ถือว่าปัจจุบัน AI เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฟนไปแล้ว โดยที่ผ่านมาก็ได้เข้ามาเสริมประสิทธิภาพในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการถ่ายภาพและการสั่งการด้วยเสียง ซึ่งมาดูกันดีกว่าว่าในปี 2018 ความสามารถของ AI จะมาเข้ามาพัฒนาสมาร์ทโฟน ในด้านไหนบ้าง
1. ประสิทธิภาพกล้องถ่ายรูปที่เพิ่มขึ้น
นี้คือหนึ่งในฟีเจอร์หลักบนสมาร์ทโฟน จากเดิมที่ AI สามารถตรวจหาและแบ่งแยกสิ่งต่างๆ ในรูปภาพได้ ทำให้ในปีนี้จะมีการพัฒนาเรื่องความแม่นยำ และจัดการส่วนต่างๆ บนรูปภาพให้ออกมาดีกว่าเดิม และยิ่งไปกว่านั้นอาจจะได้เห็นการถ่ายรูปแนว Portrait จากกล้องหน้าที่สมจริงมากยิ่งขึ้นด้วย
2. แปลภาษาแบบเรียวไทม์ (แบบไม่ใช้อินเตอร์เน็ต)
ในตอนนี้ก็มีแอพพลิเคชั่นที่สามารถแปลภาษาได้อย่างรวดเร็ว และสามารถแปลภาษาต่างๆ จากรูปภาพได้ทันที อย่างไรก็ตามแอพฯ เหล่านี้ยังต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ เพื่อทำการแปลภาษาเหล่านั้น ซึ่งคาดการณ์กันว่า AI ถูกพัฒนาให้มีความฉลาดในด้านการแปลภาษาแบบทันที และไม่ต้องเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตแต่อย่างใด
3. ช่วยจัดการชีวิตประจำวันของคุณ
ระบบ AI จะมีการปรับและเรียนรู้ผู้ใช้งานอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตารางงานหรือสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานจะถูกจดจำ และจะมีคำแนะนำให้ผู้ใช้งานทำสิ่งเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น
4. Face ID และการสแกนใบหน้า
หลังจากที่ Apple ได้มีการใช้งาน Face ID บน iPhone X ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นการใช้งานจากรากฐานของระบบ AI ในการจดจำใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหนวด, เครา, ดวงตา, สีผม และโครงหน้า โดยอนาคตน่าจะมีการใช้งานที่แม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น รวมไปถึงบริษัทผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นๆ น่าจะมีการนำมาใช้และต่อยอดไปในด้านอื่นๆ อีกมากมาย
5. ผู้ช่วยอัจฉะริยะด้านเสียง จะทำงานได้มากกว่าคุณ
ในตอนนี้ ผู้ช่วยอัจฉะริยะด้านเสียง แทบจะอยู่รอบๆ ตัวคุณทั้งหมด โดยอนาคตน่าจะมีการพัฒนาประสิทธิภาพให้ใช้งานแทนคุณได้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะสั่งของออนไลน์, หาเพลงที่ถูกใจ หรือแม้แต่เขียนข้อความขึ้นมาเองเลย เพียงแค่สั่งการด้วยเสียง
ก็ถือว่าในปี 2018 กระแสของเทคโนโลยี AI น่าจะยังแรงอย่างต่อเนื่อง และเหล่าค่ายผลิตสมาร์ทโฟนก็น่าจะมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าความสามารถที่แท้จริงของ AI ในปี 2018 จะมีอะไรออกมาบ้าง เผลอๆ อาจจะมีมากกว่า 5 ข้อทางด้านบนด้วยซ้ำ