พบกับ 7 วัน 7 ข่าว กับการหยิบประเด็นที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์ มาสรุปให้ผู้อ่าน LINE TODAY ได้อ่านกันโดยทีม LINE TODAY
หมดสิ้นข้อสงสัย ‘ณิชา’ เป็นผู้บริสุทธิ์จริง! ผบ.ตร. ยืนยัน จากการตรวจสอบหลักฐานแก๊งโรแมนซ์สแกม ไม่พบว่านางสาวณิชามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับขบวนการหลอกโอนเงินรายนี้ หลังจากที่ผ่านมาตกเป็นข่าวคึกโครมเพียงเพราะทำบัตรประชาชนหาย จนมิจฉาชีพนำไปแอบอ้างเปิดบัญชีเกือบ 10 บัญชีเพื่อนำไปหลอกให้ประชาชนโอนเงินเข้ามา เป็นแก๊งฉ้อโกงข้ามชาติ ที่ผ่านมาผู้เสียหายพยายามต่อสู้จนถึงที่สุด แม้ว่าจะต้องเข้าไปอยู่ในคุกนานถึง 3 วัน แต่วันนี้คดีได้ถูกไขกระจ่างแล้วว่าเธอเป็นแพะรับบาป โดยต่อจากนี้เธอจะเดินหน้าฟ้องธนาคารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และเรียกร้องสิทธิ์ที่ตนเองพึงจะได้ จากการตกเป็นผู้ต้องหาตัวปลอมในขบวนการยุติธรรม
วิคตอเรียซีเครท มหากาพย์อาบอบนวด
'เสี่ยกำพล’ เจ้าของวิคตอเรียซีเครท อาบอบนวดชื่อดังที่ถูกเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ถูกแจ้ง 12 ข้อหาหนัก รวมถึงความผิดฐาน ‘ค้ามนุษย์’ หลังจากพบว่ามีเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวนมาก ถูกบังคับให้ค้าบริการในสถานที่แห่งนี้ รวมถึงหญิงสาวต่างด้าวอีกจำนวนมาก แถมยังพบบัญชีรายชื่อลับที่มีหน่วยงานรัฐ ข้าราชการ รวมถึงผู้มีสีตำแหน่งสูงๆ หลายคนหลายฝ่ายพัวพันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กำลังสอบสวนขยายผลว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง จะได้ลงโทษตามระเบียบกันไป ส่วนข่าวลือที่ว่าเสี่ยกำพลเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้วนั้น ยังไม่เป็นความจริง แต่ได้ประสานไปยังสตม. เพื่อดักตัวไว้แล้ว หากพบว่ามีการหลบหนีออกนอกประเทศ
คุก 111 ปี อดีตวิศวกรมือบึ้มกลางกรุง
'วัฒนา’ อดีตวิศวกร กฟผ. ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดกลางกรุง ถูกศาลพิพากษาจำคุกรวม 78 ปี 30 เดือน จาก 3 คดี คือวางระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ หน้ากองสลากฯ และหน้าเมเจอร์รัชโยธิน ในความผิดฐานครอบครองวัตถุระเบิด พยายามฆ่า และข้อหาอื่นๆ หากรวมกับคดีวางระเบิดในโรงพยาบาลพระมงกุฎที่พิพากษาไปก่อนหน้านี้แล้ว ผู้ต้องหาจะถูกจำคุกรวม 111 ปี และชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายแสนบาท
คนไข้ต่อยกับหมอเคลียร์จบด้วยดี พูดคุยแล้วต่างแยกย้าย
หลังจากที่มีคลิป หมอและคนไข้ชกต่อยกันถูกแพร่ออกไป โดยผู้ที่โพสต์คลิปอ้างว่าถูกหมอใช้วาจาหยาบคายด่าไล่ให้ไปรักษาที่อื่น โดยเหตุเกิตที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านสะพานสูง ซึ่งล่าสุด คู่กรณีทั้ง 2 คนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางชันและได้พูดคุยไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อย โดยเป็นความผิดที่ยอมความได้
หนุ่ม ม.5 โพสต์เตือน เข้าห้องน้ำชายก็ต้องระวังถูกข่มขื่น!
