นักการตลาดในตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักและไม่ทำ Content Marketing และหลาย ๆ แบรนด์ก็ทำงบประมาณมากมายลงไปในการทำ Content Marketing เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการจ้าง Agency มาทำเอง หรือจ้างและสร้างทีม Content In house ของตัวเองขึ้นมา พร้อมกับลงทุนในการสร้าง Content ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อหวังว่า Content ที่ทำนั้นจะมีผลในทางบวกกับการตลาดตัวเองขึ้นมา
แต่ถ้า Content Marketing ที่ทำนั้นเกิดลงทุนไปอย่างมากมาย ปรากฏว่าการทำที่ลงแรง ลงเวลา ลงเงินไปนั้น ไม่ได้อะไรตอบแทนในสิ่งที่คุ้มค่ากลับมาเลย หรือลงมือทำไปแล้ว เมื่อผลออกมากลับทำให้คุณนั้นตั้งคำถามกับตัวเองว่าสิ่งที่ทำนั้นคุ้มค่ากับเงินงบประมาณต่าง ๆ ที่ลงมือรึเปล่า ทั้งนี้ในงาน Digital นั้นนักการตลาดสามารถติดตามผลและปรับปรุงการแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้ตลอดเวลา แต่ในงาน Content Marketing นั้นเมื่อทำออกมาแล้ว ต้องรอจนกว่าจะเห็นผลที่เกิดขึ้น และแก้ไขต่อไปในงาน Content Marketing อันถัดไป เพราะฉะนั้นการรู้ข้อควรระวังเพื่อไม่ให้ทำ Content Marketing ออกมาผิดพลาดนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งวันนี้ผมจะมานำเสนอ 5 ข้อที่ควรระวังในการทำ Content Marketing
1. ไม่ใช้เครื่องมือ และ คนเก่ง ๆ ให้เป็นประโยชน์ : ในการทำ Content Marketing ปัจจุบันนั้นมีเครื่องมือมากมายที่ให้นักการตลาดได้ใช้หาข้อมูล บริหารจัดการเนื้อหา จนถึงการส่งเนื้อหาออกไป เครื่องมือเหล่านี้เป็นได้ตั้งแต่ปืนกล จนเป้นปืนสไนเปอร์ เมื่อเทียบกับวิธีการปกติที่ทำที่เรียกได้ว่าเป็นแบบ Manual ที่บริหารจัดการเองหมด ซึ่งเป็นเหมือนการใช้ก้อนหินไปรบนั้นเอง ซึ่งเทียบแล้วการใช้เครื่องมือนั้นย่อมดีกว่ามากมาย เพราะทำให้คุณสามารถหาข้อมูลเปรียบเทียบได้ว่าเนื้อหาไหนที่ควรจะทำ รูปแบบไหนที่เหมาะ จะโพสเมื่อไหร่และเวลาใด พร้อมจะโพสเนื้อหาเหล่านี้ให้กับคนกลุ่มไหนได้เลย ทำให้การทำ Content นั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากมาย
ภาพจาก Kiss Metric
นอกจากนี้ใช้คนเก่งในการทำงานนั้นต้องรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะบางทีคนในออฟฟิสนั้นอาจจะมีไอเดียดี ๆ หรือเข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากกว่ากลุ่มคนที่ทำ Content อยู่ก็ได้ เช่นการทำ Content วัยรุ่น บางทีการเข้าไปถามวัยรุ่นในออฟฟิสอาจจะช่วยได้มากกว่ามานั่งทำเอง
