ในตลาดหลักทรัพย์และตลาด MAI มีหุ้นบริษัทจดทะเบียนทั้งสิ้นประมาณ 675 บริษัท แต่มีหุ้นบริษัทจดทะเบียนอยู่ 5 บริษัท ที่พฤติกรรมคล้ายกันเดี๊ยะ เหมือนกับปั๊มออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน และสร้างความเสียหายกับนักลงทุนอย่างหนักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
หุ้นทั้ง5 ตัวประกอบด้วย บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น POLAR บริษัท แมกซ์เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MAX บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น NEWS บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EIC และ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AQ
แม้หุ้นทั้ง 5 ตัว จะไม่มีการถือหุ้นไขว้กัน ไม่มีเครือข่ายเกี่ยวโยงกันอย่างเป็นทางการ มีเพียงกรรมการบริษัทบางคนนั่งคร่อมอยู่หลายบริษัทในกลุ่มเท่านั้น แต่ธุรกรรมและการดำเนินงานหลายอย่างมีลักษณะเหมือนกัน เหมือนถูกกำหนดมาโดยคนคนเดียวหรือคนกลุ่มเดียวกัน
ทั้ง 5 บริษัทเป็นหุ้นร้อน มีข่าวลือประจำ เพิ่มทุนบ่อย ออกใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญหรือวอแรนต์เป็นว่าเล่น ซื้อทรัพย์สินและขยายการลงทุนต่อเนื่อง แต่ผลดำเนินงานขาดทุนหลายปีติด ยอดขาดทุนสะสมสูง ไม่เคยจ่ายเงินปันผล และราคาหุ้นทรุดลงมาเหลือเพียงไม่กี่สตางค์
แน่นอนว่า หุ้นเหล่านี้ เป็นหุ้นตัวร้าย สูบเงินจากนักลงทุนไปจำนวนมาก สร้างความเสียหายกับตลาดหุ้นในวงกว้าง และกำลังทยอยตายซากกันทีละบริษัท
POLAR มีผู้ถือหุ้นรายย่อย “ติดกับ”อยู่จำนวน11,523 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน100% นักลงทุนรายใหญ่ขายหุ้นทิ้งหมดแล้ว ปี 2557 เพิ่มทุน 8 ครั้ง ปี 2558 เพิ่มทุน 3 ครั้ง ออกวอแรนต์ไม่รู้กี่รุ่น ซื้อทรัพย์สินและขยายการลงทุนมากมาย แต่ผลดำเนินงานขาดทุนติดต่อหลายปี มียอดขาดทุนสะสม 2,110 ล้านบาท
POLAR ถูกพักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินงวดบัญชีปี 2559 ราคาปิดครั้งสุดท้าย 15 สตางค์ ก่อนขอเข้าฟื้นฟูกิจการ โดยอ้างว่ามีหนี้สินล้นพ้น และถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
MAX มีผู้ถือหุ้นรายย่อยติดค้างอยู่ 16,030 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 86.73% ของทุนจดทะเบียน ปี 2557 เพิ่มทุน 2 ครั้ง ปี 2558 เพิ่มทุน 1 ครั้ง ปี 2560 เพิ่มทุน 1 ครั้ง ออกวอแรนต์แจกพ่วงหุ้นเพิ่มทุนเสมอ แต่ผลดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง มียอดขาดทุนสะสม 318 ล้านบาท
ราคาหุ้น MAX ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่แถว 3 - 4 สตางค์
NEWS มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 8,637 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 78.23% ของทุนจดทะเบียน ปี 2557 เพิ่มทุน 11 ครั้ง ปี 2558 เพิ่มทุน 1 ครั้ง ซื้อทรัพย์สินและขยายการลงทุนสม่ำเสมอ แต่ผลดำเนินงานขาดทุนติดต่อหลายปี มียอดขาดทุนสะสม 3,676 ล้านบาท และกำลังมีแผนการเพิ่มทุนใหม่ พร้อมสร้างสถิติการออกวอแรนต์มากที่สุด โดยจะออกวอแรนต์รุ่นที่ 6 แจกพ่วงหุ้นเพิ่มทุน
ราคาหุ้น NEWS ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1 - 2 สตางค์
EIC มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 3,115 ราย ถือหุ้นรวมกัน 100% ปี 2558 เพิ่มทุน 1 ครั้ง ปี 2559 เพิ่มทุน 1 ครั้ง ปี 2560 เพิ่มทุน 1 ครั้ง และล่าสุดประกาศเพิ่มทุนอีกครั้ง หลังจากรับชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนครั้งก่อนได้เพียงประมาณ 1 เดือน มักออกวอแรนต์พ่วงหุ้นเพิ่มทุน ขยันในการซื้อทรัพย์สินและขยายการลงทุน
แต่ ผลดำเนินงาน EIC ขาดทุนติดต่อ โดยมียอดขาดทุนสะสม 554 ล้านบาท ราคาหุ้นล่าสุดย่อลงมายืนแถว 9-10 สตางค์
AQ มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 14,680 ราย ปี 2557 เพิ่มทุน 6 ครั้ง ปี 2560 เพิ่มทุน 2 ครั้ง ประกาศออกวอแรนต์อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแจกผู้ถือหุ้น ผลดำเนินงานขาดทุนติดต่อหลายปี ยอดขาดทุนสะสม 6,367 ล้านบาท
ราคาหุ้น AQ ล่าสุด ถูกตรึงแถว 4 - 5 สตางค์มาหลายวันแล้ว
รวมผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ติดค้างอยู่ในหุ้นตัวร้ายทั้ง 5 ตัว มีจำนวนทั้งสิ้น 43,985 ราย และเกือบทั้งหมดเจ็บเนื้อเจ็บตัว เสียหายหนักจากการลงทุนตัวร้ายเหล่านี้ โดยเฉพาะนักลงทุนที่คิดจะ “เอาทุนคืน” ตามซื้อหุ้นเพิ่มทุน จนต้องขาดทุนซ้ำซาก
แม้โครงสร้างผู้ถือหุ้น หุ้นตัวร้ายทั้ง 5 บริษัท จะไม่มีความเกี่ยวโยงกันแต่อย่างใด แต่พฤติกรรมการดำเนินงาน ธุรกรรมการเพิ่มทุน การออกวอแรนต์ การซื้อทรัพย์สินและขยายการลงทุน มีลักษณะคล้ายกัน ทำให้น่าตั้งข้อสงสัยเหมือนกันว่า มีใครอยู่เบื้องหลังการออกแบบ แผนการสูบเงินของหุ้น 5 ตัวร้ายนี้หรือไม่ และถ้ามีจริง ทำไมจึงใจร้าย ทำให้นักลงทุนเกือบครึ่งแสนรายต้องบาดเจ็บล้มตายได้
และถ้ามีคนบงการ ส่ง 5 หุ้นตัวร้ายมาเปิดปฏิบัติการสูบเงินจากนักลงทุน ทำไมคนบงการยังลอยนวลอยู่ได้