ขนาดผู้ชายยังต้องระวัง! นายศุภกร หนุ่มนักเรียน ม.5 โพสต์เตือน เล่าเหตุการณ์กรณีตนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องน้ำในปั๊มแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเชียงใหม่ แต่กลับเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยระหว่างที่ตนอยู่ในห้องน้ำมีชายคนหนึ่งเอาเท้าแหย่เข้ามาทางพื้นใต้ประตูหลายครั้ง จากนั้นก็สอดมือเข้ามาพร้อมกับถุงยางอนามัยให้ดูอีก หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้เข้าห้องน้ำที่อยู่ห้องข้างๆ ตนจึงตัดสินใจออกจากห้องน้ำ แต่กลับโดนชายคนดังกล่าวโผล่ออกมาและกระชากแขนตกเข้าไป และโดนชายอีกคนดันตนเองเข้าไป ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มชารักชาย และพยายามจะข่มขื่นตน ตนจึงขัดขืนและรีบวิ่งออกมา ขี่รถหนีไป
ทั้งนี้นายศุภกรยังบอกอีกว่า ที่ออกมาโพสต์ไม่ได้ต้องการจะทำให้สถานประกอบการเสียชื่อเสียง แต่ต้องการให้เพิ่มความปลอดภัยเพราะนี่ขนาดเป็นปั๊มน้ำมันใจกลางเมืองที่มีคนเข้าออกพลุกพล่านยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และต้องการเตือนให้คนที่เข้าห้องน้ำในปั๊มระวังตัวถึงแม้จะเป็นห้องน้ำชายก็ตาม
มติเอกฉันท์ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุด 330 บาท เริ่ม 1 เม.ย. นี้!
มติเอกฉันท์ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสูงสุดเป็น 330 บาท! โดยสรุปแล้วการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำได้มีการปรับขึ้น 5-22 บาทและแบ่งเป็นหลายระดับ มากที่สุดวันละ 330 บาทได้แก่จังหวัด ชลบุรี ภูเก็ต และระยอง รองลงมาคือ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลปรับขึ้นมาเป็น 325 บาท ทั้งนี้กระทรวงแรงงานจะเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า และการประกาศครั้งนี้มีผลบังคับใช้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามกลุ่มเอสเอ็มอีที่ห่วงว่าอาจจะได้รับผลกระทบนั้น ทางรัฐบาลกล่าวว่าได้มีแนวทางช่วยเหลืออยู่แล้ว เพื่อให้ทุกกลุ่มอยู่ได้
ปิดฉากรักสามปี เมย์-เมสซี่เจ ยันไม่เกี่ยวกับสินสอดสามสิบล้าน
เป็นข่าวสะเทือนวงการ เมื่อนักแสดงสาวสวย "เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร" ประกาศปิดฉากรัก 3 ปีกับ "เมสซี่เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์" นักฟุตบอลชื่อดังแบบสายฟ้าแลบ โดยสาเหตุที่เลิกรากัน เมย์เผยว่าเป็นเพราะทางฝั่งครอบครัวของฝ่ายชายไม่ชอบ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีกระแสมาว่า พ่อแม่ของเจไม่ปลื้ม ห่วงว่าลูกชายจะฟอร์มตกหากมีแฟน แต่ก็ไม่ได้บอกให้เลิกคบ แค่กลัวลูกจะเสียใจเพราะยังเด็กอยู่ และอายุก็ต่างกันมาก โดยเมย์เผยว่าเลิกกันทั้งที่ยังรักกันทั้งคู่ แต่ไปต่อไม่ได้เพราะเมย์ก็ไม่อยากให้เจมีปัญหากับครอบครัวจึงตัดสินใจเลิก หลังจากเมย์ประกาศเลิกก็มีกระแสข่าวมาอีกว่าฉนวนที่ทำให้มั้งคู่เลิกกันเป็นเพราะเมย์เรียกสินสอดจากครอบครัวเจถึง 30 ล้านบาทหรือเปล่า แต่ล่าสุดเมย์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างหมดเปลือกทั้งน้ำตาว่า เธอเรื่องสินสอด 30 ล้านนั้นไม่เป็นความจริง ไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นเลย แต่ที่บ้านเค้าไม่เอาเรา ที่ผ่านมาก็ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าให้ย้อนกลับไปก็ยังเลือกที่จะรักเจเหมือนเดิม ส่วนตอนนี้พยายามทำใจอยู่ พร้อมขอร้องให้หยุดต่อว่าครอบครัวฝ่ายชาย ก่อนทิ้งท้ายว่ายังรักและขอเป็นกำลังใจให้ ถ้าอีก 3 ปีข้างหน้าเมย์ยังไม่มีใคร และเจยังรักตนอยู่ก็ค่อยมาจีบใหม่
พบกับการสรุปประเด็นข่าวที่น่าสนใจโดยทีม LINE TODAY ได้ทุกวันอาทิตย์
