแสดงความรับผิดชอบหรือ “จุรินทร์” ชี้เป็นสิทธิ์ฝ่ายค้าน ไม่มีปัญหาถ้ายึดขั้นตอน “เทพไท” หนุนใช้เวทีสภาฯแก้ปัญหา “วิษณุ” ชี้ช่องให้คนอื่นแจงแทน อ้างยุค “ยิ่งลักษณ์” ยังทำได้ รัฐบาลเร่งกระตุ้น ศก.สุดตัว “จุรินทร์” ชงปาล์ม 4บาท/ กก.เข้า ครม. มาอีกชุดใหญ่ประกันรายได้ข้าว 5 ประเภท มท.จ่อถลุงงบฯค้างท่อ 6 แสนล้าน “สุดารัตน์” อัดกระตุ้นไม่ตรงจุด “วัฒนา” ฉะ ไม่บ้าก็เสียสติหว่านเงินไร้ผล พท.จวกเสพติดแจกเงินพร่ำเพรื่อ

ตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศเสียงดังฟังชัดไม่ได้กลัวการเข้าไปชี้แจงตอบข้อซักถามในสภาผู้แทนราษฎร

ฉะ “บิ๊กตู่” ทำไมต้องให้ทวงสำนึก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่วัดสุวรรณาราม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรี เป็นการทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเรียกร้อง แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ เหตุใดเราต้องพูดถึงการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน ทั้งที่เป็นรัฐธรรมนูญที่ พล.อ.ประยุทธ์ผลักดันและร่างขึ้นมาเอง เพื่ออำนวยให้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง แต่กลับไม่ปฏิบัติตาม และไม่ใช่การทำผิดครั้งแรก หลังจากใช้รัฐธรรมนูญมา 2-3 ปี พล.อ.ประยุทธ์ทำสิ่งที่ขัดรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่เพราะเป็นหัวหน้า คสช.มีมาตรา 44 อยู่ วันนี้ไม่มีแล้วแต่ยังทำผิดรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ควรทำสิ่งที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญกำหนด เหมือนกลัดกระดุมเสื้อถ้าเม็ดแรกผิดเม็ดต่อไปผิดหมด

รู้ตัวว่าผิดสารภาพซะก็จบเรื่อง

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า การเสนออภิปรายของฝ่ายค้านเพื่อให้เคลียร์ปัญหา เป็นความหวังดีไม่มีเจตนาร้ายต่อนายกฯ เพราะกลัวว่าการทำงานของรัฐบาลจะเป็นโมฆะ เช่น การอนุมัติเงิน 5 หมื่นล้านบาทไปช่วยเกษตรกร ถ้ามีคนไม่เห็นด้วยร้องเรียนขึ้นมา หากในอนาคตมีการตัดสินว่าผิดรัฐธรรมนูญจริง เงินที่แจกลงไปพื้นที่แล้วจะไม่สามารถเอาคืนได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองทำผิดและสารภาพว่าทำผิด ก็ควรแก้ไขด้วยตัวเอง แต่นี่ปล่อยเวลามาเป็นเดือนไม่ทำอะไร และจะบริหารงานต่อ การแก้ไขจะเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา เสียโอกาสชาวบ้าน

อย่าทำตัวเป็นเด็กกลัวบ้านผีสิง

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า เมื่อนายกฯไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ก็เอาเข้าสภาฯให้ร่วมกันคิดร่วมกันแก้ นายกฯคิดอย่างไร สภาฯมีความเห็นอย่างไรปรึกษากันให้ถูกต้อง ไม่มีใครอยากจองล้างจองผลาญตามที่รัฐบาลพูด นายกฯจุดไฟขึ้นมาเองก็เผาไหม้ตัวเอง พรรคฝ่ายค้านเพียงแค่จะไปช่วยดับให้ จะได้มาช่วยทำงานให้ประชาชน เรื่องทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ทำตัวเองทั้งนั้น อย่ากลัวสภาฯท่านต้องไปทำความเข้าใจกับระบอบประชาธิปไตย และการทำงานในระบบรัฐสภาใหม่ นายกฯจะกลัวการเข้าสภาฯเหมือนเด็กกลัวเข้าบ้านผีสิงอย่างที่สื่อมวลชนเขียนไม่ได้ ส่วนข้ออ้างว่าเรื่องอยู่ในชั้นผู้ตรวจการแผ่นดิน ทางผู้ตรวจการแผ่นดินก็ทำไป ทางสภาฯก็ดำเนินการไป รัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ก็ผลักดันเอง มีมาตรา 152 ให้มาปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วทำไมจึงไม่ใช้สภาฯแก้ไขปัญหา เมื่อนายกฯยืนยันว่ามาจากวิถีประชาธิปไตยต้องไม่กลัวสภาฯ

