โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

Tissue Papers Cafe พื้นที่ชำระใจที่ว่าด้วย กาแฟ ศิลปะ สำนักพิมพ์ และหนังสือ

THE STANDARD

อัพเดต 18 ก.พ. 2561 เวลา 02.55 น. • เผยแพร่ 17 ก.พ. 2561 เวลา 17.01 น. • thestandard.co
Tissue Papers Cafe พื้นที่ชำระใจที่ว่าด้วย กาแฟ ศิลปะ สำนักพิมพ์ และหนังสือ
Tissue Papers Cafe พื้นที่ชำระใจที่ว่าด้วย กาแฟ ศิลปะ สำนักพิมพ์ และหนังสือ

ณ ใจกลางเมืองของจังหวัดนครสวรรค์ ร้านกาแฟขนาดย่อมยังอยู่ในความสงบของแรกชั่วโมงเปิดร้านตอนเช้า เราผลักประตูกระจกใสที่มีอักษรสีขาวเรียงเป็นระเบียบบอกชื่อ Tissue Papers Cafe เมื่อเข้าสู่ภายในก็พบกับ คุณมิ้ง-อุเทน จิตสุทธิภากร เจ้าของร้านผู้ให้คำนิยามว่าที่นี่คือพื้นที่ชำระใจที่เป็นทั้งร้านกาแฟ พื้นที่ทางศิลปะ และเป็นสำนักพิมพ์เล็กๆ ซึ่งทั้งหมดดังกล่าวล้วนเป็นสิ่งที่เขารักและใฝ่ฝันอยากจะทำ

 

 

*The Vibe *

ด้วยความชอบในบรรยากาศของร้านกาแฟ ลาเต้อาร์ต งานศิลปะ และมองว่าการทำร้านกาแฟก็นับเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่ต้องประกอบขึ้นด้วยทักษะและความสร้างสรรค์ ชายหนุ่มจึงปรับเปลี่ยนตึกแถวหนึ่งคูหาที่ถูกทิ้งว่างให้กลายเป็นคาเฟ่บรรยากาศรื่นรมย์ เฟอร์นิเจอร์ไม้ โต๊ะไม้ หรือเก้าอี้ตัวสวย ถูกทำขึ้นด้วยสองมือของเขา เนื่องจากข้อจำกัดด้านเงินทุน หรือแม้แต่กระเบื้องสีขาวที่แหว่งว่าง ปูไม่เต็มผนังสองด้านดี ก็เกิดจากการแก้ปัญหาด้วยเหตุผลเดียวกัน

 

บรรยากาศภายในร้าน และคุณมิ้ง เจ้าของร้าน

 

“ทำให้รู้สึกเหมือนแผ่นกระเบื้องหลุดร่วงออกจากผนัง” เขาอธิบาย “ผมไม่มีความรู้เรื่องการทำเฟอร์นิเจอร์เลย แต่ค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ ทำ เพราะเวลาที่เราหลังชนฝา เราต้องหาทางออก แล้วข้อจำกัดนี่ล่ะที่จะทำให้เราเกิดไอเดีย” แม้แต่ภาพวาดประกอบคำคมของบุคคลดังขนาดเท่าโปสการ์ดประดับผนัง รวมถึงกระเป๋าผ้าดีไซน์เรียบก็เป็นฝีมือของชายหนุ่มคนเดียวกันนี้

 

ร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ ที่เจ้าของร้านออกแบบด้วยตัวเอง

 

The Drinks

คุณมิ้งพาตนเองไปเรียนรู้ศาสตร์การทำกาแฟที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อพื้นฐานที่แน่นถูกผนวกเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ จึงเกิดเป็นกาแฟแก้วใหม่ๆ ที่ให้รสและสัมผัสหลากหลาย “เมล็ดกาแฟแต่ละที่มามีรสชาติ มีดีของมันอยู่ การจับนั่นมาเจอนี่ก็เหมือนเราเป็นวาทยากรควบคุมให้เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นสร้างทำนองที่สอดประสานกันขึ้นมาได้”     

 

(ซ้าย) Marocchino, (ขวา) Crème Brûlée

 

แก้วแรก เขายกตัวอย่าง Marocchino (80 บาท) เป็นการเจอกันระหว่างมอคค่าและคาปูชิโน่ ผสานกลมกล่อมในแก้วขนาดพอดีอุ้งมือโอบที่ถูกปาดด้วยช็อกโกแลตเพื่อสร้างเลเยอร์ ผงโกโก้โรยทับฟองนมนุ่ม วางมาร์ชเมลโลมีไส้ตรงกลางแก้ว อร่อยราวดื่มขนมหวาน

 

Crème Brûlée (85 บาท) ชื่อเหมือนของหวานสัญชาติฝรั่งเศส เพียงแต่ชั้นล่างถูกแทนที่ด้วยกาแฟแล้วทับชั้นด้วยฟองนม น้ำตาลส่วนบนสุดถูกเผาไหม้กลายเป็นเกล็ดคาราเมลสีน้ำตาลวาว ใช้ช้อนกะเทาะแผ่นคาราเมลให้แตกเพื่อละเลียดความหวานสักหน่อยก่อน แล้วค่อยยกดื่มเพื่อลิ้มรสในทุกชั้นของแก้ว

 

Iced Tiramisu Macchiato

 

แม้ฉันจะคุ้นเคยและโปรดปรานคาราเมลมัคคิอาโตเป็นพิเศษ​มาโดยตลอด แต่ Iced Tiramisu Macchiato (80 บาท) แก้วนี้กลับทำให้ปันใจจากที่เคย หากเป็นขนม ชั้นบนสุดของทีรามิสุคือมาสคาโปเนชีส หากแต่แก้วนี้คือฟองนมเนียน นวล นุ่ม โรยกลบด้วยผงโกโก้ ให้รสขมและหวานได้อย่างพอดี

 

กาแฟร้อนมีเมล็ดหลายหลากให้เลือก

 

กาแฟร้อนที่ร้านนี้มีทั้งเมล็ดกาแฟไทยจากเชียงใหม่ และเมล็ดนำเข้าจากต่างประเทศให้เลือก ทั้งเคนยา ฮอนดูรัส กัวเตมาลา และเอธิโอเปีย ส่วนราคาก็แล้วแต่ว่าเลือกเมล็ดอะไร อีกมีทั้งเครื่องดื่มประเภทอื่น เช่น ชา โกโก้ รวมถึงของหวานไว้ละเลียดคู่เครื่องดื่ม

 

บรรยากาศชวนจิบและชวนอ่านภายในร้าน

 

The Dishes

ของหวานของร้านนี้ล้วนมีที่มาที่ไป จึงต้องขอให้เจ้าตัวเลือกสักสองอย่างเอามาเล่า

 

“ผมเป็นคนไม่ค่อยกินของหวาน หรือกินแล้วไม่ค่อยสนใจชื่อเมนู แต่ตอนเดินทางไปสิงคโปร์ ญาติของผมที่นั่นพาไปกินขนมปังปิ้งกับกาแฟเป็นมื้อเช้า ขนมปังปิ้งของเขาเป็นแผ่นสไลด์ประกบกัน ตรงกลางปาดแยมและเนยบางๆ กัดไปคำแรกถึงกับต้องหันไปถามญาติว่าเมนูนี้ชื่ออะไร” คุณมิ้งกำลังเล่าถึงที่มาของ Singapore Toast (80 บาท) จานตรงหน้า “ไส้แยมตรงกลางอร่อยมาก เลยมาศึกษาตัวแยมว่าทำอย่างไร แล้วปรับเป็นเวอร์ชันที่ถูกลิ้นเรา ส่วนตัวท็อปปิ้งพยายามนึกถึงความสมดุลระหว่างของแห้งและของเปียก ให้กินแล้วไม่ฝืดคอจนเกินไป”

 

Singapore Toast

Classic Pancake

 

Classic Pancake (65 บาท) ขนมหวานอีกอย่างที่มีตัวตนของเจ้าของร้านอยู่ในนั้น “ผมชอบกินแพนเค้กกับไซรัปหวานๆ ในสังคมอเมริกัน แพนเค้กเป็นพระเอกของมื้อเช้าได้เลย เวลาดูหนังฮอลลีวูด เราจะเห็นคนอเมริกันกินแพนเค้กกับกาแฟดำ มันคลาสสิกดี” เขาเล่าว่าเวลาที่ตัวละครในหนังหั่นแพนเค้กที่เรียงซ้อนกัน 4-5 ชิ้นแล้วเอาเข้าปาก ขณะมือหนึ่งจับหนังสือพิมพ์ มืออีกข้างวางมีดหั่นแพนเค้กลงแล้วคว้าถ้วยกาแฟขึ้นดื่มเพื่อช่วยให้เคี้ยวแพนเค้กในปากได้คล่องขึ้น เป็นฉากที่ชวนให้เขากลืนน้ำลายตาม “ผมเลยมองว่าแพนเค้กกับกาแฟควรเป็นฉากเริ่มต้นเรื่องดีๆ ในเช้าแต่ละวัน”   

 

Open:วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 7.30-18.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ 8.00-19.00 น.

Address:ถนนสวรรค์วิถี ซอย 65/7 ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์

Contact:09 0995 2707

Budget:เริ่มต้นที่ 50 บาท

Website:www.readtissuepapers.com

Page:www.facebook.com/tissuepaperscafe

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0