โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'บิ๊กตู่' ลั่นปรับครม. เป็นไปได้ตั้งแต่วันนี้ไป แก๊งเสี้ยมเงิบ! '3 ป.' ไม่วันแตกคอ

ไทยโพสต์

อัพเดต 09 ก.ค. 2563 เวลา 10.52 น. • เผยแพร่ 09 ก.ค. 2563 เวลา 10.51 น. • ไทยโพสต์

9 ก.ค.63 -  ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์กรณี 4 กุมารลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เรื่องที่ถามมาเป็นประเด็นร้อนในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของทั้ง 4 คนตนก็เคารพการตัดสินใจ ถือเป็นเรื่องภายในพรรค 

"ส่วนผมเองก็ต้องเตรียมการพิจารณาว่า จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป วันนี้ขอให้ท่านเชื่อมั่นระบบบริหารราชการแผ่นดินของเรา เชื่อมันในตัวผม และผมก็จะนำพาประเทศชาติในช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ในส่วนการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นวิถีทาง ทางการเมือง การเข้ามาเป็นส.ส. การเข้ามาเป็นรัฐมนตรี การจะเข้ามาเป็นครม. การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการไปพูดคุยเจรจากันอีกครั้ง คำตอบอันนี้ ผมยังไม่มีให้ว่าใครจะเป็น ใครจะเข้า ใครจะออก เพราะเราต้องคุยกับพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามกลไกทางการเมือง ขอให้ใจเย็นๆ" นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มีข่าวว่ากำหนดไว้ว่าเดือนกันยายนจะปรับครม.ถึงวันนี้จะเร็วขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า "ดูจากการปรับครม.ใครปรับหรือยัง ผมพูดเมื่อไหร่ว่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายน ผมไม่เคยพูดจะปรับในเดือนกันยายนเลย พวกคุณไปตีความกันเอง"

เมื่อถามว่า ช่วงเวลาที่นายกฯ วางจะเป็นช่วงเดือนไหน "ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ผมไม่ได้พูดว่าเป็นเดือนกันยายน" 

ถามว่า นายกฯ ไม่กำหนดชัดเจนว่าจะปรับครม.เมื่อไหร่ ก็จะมีการวิ่งเต้นเพื่อขอตำแหน่งกันอีกพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า "วิ่งกับใคร ผมก็ยืนยันว่า ใครจะวิ่ง ใครจะอะไร คนวิ่งมากๆ ก็อาจจะไม่ได้ก็ได้ แต่ขอร้องว่าอย่าทำให้เกิดความสับสนอลหม่านได้หรือไม่ ใครจะวิ่งก็วิ่งไปเถอะ ผมจะตัดสินใจด้วยตัวของผมเอง และผมก็ต้องคุยกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค" 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า เมื่อ 4 กุมารไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร.แล้วจะส่งผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องกลไกภายในพรรค เพราะสัดส่วนในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองเป็นอันดับแรก โควต้าคนนอกก็เป็นอีกส่วนหนึ่งอย่าลืมว่าตนก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร. เพราะฉะนั้นสัดส่วนรัฐมนตรีก็ต้องฟังจากพรรคเป็นหลัก การจะนำคนนอกเข้ามาก็เป็นโควต้าของเขา ซึ่งตนก็ขอเขามาและเขาก็ให้ตนเข้ามาตรงนี้ รวมทั้งมีรัฐมนตรีหลายคนที่มากับตนด้ว

ต่อข้อถามว่าการที่ 4 คนลาออกจากพปชร. ถือว่าเป็นโควต้าของนายกฯ ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดิมก็เป็นเช่นนั้นอยู่ และเป็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้ต้องไปดูว่าโควต้าเหมาะสมแล้วหรือยัง ใครจะได้เพิ่ม ใครจะได้ลดอย่างไรก็ไปว่ากันอีกที 

ถามว่า พูดได้หรือไม่ว่าการปรับครม.ครั้งหน้าจะเป็นการปรับใหญ่หรือจะปรับเฉพาะที่จำเป็น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เท่าที่จำเป็น ใครที่เขาทำงานดีอยู่แล้วก็ให้เขาทำงานต่อ ที่ผ่านมาทุกคนทำงานดีทั้งหมด ตนไม่ได้ว่าใครไม่ดี เพียงแต่กลไกทางการเมืองและวิถีทางการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง 

