โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ธนาธร"อัดรัฐบาลอีก 'อุ้มแต่คนรวยไม่เห็นหัวคนจน'

เดลินิวส์

อัพเดต 11 ก.ค. 2563 เวลา 11.21 น. • เผยแพร่ 11 ก.ค. 2563 เวลา 11.17 น. • Dailynews
“ธนาธร” อัดรบ. จัดงบเพิ่มความเหลื่อมล้ำอุ้มแต่คนรวยไม่เห็นหัวคนจน เปิดรายการไม่จำเป็น นำเงินนอกงบประมาณมาใช้

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.เวลา น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (สี่แยกคอวัว) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมเวทีเสวนาสาธารณะ ในหัวข้อ“ผลงานรัฐบาลด้านสวัสดิการสังคมในรอบปี และข้อสังเกตต่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2564” ว่า  งบประมาณในปี 2563 และแผนจากงบประมาณปี 2564 ที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นรูปธรรมที่ยืนยันได้คำพูดที่ว่ารัฐบาลนี้อุ้มแต่คนรวยไม่เห็นหัวคนจนนั้น เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แค่คำพูดที่เอามาลดทอนความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และที่สำคัญถ้ารัฐบาลมีเจตจำนงที่ชัดเจน ตนยืนยันได้ว่า เรามีทรัพยากรเพียงพอในการทำสวัสดิการถ้วนหน้าให้กับประชาชนได้ แต่สภาพความเป็นจริงการจัดการงบประมาณของรัฐกลับยิ่งทำให้เกิดช่องว่างความเหลื้อมล้ำ เอาเงินภาษีที่ควรเอามาดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน แต่กลับไปเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุน และอุ้มรัฐราชการที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญยังออกนโยบายต่างๆโดยไม่เห็นหัวคน มองประชาชนอยู่ข้างหลัง ไม่ได้ตั้งงบประมาณที่สอดคล้องกับความเป็นจริง ทั้งๆสถานการณ์ในวันนี้ เราต้องการพยาบาลมากกว่าทหาร แต่งบประมาณในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาสะท้อนว่า เราบรรจุทหารมากถึง 80,000 ตำแหน่ง แต่พยาบาลบรรจุเพียง 10,000 ตำแหน่งเท่านั้น เช่นเดียวกับงบรักษาข้าราชการ กับงบบัตรทองในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา แม้จะเพิ่มขึ้นเท่าๆกัน 23-24 % แต่ฐานต่อหัวต่อกันมาก งบรักษาข้าราชการอยู่ที่ 2,200 ต่อหัว ขณะที่งบบัตรทองสำหรับพี่น้องประชาชน เพิ่มขึ้นเพียง 600 บาทต่อหัวเท่านั้น สิ่งเหล่านี้จึงไม่ทางลดความเหลื่อมล้ำได้เลย เพราะฐานคิดจากงบประมาณยังไม่มีความเท่าเทียม 

 นายธนาธร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากดูจากโครงสร้างงบประมาณปี 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาทนั้น ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล จะเหลือเงินอยู่เพียง 1 ล้านล้านบาทเท่านั้นที่สามารถโยกย้ายได้ เพราะที่เหลือล้วนเป็นรายจ่ายประจำทั้งเงินเดือนบุคลากรภาครัฐ สวัสดิการตามกฏหมาย เงินต้นชำระหนี้ พร้อมดอกเบี้ย และเงินอุดหนุนท้องถิ่น เป็นต้นแต่ในความเป็นจริงในจำนวน 1 ล้านล้านบาทที่รัฐบาลโยกได้ กลับเป็นงบฝึกอบรบ สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าเดินทางต่างประเทศ งบดำเนินการงบอุดหนุนถึง 7 แสนล้านบาลแล้ว ดังนั้น ถ้าเราตัดได้ซักครึ่งหนึ่ง 3.5 ล้าน เราสามารถจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดทำสวัสดิการของรัฐได้อีกมาก ตนยืนยันว่า เรายังมีเงินพอที่จะมาจัดสวัสดิการถ้วนหน้าให้กับประชาชนได้ เพราะประเทศไทยยังมีเงินนอกงบประมาณอีกปีละ 4 ล้านล้านบาทซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่มากกว่างบประมาณแผ่นดินในแต่ละปีเสียอีก โดยเราปล่อยให้หน่วยงานรัฐจัดเก็บได้เองโดยไม่ต้องสำแดงต่อสภา ไม่ต้องรายงานต่อผู้แทนราษฎร หรือแม้แต่ตนที่เป็นกมธ.งบประมาณฯก็มองเงินเหล่านี้ไม่เห็น ตรวจสอบไม่ได้ จากนี้ไปเราจำเป็นต้องสู้ เพื่อไม่ให้หน่วยงานรัฐเก็บเงินก้อนไว้เองอย่างตรวจสอบไม่ได้อีกแล้ว 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0