โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

13พธม.อ่วมจ่าย522ล้านคดีปิดสนามบิน-ม.44ตั้งบิ๊กทหารนั่งคสช.

คมชัดลึกออนไลน์ - ข่าวการเมือง

เผยแพร่ 21 ก.ย 2560 เวลา 21.15 น.

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 กันยายน ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำสั่งศาลฎีกา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล และพวกรวม 13 คน แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา ในคดีที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ พล.ต.จำลอง, นายสนธิ, นายพิภพ ธงไชย, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายอมร อมรรัตนานนท์, นายนรัญยู หรือศรัณยู วงษ์กระจ่าง, นายสำราญ รอดเพชร, นายศิริชัย ไม้งาม, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี แกนนำ พธม. ทั้ง 13 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จากกรณีร่วมกันปิดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551 ซึ่งศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในเวลา 14.45 น. โดยพิจารณาเห็นว่าที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิจารณายกคำร้องขอจำเลยมานั้นชอบแล้วตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง

มีรายงานว่าในวันนี้ นายสมเกียรติ แกนนำ พธม. จำเลยที่ 7, นายไชยวัฒน์ แนวร่วม พธม. จำเลยที่ 6 และนายอมร แนวร่วม พธม. จำเลยร่วมอีกคนมาฟังคำพิพากษาดังกล่าว

สำหรับคดีแพ่งดังกล่าว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ 13 แกนนำ พธม.ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 522 ล้านบาท ซึ่งช่วงที่จะยื่นฎีกาปรากฏว่าทนายความฝ่ายแกนนำ พธม. ดำเนินการไม่ทันเวลา 30 วัน โดยเมื่อทนายความพยายามยื่นคำร้องขอขยายเวลาฎีกาซึ่งอ้างเหตุสุดวิสัยการปิดหมายแจ้งคดีต่อศาลแพ่ง ที่เป็นศาลชั้นต้น ปรากฏว่าศาลยกคำร้อง ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 เช่นเดียวกันเห็นว่าศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีร่วมกันปิดสนามบินโดยชอบแล้ว โดยเมื่อศาลฎีกายกคำร้องขอขยายเวลาฎีกาของจำเลยแล้วผลแห่งคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ชดใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนคดีอาญาปิดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ที่อัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง, นายสนธิ และแกนนำ พธม. กับผู้ชุมนุม รวม 98 รายต่อศาลอาญานั้น คดีอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ โดยรอสืบพยานอีกครั้งเดือนมีนาคม 2561

รับบัตรคนจนทั่วประเทศคึกคัก

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันแรกในการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เช้า โดยประชาชนผู้มีสิทธิ (11.67 ล้านคน) ทั่วประเทศต่างทยอยมารับบัตรตามที่ลงทะเบียนไว้ที่สำนักงานการคลังจังหวัด ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะสามารถมอบบัตรให้ประชาชนแล้วเสร็จทั้งหมด แต่ยังพบว่าหลายคนไปรับบัตรไม่ตรงกับที่ลงทะเบียนไว้ ขณะที่ประชาชนระบุช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ ซึ่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย มีลักษณะคล้ายกับบัตรเอทีเอ็ม มีชื่อ-นามสกุลของผู้มีสิทธิ์ระบุลงไปในบัตร ทั้งนี้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสวัสดิการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 3 สวัสดิการ ประกอบด้วย วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด วงเงิน 200-300 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน, สวัสดิการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่ารถโดยสาร รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน โดยจะเป็นผู้ที่ถือบัตรเท่านั้นที่มีสิทธิ์ใช้บัตรนี้ได้ ทั้งนี้ประชาชนทั่วประเทศที่เดินทางมารับบัตร บอกว่า รู้สึกดีใจที่คุณสมบัติผ่านเกณฑ์ โดยบัตรนี้จะช่วยให้การใช้จ่ายภายในบ้านและค่าเดินทางลดลงเป็นอย่างมาก

