เชื่อว่าหลายๆ คนเคยมีอาการปวดหัวข้างเดียว หรือที่้เราเรียกว่า "ไมเกรน"
ไมเกรน เป็นอาการที่มักพบในเพศหญิง ผู้ที่ปวดหัวไมเกรนมักจะปวดศีรษะข้างเดียว มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาการอาจจะรุนแรงและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
เมื่อพูดถึง Botulinum toxin type A หรือที่คนไทยเรียกกันจนติดปากคือ โบท็อก หลายคนอาจนึกไปถึงแวดวงศัลยกรรมและเสริมความงาม แต่ปัจจุบันนี้ โบท็อกได้เข้ามามีบทบาททางการแพทย์แขนงอื่นๆ อีกมากมาย และที่จะอธิบายต่อจากนี้ คือ การใช้โบท็อกในการรักษาโรคไมเกรน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วย
โบท็อก รักษาไมเกรน ปัจจุบันมีการรักษาไมเกรนที่หลากหลาย ทั้งการใช้ยากินหรืออาหารเสริม ในผู้ป่วยไมเกรนที่มีอาการปวดศรีษะไมเกรนเรื้อรัง การฉีด Botulinum toxin type A หรือ โบท็อก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่แพทย์นำมารักษาผู้ป่วย นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อมีการคลายตัว โบท็อกยังสามารถยับยั้งความเจ็บปวดจากปลายประสาทไปยังสมองได้อีกด้วย การฉีดโบท็อกจึงสามารถลดอาการรุนแรงของการปวดศีรษะและลดความถี่ของการปวดศีรษะได้เป็นอย่างดี รวมทั้งทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอาจจะไม่ต้องรับประทานยาป้องกันอาการปวดศีรษะเป็นประจำ หรืออาจจะลดขนาดยาลงได้
ในการรักษาแต่ละครั้ง แพทย์จะฉีดโบท็อกที่บริเวณใบหน้า ระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า เป็นจำนวน 31 จุด
จากการวิจัย พบว่าคนไข้ประมาณ 70 เปอร์เซนต์ สามารถลดอาการปวดลงได้กว่าครึ่ง และยังสามารถลดการใช้ยาแก้ปวดได้อีกด้วย การฉีดแต่ละครั้ง จะมีผลอยู่ได้ 3 เดือน และผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย