กองปราบฯ เช็กเงินแม่ปุ๊ก 15 ล้านล่องหน ประสานบริษัทประกันภัยฯ หาประวัติ น้องอมยิ้ม-อิ่มบุญ หวั่นใช้หาประโยชน์ พร้อมเช็กเส้นทางเงิน
จากกรณีการจับกุมน.ส.นิษฐา วงวาล หรือแม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี หลังพบพฤติกรรมต้องสงสัยว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้ด.ช.อิ่มบุญ อายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นบุตรแท้ๆ และด.ญ.อมยิ้ม อายุ 4 ขวบ บุตรบุญธรรม ล้มป่วยด้วยอาการผิดปกติ เพื่อสร้างเรื่องให้ดูน่าสงสารและหลอกเอาเงินจากคนอื่น จนทำให้ด.ญ.อมยิ้มเสียชีวิต ส่วนด.ช.อิ่มบุญ ที่ยังต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่กระทรวงพม. ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ทั้งในเรื่องสารเคมีและดีเอ็นเอ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะทราบผลเป็นทางการ ซึ่งผลการตรวจจะถือเป็นหลักฐานสำคัญในการใช้สืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีให้สิ้นข้อสงสัย หากผลพิสูจน์ออกมาปรากฏว่า ด.ช.อิ่มบุญ เป็นลูกของน.ส.นิษฐาจริงตามที่กล่าวอ้าง ในส่วนนี้ไม่ได้กังวลมากนัก เพราะการเอาความผิดทางคดี จะพิจารณาจากการผลกระทบที่เด็กได้รับกับการกระทำเป็นหลัก
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องการพิสูจน์ทราบให้สิ้นข้อสงสัย รวมถึงการตรวจสอบสิทธิการทำประกันคุ้มครองตัวเด็กต่างๆ ว่าก่อนหน้านี้เคยทำประกันไว้ให้เด็กทั้ง 2 คนบ้างหรือไม่ เพราะเกรงอาจมีการทำประกันให้เด็ก เพื่อหวังผลประโยชน์ตอบแทนในอนาคต ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานไปยังบริษัทประกันภัยต่างๆ ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูล ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะทราบรายละเอียด
พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวอีกว่า ตำรวจกำลังตรวจสอบประวัติของน.ส.นิษฐา ที่พบาในอดีตเคยถูกจับกุมความผิดฐานฉ้อโกงหลังหลอกขายสินค้าผ่านออนไลน์มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2561 ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากผู้ต้องหาร้องขอต่อศาล ว่าต้องดูแลลูกที่ป่วยเพียงลำพัง จึงเห็นใจลดโทษให้เป็นรอลงอาญา 2 ปี ก่อนมาก่อเหตุดังกล่าว
ส่วนข่าวพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาคดีค้ามนุษย์กับน.ส.นิษฐา เพิ่มเติมนั้น ในส่วนนี้ขอเรียนว่าไม่ได้เป็นการแจ้งข้อหาเพิ่ม ซึ่งความผิดดังกล่าวนั้น ได้แจ้งไปแต่แรกแล้วคือข้อหารับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงยอดเงินบริจาคที่หายไปจากบัญชี เพื่อดูว่ามีการยักย้ายถ่ายเทหรือไม่ และเหตุใดเงินในบัญชีธนาคารทั้ง 5 บัญชี จึงเหลืออยู่ไม่มาก ทั้งที่เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินช่วงปี 2561-2563 พบเงินหมุนเวียนเข้า-ออกบัญชีมากกว่า 15 ล้านบาท จึงน่าสงสัยว่าในช่วงเวลาแค่ 2 ปีกว่า เงินจำนวนมากขนาดนี้ถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเนื่องจากมีโอนเงินเข้า-ออกมากกว่า 8,000 ครั้ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่กำลังตั้งข้อสงสัยพฤติกรรมของคนใกล้ชิดน.ส.นิษฐา ด้วยว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วยหรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