2. ไม่เคยทดลองอะไรใหม่ ๆ : ถ้าคุณทำ Content Marketing ทุกวัน และทำแล้วได้ผลอยบ่างมาก ปรากฏว่าคุณคิดจะทำอบบนี้ไปตลอดโดยไม่คิดริเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ นั้นจะกลายเป็นหายนะในทมี่สุด เพราะในงาน Content Marketing นั้นปรับเปลี่ยนตามสภาวะ Digital ที่เปลี่ยนไป หรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป พร้อมกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้การทำงานแบบเดิม ๆ โดยที่หวังผลว่างานนั้นจะมีทางที่ดีขึ้นได้นั้นเป็นไปได้อย่างมาก ถ้าไม่ลองทำอะไรใหม่ ๆ เพื่อหาว่า ทำแบบไหนแล้วจะได้ผลขึ้นมา หรือทำให้แล้วมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ทำอยู่ เช่นการทำ A/B Testing เป็นต้น
ภาพจาก Amazon.com: Content Marketing Experiments to Grow Your Traffic
3. เข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย : สิ่งหนึ่งทำให้ Content Marketing ของตัวเองไปไม่ถึงไหน หรือไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรคือการไม่เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายตัวเองชอบอะไร หรือมีความชอบเปลี่ยนไปอย่างไร หรือไม่รุ้ว่าจะเชื่อมต่อสร้างสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างไร การทำวิจัยหรือใช้เวลาดูว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละคนที่เข้ามาที่เว็บหรืออ่าน Content นั้นเป็นใครแล้วใช้ชีวิตประจำวัน หรือชอบทำอะไรในออนไลน์ นั้นจะช่วยทำให้คุณสามารถมีข้อมูลมากมายที่จะเป็นตัวเริ่มในการสร้างเนื้อหาที่โดยต่อแบรนด์ได้ขึ้นมา ดีกว่าทำการสรุปผลโดยไม่ได้มีข้อมูลแล้วทำ เนื้อหาออกมาโดยหวังว่าจะโดนกลุ่มเป้าหมาย
4. ไม่ใช้ข้อมูล : ด้วยยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี และทุก ๆ คนก็ทำอะไรที่เหมือน ๆ กัน ตาม ๆ กันมา เห็นใครประสบความสำเร็จก็ทำตาม ดังนั้นการมีที่จะทำอะไรให้มาก่อนหรือทำแล้วเหนือกว่าคนอื่นนั้นจะเป็นอย่างมาก ซึ่งโชคดีที่ยุคนี้มีข้อมูลมากมายให้สามารถเก็บได้ และเอาข้อมูลเหล่านี้มาช่วยทำให้การทำ Content Marketing ของตัวเองดีขึค้นได้อย่างมาก การไม่ยอมใช้ข้อมูลแล้วทำงานโดยการใช้ gut feeling นั้นไม่สามา่รถสร้างประสิทธิภาพขึ้นมาในการทำงานได้ แถมยังทำให้การทำงานนั้นอาจจะเกิดการเสียงบประมาณไปโดยใช้เหตุ และเสียเวลาอย่างมากไปกับการทำงานที่ไม่ได้ผลขึ้นมาเลย
5. ทำปริมาณเยอะกว่าคุณภาพ : สิ่งหนึ่งที่สร้างหายนะในการทำ Content Marketing ขึ้นมา คือการที่ทีมทำงานนั้นทำ Content ปริมาณมากออกมา โดยไม่สนใจว่าเนื้อหานั้นจะมีคนอ่านหรือไม่มีคนอ่าน ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทีมงานคุณกำลังทำเนื้อหาที่ไร้ประโยชน์ออกมา และสิ่งที่ผู้บริโภคจะมองคือการทำคุณกำลังจะทำ spam มากมายออกมาให้ผู้บริโภคนั้นเอง ทำให้ผู้บริโภคจะไม่สนใจแบรนด์คุณอีกต่อไป ดังนั้นการทำงาน Content Marketing ที่ดี คือการที่เริ่มโฟกัสในการทำเนื้อหาเชิงคุณภาพออกมาก่อน ทำเนื้อหานั้นให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายออกมา เพื่อทำให้เนื้อหานั้นมีประสิทธิภาพสูงที่สุดออกมา
อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com