โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ชาวบ้านโร่ร้องสื่อ โดนฮุบที่ทำกินกว่า300 ไร่ สร้างอ่างเก็บน้ำ เชื่อโครงการมีเงื่อนงำ

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 08 ก.ค. 2563 เวลา 09.27 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. 2563 เวลา 08.32 น.

วันนี้ (8 กรกฎาคม 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านตำบลหนองกระเจา อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ และตำบลใกล้เคียง ว่าพื้นที่ทำกินจะโดน อบต.หนองกระเจา จะเอาไปทำอ่างเก็บน้ำ ซึ่งพื้นที่ทำกินดังกล่าวมีพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ซึ่งพวกตนได้รับตกทอดมาจากรุ่นปู่ รุ่นพ่อ มาถึงรุ่นตนเอง ตั้งแต่สมัย พ.ศ. 2470 ได้ใช้พื้นที่แห่งนี้ทำนาเลี้ยงชีพมาตลอด ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ได้มีเอกสารเลขที่ นว. 0318/2884 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ส่งมาจากที่ว่าการอำเภอชุมแสง เนื้อความว่าให้ชาวบ้านไปให้ถ้อยคำว่าชาวบ้านได้เข้าไปทำประโยชน์ในที่สาธารณประโยชน์ ทำให้ชาวบ้านตกใจและแปลกใจมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นายทูล ดำนงค์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/2 หมู่ 11 ต.หนองกระเจา อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการจะทำโครงการอ่างเก็บน้ำ โดยโครงการดังกล่าวไม่ได้มีการจัดประชุมเกิดขึ้น แต่ได้จัดการประชุมโครงการสูบน้ำ ซึ่งเป็นละโครงการกัน โดยทาง อบต.หนองกระเจา ได้จัดให้มีการประชุมโดยมีใจความสำคัญในการประชุมวันนั้นได้พูดถึงการทำโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำ ชาวบ้านจึงเห็นว่าเป็นโครงการที่เกิดประโยชน์ต่อพื้นที่ ชาวบ้านและตนเองจึงได้ยกมือแสดงความเห็น  แต่หลังจากการประชุมเสร็จ ตนเองและชาวบ้านได้ทราบต่อมาภายหลังว่าการร่วมแสดงความคิดเห็นและการยกมือในครั้งนั้น กลายเป็นการยกมือและมีส่วนร่วมของโครงการอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นคนละโครงการ ตนเองและชาวบ้านเห็นว่าโครงการนี้มีเงื่อนงำ ไม่แสดงเจตนาที่ชัดเจน บิดเบือนจากวันที่ประชุม จึงได้เดินทางไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชุมแสง เพราะตนเองและชาวบ้านเห็นว่าการประชุมในครั้งนี้ได้เกิดโครงการที่ไม่ได้เป็นไปตามวาระการประชุม ณ วันนั้น

นายทูล เปิดเผยต่อว่า เมื่อวันที่ 11 เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ทาง อบต.หนองกระเจา ได้ดำเนินการแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำการรังวัดพื้นที่ ที่จะเกิดโครงการอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ในส่วนที่ชาวบ้านได้ครอบครองทำกิน (น.ส.ล) โดยไม่มีการแจ้งให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินบริเวณโดยรอบรับทราบ วันนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการรังวัดเข้าไปในที่ดินที่มีการครอบครองที่ถูกต้องเป็นจำนวนหลายราย จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกัน ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถกระทำการรังวัดที่ดิน ปักเสาหลักเขตได้  จากการโครงการอ่างเก็บน้ำ ดังกล่าว ชาวบ้านจะถูกเรียกคืนที่ทำกิน โดยส่วนตัวตนเองจะโดนเรียกคืนที่ดิน (น.ส.ล) อีกทั้งยังมีชาวบ้านโดนเรียกคืนอีกในจำนวนมิใช่น้อย ซึ่งชาวบ้านและตนเองก็ยังมองไม่เห็นถึงอาชีพที่จะสามารถไปประกอบได้ เพราะชาวบ้านและตนเองเกิดจากครอบครัวชาวนา และได้เป็นชาวนามาตั้งแต่จำความได้ ซึ่งที่ดินที่ชาวบ้านได้ครอบครองนั้นล้วนแล้วแต่เป็นที่ดินที่ถูกส่งต่อมาจากทางบรรพบุรษของพวกเราทั้งนั้น หามิได้ทำการบุกรุกไม่ ความคิดเห็นจากชาวบ้านและตนเองอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และได้ทำกินบนพื้นที่แห่งนี้ ชาวบ้านและตนเองเข้าใจดีว่าพื้นที่ดินแห่งนี้เป็นที่ดอน และไม่มีแหล่งน้ำจากธรรมชาติไหลผ่านหรือใกล้เคียงแล้วจะมาทำโครงการอ่างเก็บน้ำได้อย่างไร

ด้านนายบัณฑูร ประดิษฐสุวรรณ์ ปลัด อาวุโส กล่าวว่า ไม่ขอพูดอะไรทั้งนั้น  ไม่มีอำนาจหน้าที่ให้สัมภาษณ์  ชาวบ้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า โครงการนี้มันมีเงื่อนงำ เพราะว่าพื้นที่ที่พวกตนเองทำกินอยู่นี้เป็นที่ดอนสูง และไม่มีตาน้ำไหลผ่านยังสงสัยว่าจะเอาพื้นที่ไปทำอ่างเก็บน้ำได้อย่างไร แต่ที่ทราบมามีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้นให้ได้ และผลักดันมาหลายปีแล้ว  ซึ่งถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นมาได้ก็จะมีผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล แว่วมาว่ามีนายทุนจะเข้ามาหาผลประโยชน์อีกมากมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านข้องใจมาก ที่ชาวบ้านได้รับเอกสารว่าพวกตนเป็นผู้บุกรุกตามที่เอกสารแจ้ง และได้สอบถามปลัดว่าพวกตนไปบุกรุกตอนไหน แต่ปลัดไม่สามารถตอบกับชาวบ้านได้ ทั้งที่ปลัดเป็นผู้ลงนามในเอกสารเองว่าพวกชาวบ้านเป็นผู้บุกรุก และชาวบ้านถามว่าโครงการอ่างเก็บน้ำนี้เป็นอย่างไร ก็ไม่สามารถตอบอะไรได้เลย ได้แต่พูดว่าไม่มีอำนาจหน้าที่ให้คำตอบ.

รณกฤต วรณันวรกุล ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครสวรรค์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0