กรมควบคุมโรค ตรวจสอบพบ 245 คน ร่วมไฟลท์บิน เด็ก 9 ขวบ ในครอบครัวทูต ตรวจเจอเชื้อโควิด 12 คน เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 47 คน ส่วนคอนโดฯ ที่พักกลางกรุง ยังไม่พบติดเชื้อเพิ่ม
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีเด็กหญิง ที่มาในครอบครัวทูตป่วย ด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ว่า จากการสอบสวนโรคพบ ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเพศหญิง อายุ 9 ปี ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เป็นรายที่เคยรายงานเป็นผู้ป่วยและมีการแถลงข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563
โดยประวัติของผู้ป่วยเดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกาพร้อมกับครอบครัวที่เป็นคณะทูต ซึ่งก่อนเดินทางได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมครอบครัวรวม 5 คน เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรการก่อนเดินทางเข้าไทย ผลตรวจทุกคนไม่พบเชื้อที่ประเทศต้นทาง และเดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการซ้ำ ผลตรวจพบเด็กหญิงติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 1 ราย จึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่าการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของครอบครัวทูตดังกล่าว เป็นไปตามมาตรการของคำสั่ง ศบค. เรื่องแนวปฏิบัติตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 6 ในข้อ (3) บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
ทั้งนี้เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยมีผู้โดยสารทั้งหมด 245 คน พบว่ามีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวัง และสอบสวนโรค จำนวน 47 ราย จากการตรวจหาเชื้อพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 12 ราย รวมผู้ป่วยรายนี้ มีการส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ได้ดำเนินการสอบสวนโรคในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม ที่พำนักที่ครอบครัวผู้ป่วยเข้าพักก่อนทราบผลตรวจ โดยค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงโดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขณะนี้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และได้ให้ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบตามมาตรฐานทางสาธารณสุขแล้ว
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่าขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก ทั้งการสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อรักษาสภาพการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปให้ได้นานที่สุด ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
อ่านข่าวเพิ่มเติม
