หากพูดถึงเรื่องเครื่องดื่มน้ำดำคงไม่มีใครไม่รู้จักโค้ก (Coke) ที่มีการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าไปวางขายทั่วโลก และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่บริษัทโคคา-โคล่า (Coca-Cola) ซึ่งเป็นเจ้าของ Coke ได้ส่งสินค้าเข้ามาขายในไทยอย่างแพร่หลาย
Coca-Cola นอกจากจะมีแบรนด์ Coke ที่เป็นน้ำดำผสมโซดาแล้วยังมีแบรนด์ดังๆ อีกหลาย แบรนด์อย่างสไปรท์ (Sprite) และมินิท เมด (Minute Maid) อีกด้วย โดยบริษัท Coca-Cola จดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศด้วยชื่อ Ticker ว่า KO
แต่เราก็ยังสามารถลงทุนใน KO ได้ทางอ้อมผ่านหุ้น HTC หรือ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับสิทธิ์ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มหลายแบรนด์ของ KO ในพื้นที่ภาคใต้ของไทย
ส่วนในภาคอื่นๆ ของประเทศไทยนั้น บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย
หุ้น HTC มีธุรกิจคือ ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแบรนด์ของ KO โดย KO จะไม่ได้มาขยายโรงงานผลิต บรรจุ และจัดจำหน่ายเองทั่วโลกเพราะอาจจะต้องใช้เงินลงทุนสูง ใช้เวลาในการสร้าง แถมยังไม่มีระบบขนส่ง (Logistic) ในการจัดจำหน่ายสินค้าของตัวเองไปยังร้านค้าต่างๆ เลยต้องให้ HTC เป็นคนดำเนินงานตรงส่วนนี้ให้
ราคาหุ้นของ HTC มีการปรับตัวขึ้นสูงมาก ถ้าเราไปดูราคา Low ก่อนคือในวันที่ 9/1/2561 ราคาจะอยู่ที่ 17.30 บาท และมาทำ High 29.00 บาทในไม่กี่วันนี้ หรือปรับตัวขึ้นกว่า 60% ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน
สาเหตุการขึ้นราคาหุ้นของ HTC นั้น มาจากปี 2559 ที่กำไรโตขึ้นมากช่วงไตรมาส 1 (Q1) ปี 2559 คิดเป็น 123% เทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) เพราะเริ่มดำเนินการผลิตขวด PET เป็นของตัวเอง ทำให้ลดต้นทุนด้านบรรจุภัณฑ์ไปพอสมควร ซึ่งค่าบรรจุภัณฑ์เป็นต้นทุนที่เยอะที่สุด
อัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin หรือ GPM) ใน Q1 ปี 2558 อยู่ที่ 28.7% ส่วนใน Q1 ปี 2559 โตขึ้นเป็น 31.9% ซึ่ง GPM ที่โตขึ้นมาจากการผลิตขวด PET เองก็ส่งผลให้กำไรสูงขึ้น อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin หรือ NPM) จึงเพิ่มจาก 1.6% มาเป็น 5.8%
เทรนด์นี้ยังคงมาต่อในปี 2560 ที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (Selling, General and Admin Expense หรือ SGA) ก็น้อยลงไปอีกเพราะ HTC ให้ส่วนลดทางการค้าน้อยลงเวลาคนมาซื้อสินค้า
โดยรายได้รวมและกำไรของ HTC มีดังนี้ปี รายได้ (ล้านบาท) กำไร (ล้านบาท) 2558 5,458.8 100.8 2559 5,732 241 2560 5,690.9 283
HTC ยังได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการปรับค่าน้ำตาลโดยรัฐบาลอีกด้วย โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ได้ให้ข้อมูลว่า ทุก 1 บาทที่ราคาน้ำตาลในไทยลดลง จะเพิ่มกำไรให้กับ HTC ถึง 60 ล้านบาท ซึ่งน้ำตาลเป็นต้นทุน 35% ของต้นทุนรวมนั่นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นกรณีศึกษาของการปรับตัวขึ้นของ HTC ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถรับประกันถึงผลตอบแทนในอนาคตได้ ผู้ลงทุนควรศึกษาปัจจัยอื่นๆ ประกอบไปด้วยเช่นกันครับ--------------------- ค้นหาหุ้นและดูงบการเงินย้อนหลัง 10 ปี พร้อมกราฟราคาได้ที่ FINNOMENA Stock Quote (Beta) https://www.finnomena.com/stock/
—————————-
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=HTC&ssoPageId=5&language=th&country=TH
https://www.set.or.th/set/companynews.do?symbol=HTC&ssoPageId=8&language=th&country=TH
----------------------------
Vithan Minaphinant
Securities Investment Analyst (IA)
ตรวจทานบทความ
คำเตือน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้เขียนบทความนี้มิได้รับค่าตอบแทนหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทที่กล่าวถึงในบทความนี้แต่อย่างใด ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้