เมื่อวันที่ 27 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชายบุกเข้าไปในหอพักพยาบาล ซึ่งอยู่ภายในโรงพยาบาลนางรอง แล้วก่อเหตุใช้มีดจี้ขู่บังคับคาดหวังขืนใจพยาบาลสาวและชิงทรัพย์ จนเกิดการต่อสู้ขัดขืนทำให้พยาบาลสาวผู้เสียหายถูกมีดเฉือนที่บริเวณนิ้วมือจนเกือบขาด หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผกก.สภ.นางรอง พ.ต.ท.อนิรุทธิ์ ผดุงดี สว.สอบสวน สภ.นางรอง ร.ต.อ.บัณฑิต อาจล้อม รอง สว.(ปราบปราบ) สภ.นางรอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุด 191 และชุดสืบสวน สภ.นางรอง
ที่เกิดเหตุเป็นหอพักของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนางรอง ตึกที่ 3 อาคาร สูง 4 ชั้น ด้านทิศตะวันออก บริเวณชั้นล่าง ห้องพักหมายเลข 3104 จากการตรวจสอบพบว่า ภายในห้องที่เกิดเหตุซึ่งมีลักษณะแยกเป็นห้องพัก 3 ห้อง โดยห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องด้านในสุด พบข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนห้องเนื่องจากผู้เสียหายได้ต่อสู้กับคนร้าย ทั้งนี้ พบหลักฐานเป็นรอยเท้าที่บริเวณห้องน้ำ มีดปลายแหลมที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ และยาสูบของคนร้ายตกอยู่บนที่นอน แต่ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุดังกล่าว
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังออกติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุตามรูปพรรณที่ผู้เสียหายระบุว่า จำรูปร่าง ท่าทาง น้ำเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็พบตัวชายต้องสงสัยอายุ 18–19 ปี ซึ่งตรงตามรูปพรรณที่ผู้เสียหายแจ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้น แต่ชายคนดังกล่าวกลับขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถติดตามไล่ล่า จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด และได้นำตัวมาที่โรงพยาบาลนางรองเพื่อให้พยาบาลผู้เสียหายชี้ตัว ซึ่งผู้เสียหายก็ยืนยันว่า เป็นคนเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุ แต่ผู้ต้องหายังไม่ยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบปากคำ ที่สภ.นางรอง
จากการสอบถาม น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี พยาบาลวิชาชีพ แผนกอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลนางรอง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปทำธุระข้างนอก ขณะกลับเข้ามาในห้องพักพบว่าไฟในห้องดับทั้งหมด จึงเดินไปตามช่างซ่อมบำรุงให้มาซ่อมให้จนใช้งานได้ปกติ เมื่อผ่านไปสักพักไฟเกิดดับอีก ตนจึงเดินไปตามช่างอีกรอบ แต่ครั้งนี้ที่เดินกลับเข้าห้อง มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นใช้กำลังเข้าล็อคตัวแล้วใช้มีดปลายแหลมที่เตรียมมาจี้ที่ลำคอ พร้อมกับขู่ว่าให้เงียบอย่าส่งเสียงดังถ้าไม่อยากโดนทำร้าย แล้วบังคับให้เดินเข้าไปที่ห้องด้านใน
น.ส.บี กล่าวต่อว่า จังหวะนั้น ตนจึงตัดสินใจฮึดสู้จนเกิดการต่อสู้กัน โดยจังหวะที่ตนใช้มือกำมีดที่ผู้ต้องหาจี้บังคับ และผลักตัวเองออก ทำให้มีดบาดเข้าที่นิ้วกลางด้านซ้ายจนเอ็นขาด เมื่อคนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงหลบหนีไปโดยทิ้งมีดและทำซองยาสูบเป็นหลักฐานทิ้งไว้ จากนั้น ตนจึงรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลเพื่อประสานตำรวจมายังที่เกิดเหตุ ก่อนที่เพื่อนพยาบาลจะพาไปทำแผล
ด้าน พ.ต.อ.สมภพได้ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุพบว่า เมื่อเวลา 22.22 น.ของวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา พบภาพคนร้ายปีนกำแพงจากด้านหลังโรงพยาบาลเข้ามา แล้วเดินไปที่ตึก ก่อนจะเข้าไปขโมยเสื้อคลุมของเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาล แล้วเดินเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว โดยใช้มีดจี้เพื่อหวังขืนใจพยาบาลสาว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ จากการตรวจปัสสาวะชายต้องสงสัยที่ถูกจับกุม เบื้องต้นพบผลตรวจปัสสาวะเป็นบวก ซึ่งก็รับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็นชายที่ก่อเหตุทำร้ายพยาบาล อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่ปรากฏในจุดเกิดเหตุและภาพวงจรปิด เพื่อเป็นหลักฐานจะสามารถเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้