ไม่ต้องกังวลต่อการตรวจสอบ

นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์เปรียบเทียบสถานการณ์ประเทศไทยว่า ต่อให้นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ มาบริหารก็เอาไม่ไหวนั้น ท่านคงคุ้นชินกับการพูดฝ่ายเดียวมาตลอด 5 ปี ไม่ต้องกังวลต่อระบบการตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์มักอ้างว่ามาจากระบอบประชาธิปไตย หัวใจของระบอบประชาธิปไตยคือการตรวจสอบถ่วงดุล การวิพากษ์วิจารณ์ภายใต้กรอบกติกา คนเป็นผู้นำต้องมีความอดทนที่จะรับฟัง ยิ่งเป็นสภาฯที่ประชาชนเลือกมายิ่งหนีไม่พ้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์คิดว่ามีความพยายามที่จะให้รัฐบาลเป๋ นั่นคือสาเหตุที่ต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญทำให้การเมืองเข้มแข็ง ประเทศจะได้เดินต่อไปได้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นปัญหาทำให้การเมืองอ่อนแอ พล.อ.ประยุทธ์และคนในรัฐบาลมักโฆษณาชวนเชื่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้คือฉบับที่ดีที่สุด แต่ตัวเองกลับเลี่ยงที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ห้ามคนอื่นวิจารณ์

ไหนบอกจะรับผิดชอบแต่ผู้เดียว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปของพรรคฝ่ายค้าน เป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ หากไม่ดำเนินการอาจถูกมองว่าปล่อยปละละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ที่ผ่านมาดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ กำลังหลบเลี่ยงหนีปัญหา การกระทำสวนทางกับคำพูด บอกว่าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว แต่รับผิดชอบได้เพียงแค่การไม่พูดถึงเรื่องถวายสัตย์ฯ อีก บอกว่าไม่กลัวสภาฯพร้อมมาชี้แจง แต่ที่ผ่านมาหนีสภาฯตลอด ขนาดประธานสภาฯยังแฉว่า พล.อ.ประยุทธ์หนีสภาฯโดยไม่เคยแจ้งเหตุผล ไม่ลาให้ถูกต้อง พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถหนีปัญหาหนีสภาฯได้ตลอด ทางที่ดีหันกลับมาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง สิ่งใดทำผิดกลับไปดำเนินการให้ถูกต้อง อย่าประวิงเวลา โดยเฉพาะหากไม่แก้ไขก่อนที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 หากเกิดปัญหาขึ้นมาจะส่งผลกระทบต่อประเทศและประชาชน

ปชป.มั่นใจวิป รบ.คุมเกมอยู่

ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การดำเนินการของฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นสิทธิ์ที่ทำได้อยู่ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาว่าญัตติถูกต้องหรือไม่ เมื่อถามว่าเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่ทราบ ส่วนการขอเปิดอภิปรายจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลหรือไม่ เห็นว่าเป็นการยื่นอภิปรายโดยไม่ได้มีการลงมติ ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบปกติของรัฐสภา ยืนยันจะไม่เป็นปัญหาหากยึดตามขั้นตอน เมื่อถามว่าถึงมาตรการคุมเข้ม ส.ส.ในการโหวตในสภา ไม่ให้แพ้พรรค ฝ่ายค้านอีก นายจุรินทร์ตอบว่า การลงมติเรื่องข้อบังคับการประชุมสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เป็นเรื่องของกรรมาธิการ และการลงมติของที่ประชุมเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน

“เทพไท” หนุนใช้สภาฯแก้ปัญหา

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การยื่นอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งบัญญัติขึ้นในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นสิทธิ์ของพรรคฝ่ายค้าน เป็นเรื่องน่ายินดีที่ทุกฝ่ายกำลังใช้ช่องทางของสภาฯ แก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน รวมถึงปัญหาทางการเมืองในขณะนี้ อยากเห็นการเมืองเข้าสู่ระบบมากกว่าการเมืองนอกระบบ หรือการเมืองบนท้องถนน เชื่อว่าจะเกิดผลดีกับทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายค้านจะใช้เวทีเป็นที่ซักถามข้อสงสัยให้จบสิ้นกระบวนความ ส่วนนายกฯจะได้ตอบคำถามค้างคาใจของฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องอ้อมค้อม ส่วน ส.ส.ได้รับฟังทั้งสองฝ่ายใช้ดุลพินิจว่าฝ่ายใดมีเหตุมีผลกว่ากัน สนับสนุนการใช้กระบวนการทางรัฐสภาแก้ปัญหาทุกด้าน ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและเคารพกับการประชุมสภาฯ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายที่เคารพกติกาในระบอบประชาธิปไตยโดยการใช้เหตุผล

พปชร.มั่นใจนายกฯชี้แจงได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า มั่นใจว่านายกฯจะสามารถชี้แจงได้ตามกลไกระบบรัฐสภา ที่สำคัญเรื่องเข้าสู่กระบวนการของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาแล้ว ทางที่ดีพรรคฝ่ายค้านควรรอการพิจารณาก่อน ดีกว่ามายื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพราะฝ่ายค้านไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้ ไม่เกิดประโยชน์อะไร แทนที่รัฐบาลจะได้เอาเวลาไปทำงานให้กับประชาชน กลับต้องมาสาละวนอยู่กับเกมการเมืองของฝ่ายค้าน เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันแล้วว่ามีขั้นตอนแก้ปัญหาอยู่แล้ว และมีฝ่ายกฎหมายดูแลอยู่ ไม่เข้าใจพรรคฝ่ายค้านที่พยายามเอาเป็นเอาตายกับเรื่องนี้มาก ทั้งที่สุดท้ายแล้วทราบแก่ใจดีว่าจะเป็นอย่างไร

ภท.ปัดไม่เจตนาทิ้งงานสภาฯ

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตามที่มีการเปิดเผยว่ามีรัฐมนตรีและ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยขาดประชุมสภาฯ และไม่ได้ลงมติในการพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาฯนั้น ไม่ได้มีเฉพาะ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเท่านั้น อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ที่สังคมเห็นแล้วว่าตั้งแต่รับตำแหน่ง ไม่ได้เว้นว่างจากการทำหน้าที่เลย รัฐมนตรีและ ส.ส.ที่ไม่ได้เข้าประชุม ต่างมีเหตุผลความจำเป็น ยืนยันว่าทุกคนให้ความสำคัญกับงานในสภาฯ ช่วงที่ผ่านมาอยู่ในช่วงการปรับการทำงานให้สอดคล้องกันทั้งในหน้าที่ ส.ส. และรัฐมนตรี พยายามให้เกิดความสมดุล เป้าหมายเพื่อประชาชน

“วิษณุ” ชี้ช่องให้คนอื่นแจงแทน

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะทำหนังสือถึงนายกฯให้ชี้แจงเหตุผลที่ไม่ไปตอบกระทู้ที่สภาฯนั้น หากมีหนังสือถามมาจำเป็นต้องชี้แจง ส่วนที่ฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 นายกฯไม่จำเป็นต้องตอบด้วยตัวเอง อยู่ที่เขาตั้งคำถามใคร เพราะมาตรา 152 ไม่ใช่การถามตัวบุคคล เป็นการถามรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลตอบ หากใครเกี่ยวข้องก็ไปตอบ เมื่อถามว่าหากเป็นการถามเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณ มอบคนอื่นไปตอบได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ถึงอย่างไรนายกฯต้องไปอยู่ดี เพราะเขาถามรัฐบาล นายกฯเป็นหัวหน้ารัฐบาลถ้าว่างก็ต้องไป เชื่อว่าท่านจะไป เพียงแต่นายกฯอาจจะตอบ 2-3 ประโยคแล้วให้คนอื่นตอบแทน เพราะคนที่รู้มีเยอะ ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เป็นการอภิปรายเฉพาะตัว แต่ให้คนอื่นลุกขึ้นชี้แจงได้