ซักว่า โควตาสัดส่วนครม.ของนายกฯ คือเฉพาะตำแหน่งเดิมที่มีอยู่ใช่หรือไม่ นายก​ฯ กล่าวว่า "ผมถึงถามว่า เมื่อเอาเขาเข้ามาแล้ว จำเป็นจะต้องคืนเขาหรือเปล่า ต้องคืนเขาบ้างไหม จะมีคนนอกเข้ามาได้ตรงไหน ก็ต้องไปคุยกันอีก เพราะก็ผ่านมา 1  ปีแล้วก็ต้องคุยกันใหม่ 

พอถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ก็มีการพูดคุยกันมาโดยตลอดนายสมคิดก็บอกว่า ท่านเองก็พร้อมทุกเรื่อง

ผู้สื่อข่าวแสดงความคิดเห็นว่า "แต่ที่ผ่านมามีกระแสข่าวโจมตีและขย่มนายสมคิดบ่อยครั้ง พอจะยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่มีปัญหาระหว่างกัน"  พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า "ผมเองก็ต้องดู ก็มีการขย่มกันทั้ง 2 ฝ่าย สื่อก็รู้ว่าใครขย่มใคร แล้วใครขย่มกันอย่างไรวิธีไหน บางทีก็พูดกันไปเรื่อย สื่อก็เอาไปพาดหัวข่าว ซึ่งผมก็ไม่รู้ ผมก็ต้องดูว่าใครขย่มใคร และใครถูกใครผิด ผมก็จะตัดสินของผมเอง"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากดูตามระยะเวลาแล้ว คิดว่าถึงเวลาที่จะปรับครม.แล้วหรือยัง ในขณะที่ยังมีวิกฤติหลายด้าน นายกฯ กล่าวว่า "พวกท่านก็รู้ว่ายังมีวิกฤติอยู่ ดังนั้นวันนี้ก็ต้องทำงานกันไปก่อน แล้วเมื่อไหร่ที่ต้องปรับก็จะปรับของผมไป แต่ขอให้เชื่อมั่นในกลไกของเรา การบริหารราชการแผ่นดินที่ผมได้สร้างไว้ ใครจะไปใครจะมา ก็ต้องรักษากฎระเบียบของผมที่วางไว้ ในพ.ร.บ.ต่างๆ ที่ทำไปใหม่ ทั้งพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ร.บ.การเงินการคลัง เราอาจจะยึดมั่นตัวบุคคลเป็นธรรมดาในเรื่องของความเชื่อมั่น แต่สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าตัวบุคคลทำงานร่วมกันไม่ได้มันก็อยู่ไม่ได้ถูกหรือไม่" 

เมื่อถามว่า แสดงว่านายกฯ ยึดนโยบายที่ทุกคนต้องสามารถสานต่องานที่วางได้ ถึงจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ล็อกถึงขนาดนั้น ตนคิดว่าตนจะพิจารณาเอง  ซักว่าแล้วสิ่งสำคัญในการปรับครม.คืออะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อความสงบเรียบร้อย 

ถามอีกว่าจะต้องปรับทัพครม.เศรษฐกิจ ใหม่ทั้งหมดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ครม.ใหม่ถ้าปรับก็ต้องปรับครม.เศรษฐกิจด้วย เพราะครม.เศรษฐกิจ มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องและในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ตนได้เลื่อนการประชุมครม.เศรษฐกิจออกไปก่อน แต่ตนจะประชุมที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจทั้งหมดทั้งในและนอกระบบ มาพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นของเขา ว่ามีแนวความคิดอย่างไร ตนถึงจะนำเข้าที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ นี่คือการริหารงานแบบนิวนอมอล    "คุณจะถามให้ได้สาระอะไรตรงนี้ ผมตอบไปแล้วในภาพรวมและท่านเหล่านี้ก็ทำงานกับผมมาโดยตลอด มีความสำเร็จมามากมายพอสมควร แต่ก็ต้องไปดูว่ากลไกทางการเมืองว่ากันอย่างไร"นายกฯ กล่าวด้วยความหงุดหงิดหลังถูกถามว่า ดูจากฝีมือการทำงานของ4กุมารแล้วครั้งหน้า น่าจะได้กับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม นักข่าวถามอีกว่า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้มองคนนอกไว้จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็มองไว้ ขึ้นอยู่กับว่า…" ทั้งนี้เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหลุดมาถึงตรงนี้ก็ได้พูดต่อว่า ก็มองไว้ทั่วทุกกลุ่ม ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมดูไว้ทั้งหมด รวมทั้งด้านสาธารณสุขก็ดู เพราะผมต้องรับผิดชอบทั้งครม. 

ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสตีให้ 3 ป. แตกกันไม่มีความเป็นไปได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ นิ่งเงียบก่อนที่จะกล่าวพร้อมส่ายศรีษะว่า เป็นไปไม่ได้ 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0