พ่อแม่ลุงพลเข้าให้กำลังใจลูกชาย หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย ขณะที่แม่น้องชมพู่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในเรื่องต่างๆ…
นายผ่อง และนางพา วิภา พ่อและแม่นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เดินทางจากจังหวัดสกลนครให้กำลังใจลูกชาย หลังนายไชย์พล ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีฆาตรกรรมเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ทันทีที่นายไชย์พล เจอหน้านายผ่อง ทั้งสองเข้าจับมือกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และเมื่อนายไชย์พล เจอนางพา ทั้งสองเข้ากอดทันที
นายผ่อง กล่าวว่ารู้ดีใจที่ได้เห็นหน้าลูกชายเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2563 เชื่อนายไชย์พล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่แน่นอน โดยที่ผ่านมา นายไชย์พล ถือเป็นบุคคลมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ แม้บางครั้งจะมีอารมณ์ร้อนบ้างก็ตาม และหวังให้ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เพื่อนายไชย์พล จะได้หลุดพ้นจากสถานะผู้ต้องสงสัย
ขณะที่ นางพา ให้ข้อมูลว่ารู้สึกสงสารนายไชย์พลที่ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว ซึ่งต้องการให้คดีนี้จบสิ้นโดยเร็ว พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่คนในสังคมมีให้แก่นายไชย์พล
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าวันนี้ บรรดาญาติของ นายไชย์พล เดินทางจากจังหวัดนครพนม เข้าให้กำลังใจ รวมถึงทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเรียกขวัญให้นายไชย์พลด้วย
นายไชย์พล เปิดเผยว่าดีใจที่พ่อแม่ รวมถึงญาติพี่น้องเข้าให้กำลังใจ เชื่ออีกไม่นานตำรวจจะจับกุมคนร้ายได้แน่นอน และยังฝากกำลังใจไปยังนางสาวิตรี วงศ์ศรีชาแม่น้องชมพู่ ให้ผ่านมรสุมจากการถูกโจมตีจากสังคมให้ได้โดยเร็ว อีกทั้งยอมรับ รู้สึกตกใจที่เห็นภาพรูที่ปรากฎบนร่างของน้องชมพู่
ส่วนประเด็นคลิปเหตุการณ์วันที่พบร่างน้องชมพู่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 โดยในคลิปพบ นายไชย์พล บอกว่าไม่มีใครเอาอาหารมาให้น้องชมพู่ จนถูกสังคมตั้งข้อสังเกต นายไชย์พล บอกว่าจากการตรวจสอบขณะนั้น พบน้องชมพู่ยังมีสภาพร่างกายไม่เน่าเปื่อย ซึ่งอาจจะเสียชีวิตมาไม่นาน จึงตั้งข้อสันนิษฐานคนร้ายอาจอยู่กับน้องชมพู่ แต่ไม่มีอาหารให้เท่านั้น
ส่วนกระแสข่าวมีบุคคลปลอมแปลงไลน์ของพลตำรวจเอกสุวัจน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าข่มขู่ นางสาวิตรี ให้ยอมรับสารภาพ สอบถาม นางสาวิตรี พบยังไม่พร้อมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน โดยขณะนี้นางสาวิตรี อยู่ระหว่างการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว.