อ้างเฉยยุค “ยิ่งลักษณ์” ยังทำได้

เมื่อถามว่า เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนายกฯหนีสภาฯ นายวิษณุตอบว่า ไม่ได้มีปัญหา ถ้านายกฯติดภารกิจก็ไปไม่ได้อยู่ดี มีมาตลอด สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ เมื่อมีการถามเรื่องโรงแรมโฟร์ซีซัน ก็ให้คนอื่นไปตอบ เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกต ครม.ยังไม่มีมติเกี่ยวกับนโยบาย และมาตรการต่างๆ มีแต่การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง เพราะหวั่นเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า นโยบายออกมาแล้วตั้งหลายเรื่อง ทั้งภัยแล้ง การรับมือสถานการณ์ฮ่องกง การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดใน กทม. การแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด หากเป็นโครงการอะไรต้องสอบถามหน่วยงานต่างๆก่อน วันที่ 20 ส.ค. จะมีเรื่องเกี่ยวกับนโยบายออกมามาก เพราะหน่วยงานเริ่มชี้แจงกลับมาแล้ว

เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วสุด

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลจะดำเนินการต้องเร่งให้เร็วที่สุด เน้นกระตุ้นการบริโภคภายใน เพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงินกระจายไปยังกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มฐานรากที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขึ้น เช่น ปัญหาภัยแล้ง ราคา พืชผลการเกษตร จะเชื่อมโยงกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป นายกฯเน้นย้ำต้องดูแลประชาชนระดับฐานราก ที่มีอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์ ให้คนกลุ่มนี้เงยหน้าอ้าปากได้จริง ควบคู่กับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทำให้เกิดการจ้างงาน ดึงดูดการลงทุน ส่งเสริมการท่องเที่ยว การจัดทำงบประมาณปี 63 รัฐบาลจะไม่ละเลยแก้ไขปัญหาความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย

ปลื้มเอกชนสหรัฐฯขานรับอีอีซี

นางนฤมลกล่าวอีกว่า ประเทศไทยยังคงเนื้อหอม คณะผู้บริหารสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (USABC) นำผู้บริหารบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ อาทิ CISCO, P&G, Agoda, Chevron Bayer, FedEx เยี่ยมชมสถาบันวิทยสิริเมธี ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง ตั้งอยู่ในเขตอีอีซี ประทับใจศักยภาพและความก้าวหน้าทางวิชาการ บริษัทสหรัฐฯแสดงความสนใจนำข้อมูลไปเผยแพร่แก่นักธุรกิจสหรัฐฯรายอื่น และจะกลับมาเยี่ยมชมอีอีซีอีกครั้ง เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกนำมาประกอบการตัดสินใจเข้ามาลงทุน

“จุรินทร์” ตีปี๊บรีแบรนดิ้ง ปชป.

วันเดียวกันเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พรรคประชาธิปัตย์จัดระดมสมองสร้างสรรค์พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยศาสตร์ 4 DNA มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน มีแกนนำพรรค ส.ส.รวมถึงสมาชิกพรรคเข้าร่วม นายจุรินทร์กล่าวเปิดงานว่า ต้องการระดมความคิดเห็นรอบด้านแบบ 360 องศา และหาคำตอบร่วมกัน ไปสู่การสร้างแบรนด์พรรคให้แข็งแกร่ง โดยทุกคนมีส่วนร่วมสำคัญทำอย่างไรให้ประชาธิปัตย์แข็งแกร่งในทุกพื้นที่ เพื่อโอกาสให้เราได้รับเลือกตั้งในเขตนั้นๆ และคะแนนฐานของพรรคมากขึ้น การสร้างแบรนด์จะทำภายใต้ยุทธศาสตร์คืออุดมการณ์ DNA จะมีทั้งที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม พรรคจะมีการสร้างอาคารที่ทำการพรรคขึ้นมาใหม่ ต้องออกแบบว่าต้องหน้าตาอย่างไร เพื่อสะท้อน DNA ประชาธิปัตย์

ชงปาล์ม 4 บาท/กก.เข้า ครม.

นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือผลผลิตการเกษตรว่า หลังการประชุม ครม. เศรษฐกิจเมื่อวันที่ 16 ส.ค. กระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนในส่วนของราคาสินค้าเกษตร และการส่งออก โดยเฉพาะปาล์ม จะมีการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ในวันที่ 19 ส.ค. เพื่อกำหนดราคาปาล์มไว้ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาท จากนั้นจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ส่วนสินค้าเกษตรตัวอื่น เช่น ยางพารา ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อยู่ในแผนของกระทรวงอยู่แล้ว ได้รับรายงานว่าราคาผลไม้ดีขึ้น กระทรวงพาณิชย์เตรียมรองรับฤดูกาลผลไม้ไว้แล้ว เช่น มังคุด ลองกอง ลำไย ได้ทำเอ็มโอยูกับสายการบินในประเทศ อาทิ นกแอร์ แอร์เอเชีย ไทยสไมล์ และบางกอกแอร์เวย์ส เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ใช้บริการ สามารถโหลดผลไม้ท้องถิ่นใต้ท้องเครื่องได้ฟรี 20 กิโลกรัม

มาเป็นชุดประกันรายได้ข้าว

ต่อมาที่ศูนย์วิจัยข้าว จ.ปทุมธานี นายจุรินทร์ แถลงหลังการประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์ ตัวแทนผู้ประกอบการ และตัวแทนเกษตรกรสมาคมชาวนาว่า ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่าโครงการประกันรายได้ข้าว ในข้าว 5 ประเภท ได้แก่ 1.ข้าวเปลือกเจ้าในราคา 10,000 บาท/ตัน ความชื้น 15% ประกันรายได้ให้ไม่เกิน 30 ตัน/ครัวเรือน หรือไม่เกิน 40 ไร่ 2.ข้าวเหนียว ประกันที่ตันละ 12,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 16 ตัน หรือไม่เกิน 40 ไร่ 3.ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 40 ไร่ 4.ข้าวหอมนอกพื้นที่ 14,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 40 ไร่ 5.ข้าวหอมปทุม ไม่เกิน 11,000 บาท/ตัน ไม่เกิน 40 ไร่ โดยจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) และให้เกษตรกรชาวนาขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อน ส่วนมาตรการช่วยเหลือคู่ขนาน จะลดต้นทุนการผลิต ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเก็บเกี่ยว การส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี และโครงการประกันภัยพืชผล พร้อมสนับสนุนการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมการผลิต

มท.จ่อถลุงงบฯค้างท่อ 6 แสน ล.

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการนำเงินงบประมาณของท้องถิ่น (งบฯค้างท่อ) มาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ว่า รมว.มหาดไทย ได้สั่งการสำรวจงบประมาณที่เหลืออยู่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ราวๆ 6 แสนล้านบาท ที่ยังไม่มีข้อผูกพันทางสัญญา หรือรอการเบิกจ่าย เพื่อขอความร่วมมือให้นำงบประมาณส่วนนี้มาพัฒนาในพื้นที่ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ให้เกิดการหมุนเวียนใช้จ่ายในท้องถิ่น จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โครงการที่จะสามารถใช้จ่ายในปี 2562 ที่เหลือได้ ต้องทำสัญญาภายในเดือน ส.ค.นี้ เชื่อมั่นว่า อปท.ทุกแห่งพร้อมให้ความร่วมมือ ไม่มีใครรอเกียร์ว่างให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน เพราะทุกคนต้องการสร้างผลงานให้ประชาชนประจักษ์ทั้งสิ้น

