โค้งศาลอาญาบนถนนรัชดาภิเษก มีระยะทางของโค้งยาวเกือบ 2 กิโลเมตร จากลักษณะนี้ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากรถที่เเล่นมาด้วยความเร็วบ่อยครั้ง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงบูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานคร หาสาเหตุและแนวทางแก้ไข เพื่อปิดตำนานโค้งร้อยศพบนถนนเส้นนี้ให้ได้ ตามโครงการ "ลดการตายและผู้บาดเจ็บสาหัสบนถนนให้เป็นศูนย์" จุดเกิดเหตุจะเห็นสภาพร่องรอยจากอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณฝั่งตรงข้ามศาลอาญา ยังปรากฎอยู่ชัด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และถัดจากจุดนี้ไปไม่ถึง 100 เมตร ก็ปรากฎ ร่องรอยของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยไม่นาน มีผู้เสียชีวิตเช่นเดียวกัน ด้วยสภาพของถนนที่เป็นช่วงโค้งยาวเกือบ 2 กิโลเมตร ในลักษณะโค้งหลังหัก มี 2 รัศมีเชื่อมด้วยเส้นตรงสั้น โดยธรรมชาติทำให้ผู้ขับขี่เมื่อเข้าโค้งก็จะคิดว่าไม่จำเป็นต้องปรับพวงมาลัย ประกอบกับถนนที่ไม่มีการยกโค้งและกลไกชะลอความเร็ว ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ยากขึ้น หากขับขี่เร็วกว่าความเร็วที่กำหนดไว้ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยิ่งเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ เช่นขณะที่เราอยู่ในพื้นที่ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น สถิติตั้งแต่ เดือนมกราคม ปี 2563 จนถึงปัจจุบันมีอุบัติเหตุบนโค้งศาลอาญา 293 ครั้ง เสียชีวิต 5 คน เฉพาะเดือนกันยายนที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตถึง 4 คน และมักเกิดขึ้นช่วงกลางคืนในเวลาที่ฝนตก ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของอุบัติเหตุบนท้องถนน ประกอบด้วย ผู้ขับขี่ สภาพรถยนต์ สภาพถนน และความเร็ว บริเวณโค้งช่วงถนนสิรินธรเป็นอีก 1 จุด ที่ทางสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ระบุว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับโค้งด้านหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ด้วยจำนวนเลนส์ที่กว้างและเป็นโค้งหักศอก ระบุความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังพบเห็นร่องรอยจากอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้เสนอให้ปรับสภาพถนนทางกายภาพในเบื้องต้น และ กำหนดวินัยจราจร ก่อนประเมินผลอีกครั้งในระยะเวลา 1 เดือน เบื้องต้น วสท. และ กรุงเทพมหานครได้เตรียมแผนการปรับปรุงงานจราจรในหลายพื้นที่จุดเสี่ยงทั่วกรุงเทพมหานคร โดยแบ่งแผนออกเป็นระยะเร่งด่วน และ ระยะยาว ซึ่งอยู่ระหว่างรองบประมาณ ขณะเดียวกันก็จะผลักดันแนวคิด Thailand toward zero deaths ลดอัตราการตายและผู้บาดเจ็บสาหัสบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ให้เกิดขึ้นได้จริงในอนาคต
