จากกรณี รายการช่องส่องผี ได้เดินทางมาบันทึกเทปรายการที่ วัดศาลาลอย อ.เมืองนครราชสีมา โดยช่วงหนึ่ง อาจารย์เรนนี่ ได้กล่าวหาว่า ย่าบุญเหลือ ซึ่งเป็นลูกสาวบุญธรรมของ คุณย่าโม ภรรยาของปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา ว่า คุณย่าโมเป็นภรรยาหลัก ย่าบุญเหลือเป็นภรรยาสอง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นใน จ.นครราชสีมา เป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่มีการตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมนั้น
ล่าสุด ทนาย อานนท์ เชื้อสัตตบงกช ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า#เล่นถึงย่าโมเลยเหรอ วอนซะละ!! #เพิ่งจะรอดจากเรื่องบริจาค ก็มาปากพาซวยอีก กรณีรายการ “ช่องส่องผี” เดินทางมาบันทึกเทปรายการที่วัดศาลาลอย อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นวัดที่บรรจุอัฐิของท้าวสุรนารี หรือย่าโม ที่ชาวนครราชสีมา และคนไทยทั้งประเทศให้ความเคารพนับถือ โดยในระหว่างที่มีการบันทึกเทปที่บริเวณหน้าอุโบสถเก่าที่มีรูปปั้นของพระยาปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา สามีของท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม อาจารย์เรนนี่ กล่าวว่า “ตนเองมีจิตสัมผัสต่อสิ่งลี้ลับ เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ ท่านปลัดทองคำและย่าโมรวมทั้งนางสาวบุญเหลือก็มาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน โดยท่านปลัดทองคำบอกว่าแม่บุญเหลือเป็นเมียของท่านอีกคนหนึ่ง ส่วนย่าโมเป็นเมียหลัก แม่บุญเหลือเป็นเมียสองไม่ใช่ลูกสาวบุญธรรม และแม่บุญเหลือก็เป็นคนบอกเรนนี่เองว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ คุณย่าบุญเหลือก็อยู่ที่นี่อยู่ตรงก้านธูปแม่บุญเหลืออยู่ด้านหลังปลัดทองคำพร้อมชี้ให้กล้องแพนไปที่บริเวณที่ตั้งธูปเทียน
หลังเทปรายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งไปแล้ว ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และทำให้ชาวโคราชไม่พอใจ และโกรธเคืองจำนวนมาก/ #เอออ! ไปล้อเล่นกับความเชื่อของชาวโคราชแบบนี้ ถือว่าหาเรื่องละ แม้ประวัติศาสตร์ จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่ แต่การไปพูด หรือกระทำการใดๆที่เป็นการดูถูกเหยียดหยามวัตถุ หรือสถานที่ที่คนเขาเคารพ อาจมีความผิดฐานดูหมิ่นวัตถุ สถานที่เคารพทางความเชื่อ มีความผิดตาม ปอ.ม 206 ได้เลย นี่ทางรายการเล่นไปพูดในวัดศาลาลอย ต่อหน้าอัฐิย่าแบบนี้ ถือว่าเสี่ยงที่จะถือว่าไปเหยี่ยดหยาม วัตถุเคารพทางความเชื่อ งานนี้บอกเลยถึงจะรอดจากทางกฏหมายได้ แต่รับรองไม่รอดมือคนโคราชแน่ ถ้ายังเล่นไม่เลิกสคริปท์แนวรายการแบบนี้ รับรองเดี๋ยวมาอีกหลายเคส!!!
#ประมวลกฎหมายอาญา#มาตรา 206 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ/
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก อานนท์ เชื้อสัตตบงกช