“สุดารัตน์” นำทีมลุยบางกอกน้อย

เวลา 07.30 น. วันเดียวกัน ที่วัดสุวรรณาราม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมนายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ลงพื้นที่เขตบางกอกน้อย ทั้งหมดได้เข้ากราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม และเดินชมจิตรกรรมฝาผนัง จากนั้นสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมารอต้อนรับ พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดงให้กำลังใจ

อัด รบ.กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ตรงจุด

คุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า เราเห็นด้วยว่าควรกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการของรัฐบาลที่ออกมามีทั้งสิ่งที่เราเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ที่เห็นด้วยคือการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน และอินเดีย ที่เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ส่วนเม็ดเงินที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 3 แสนล้านบาท เราเป็นห่วง 2 ประเด็น คือ 1.ขณะนี้เปรียบเสมือนหน้าแล้งมีน้ำน้อย เม็ดเงินได้ถูกใช้ไปส่วนหนึ่งแล้ว จึงเหลือเม็ดเงินที่จะลงไปกระตุ้นน้อยมาก และ 2.ในภาวะน้ำมีน้อย รัฐบาลต้องเลือกใช้วิธีรดน้ำ จะหยดที่โคนต้น หรือจะสเปรย์ทิ้ง มาตรการของรัฐบาลที่ออกมาถือว่าเป็นการใช้น้ำไม่คุ้มค่า ใช้วิธีสเปรย์เบี้ยหัวแตก ไม่ได้อัดลงไปตรงจุด แม้การท่องเที่ยวจะเป็นหนึ่งในวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถ้าเทียบกับอัดเงินลงไปที่เกษตรกรฐานราก ให้เขามีเงินไปจับจ่ายในตลาด หรือทำให้เอสเอ็มอีฟื้นสิ่งที่เราอยากเห็นคือการเลิกซื้ออาวุธ เลิกซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น เศรษฐกิจวันนี้ไม่ใช่วิกฤติแต่เป็นหายนะ หวังว่าประชุม ครม.สัปดาห์หน้าจะทบทวนสิ่งที่ฝ่ายค้านติติงด้วยความหวังดี

ยกบางกอกน้อยโมเดลไม่ง้อรัฐ

เมื่อถามถึงนโยบายการท่องเที่ยวเมืองรอง คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า การท่องเที่ยวในชุมชนเป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุน เป็นเรื่องที่มาควบคู่กับการกระจายอำนาจ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือรัฐส่วนกลางไปคิดแทนคนท้องถิ่น จัดงบประมาณไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน แม้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่วันที่ 20 ส.ค. เราจะแถลงก้าวต่อไปของเพื่อไทยยุคใหม่ จะมีโครงการชื่อว่า “นวัตกรรมแก้จน” และ “โครงการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน” โดยชุมชนบางกอกน้อยจะเป็นโมเดลตัวอย่าง เพื่อทำให้เห็นว่าแม้ไม่มีอำนาจรัฐ แต่ถ้าเราพึ่งพาและร่วมมือกับคนในชุมชน จะสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีได้

จวกเสพติดแจกเงินพร่ำเพรื่อ

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ของ ครม.เศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือว่ามีประโยชน์หากเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ ไม่นำมาใช้พร่ำเพรื่อ สิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมาและยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถูกนำมาใช้กระตุ้นตอนเศรษฐกิจหมดแรง มีแรงได้ไม่กี่เดือนก็ฟุบอีก แล้วต้องกระตุ้นกันใหม่ เป็นวัฏจักรที่ไม่ถูกต้องและอันตราย รัฐบาลก็ไม่ควรเสพติดหรือมีความสุขกับวัฏจักรนี้โดยไม่ทำอย่างอื่น เพราะแนวทางการบริหารเศรษฐกิจแบบนี้ทำให้งบประมาณจำนวนมหาศาลถูกนำไปใช้กับมาตรการแบบชั่วคราว ไร้การกำหนดทิศทางระยะยาว ส่งผลให้การพัฒนาโครงสร้างและทิศทางหลักของประเทศ ถูกละเลย หากพื้นฐานประเทศไม่ได้ถูกพัฒนา อีกไม่นานภาระทางการคลังจะเป็นข้อจำกัดสำหรับมาตรการกระตุ้นรอบใหม่ เมื่อนั้นเราจะหมดกระสุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

ฉะไม่บ้าก็เสียสติหว่านเงินไร้ผล

ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เงินที่รัฐบาลใช้กระตุ้นเศรษฐกิจมาจากภาษีประชาชน เรียกว่างบลงทุน ใช้ไปแล้วต้องเกิดผลตอบแทนกลับมาในรูปภาษี แต่ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำมา 5 ปี มีแต่ทำให้คนจนลง จัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้ามาตลอด แปลว่าการแจกเงินไม่ได้ผล เพราะไม่ทำให้คนเห็นอนาคต เงินที่แจกไปไม่ก่อให้เกิดการผลิตที่ยั่งยืน ใช้ไปครั้งเดียวหมด ไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง แต่รัฐบาลยังจะเอาวิธีที่ไม่เคยได้ผลมาใช้ต่อไป ถ้าไม่บ้าก็เสียสติ หัวใจสำคัญของการบริหารคือความเชื่อมั่น หากผู้นำหรือรัฐบาลไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ประชาชนจะหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนและผู้ประกอบการต่างไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำและรัฐบาล ตามผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แบบนี้ถมเงินลงไปเท่าไรก็ไม่ได้ผล เพราะต้นตอของปัญหาอยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปทุกอย่างจะดีขึ้น

“ธนาธร” ดูแปรรูปยางที่นครฯ

วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนาคตใหม่ พร้อมนายรังสิมันต์ โรม นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคฯ ร่วมลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนเกี่ยวกับการแปรรูปยางพารา ที่สหกรณ์กองทุนสวนยางโสตประชา จำกัด นายธนาธรกล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปรรูปยาง นี่คือแนวทางแห่งอนาคตของประเทศ คือใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมาแปรรูปสินค้าการเกษตร ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมามีโอกาสเดินทางไปดูโรงงานแปรรูปยางในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลพยายามคิดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา มีเรื่องของยางและสินค้าเกษตรอื่นอยู่ด้วย ตนเห็นว่ามีความจำเป็นในระยะสั้น ประชาชนจำนวนมากต่างมีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับสินค้าทางการเกษตร แต่ทุกวันนี้พืชเศรษฐกิจหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ต่างราคาตกหมด มาตรการอุดหนุนราคาสินค้าเกษตรจึงมีความจำเป็น แต่ในระยะยาวอนาคตต้องอยู่ที่การแปรรูป ฝากให้นายเจนวิทย์ไปผลักดันในคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้เกิดโครงการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปจริงจัง

โพลยก “รัฐบาลตู่” มีผลงาน–ซื่อสัตย์

อีกเรื่อง สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,082 คน เรื่องความต่างของผลงานระหว่างรัฐบาล พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 80.3 ระบุว่าผลงานรอบ 5 ปีของ “รัฐบาลลุงตู่” เช่น การก่อสร้างด้านคมนาคม สถานีรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ทางต่างระดับปากช่องโคราช การต่อเติมสนามบิน เป็นสิ่งที่จับต้องได้แตกต่างจากรัฐบาลอื่น และส่วนใหญ่ยังเห็นว่ารัฐบาลที่ซื่อสัตย์ทำประโยชน์ส่วนรวมได้มากกว่ารัฐบาลที่มีคดีติดโกง เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลนี้เร่งสร้างมากที่สุด อันดับ 1 คือแก้ปัญหาค่าครองชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อันดับ 2 แก้ปัญหายาเสพติด อันดับ 3 ช่วยด้านการศึกษาของคนยากจน ส่วนอันดับรองลงไปได้แก่ การดูแลสุขภาพประชาชน เพิ่มความปลอดภัย แก้ปัญหาว่างงาน แก้ปัญหาเกษตรกร แก้ภัยแล้ง ภัยพิบัติ แก้ระบบภาษี แก้ปัญหาความแตกแยกของคนในสังคม

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0