"บิ๊กตู่"ม.44 ตั้งคสช. 3 ตำแหน่ง

ความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองนั้น วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 2/2560 เรื่อง แต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งในคสช. โดยหัวหน้าคสช.อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 42 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกาศให้ยกเลิกประกาศ คสช. ฉบับที่ 1/2559 เรื่อง แต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งในคสช. และประกาศคสช. ฉบับที่ 3/2559 เรื่อง เปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ดํารงตําแหน่งในคสช. โดยให้ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ออกจากตำแหน่งสมาชิกคสช. เนื่องจากเกษียณอายุราชการ แล้วให้ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ และ พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ เป็นสมาชิกคสช.แทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560

"บิ๊กป้อม"ฟันธง"ปู"ไม่มาศาล

ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการติดตามเส้นทางและบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีโครงการรับจำนำข้าว ไปต่างประเทศ ภายหลังกล้องวงจรปิดจับภาพสุดท้ายได้บริเวณด่านทหาร จ.สระแก้ว ว่า ทางเจ้าที่ดำเนินการติดตามตัวว่าใครเป็นคนพา น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่เจ้าหน้าที่ติดตามกันอยู่ ส่วนจะแถลงความคืบหน้าหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่ชี้แจงอะไร เพราะหลักฐานยังไม่ชัดเจน อีกทั้งทางต่างประเทศยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาใดๆ มาให้ จึงยังไม่มีการแถลงในตอนนี้ ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ส่วนวันที่ 27 กันยายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำตัดสินคดีนั้น ไม่มีความเป็นห่วงในเรื่องสถานการณ์ หากศาลตัดสินออกมาเป็นอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ขณะเดียวกันประเมินว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์คงไม่มาฟังคำพิพากษาคดี ประกอบกับมวลชนก็น่าจะมาให้กำลังใจไม่มากนัก

เมื่อถามว่าการเดินทางไปราชการที่อังกฤษ ประจวบเหมาะกับช่วงที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่อังกฤษด้วย ไม่ทราบว่าได้พบกับนายทักษิณหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวยืนยันว่าช่วงที่เดินทางไปถึงประเทศอังกฤษระหว่างวันที่ 11-14 กันยายน นายทักษิณไม่ได้อยู่อังกฤษในช่วงนั้น แต่นายทักษิณไปอังกฤษเมื่อวันที่ 15 กันยายน คาดว่าคงบินสวนกัน

แย้มมก.ม.ลูกเสร็จปลดล็อกพรรค

ส่วนกรณีประชาชนมีความกังวลโรดแม็พการเลือกตั้งปี 2561 นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้ชี้แจงไปแล้ว ต้องรอให้กระบวนการจัดทำกฎหมายลูกดำเนินการเสร็จสิ้น และต้องนับไปอีก 150 วัน ส่วนจะปลดล็อกให้พรรคการเมืองสามารถเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมทางการเมืองได้นั้น คงจะปลดล็อกให้ก็ต่อเมื่อทำกฎหมายลูกเสร็จแล้วจึงจะสามารถทำได้

รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวแสดงความคิดเห็นกรณีทางกองทัพบกจะแถลงชี้แจงถึงการยุติใช้เรือเหาะตรวจการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ให้กองทัพบกเป็นผู้ชี้แจง ส่วนที่ถามว่ากองทัพบกต้องรับผิดชอบกับงบประมาณที่สูญเสียไปหรือไม่นั้น จะให้รับผิดชอบอย่างไร แต่ยืนยันว่าตั้งใจทำงานเพื่อให้ทั้งประชาชนและทหารมีความปลอดภัยจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์กับการสูญเสียของกำลังพล 1 คน ไม่สามารถประเมินค่าได้ อย่างไรก็ตามหากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) จะเข้ามาตรวจสอบการใช้งบประมาณนั้น คิดว่าสามารถตรวจสอบได้เลย เพราะไม่ได้นำงบประมาณไปใช้ในทางที่เสียหาย

กรธ.ถกกฎหมายลูกนัดพิเศษ

ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการทำกฎหมายลูกทั้งหมด อาจไม่ทันกรอบเวลา 240 วัน ว่า กรธ.ได้นัดประชุมวันหยุดสุดสัปดาห์คือวันที่ 23-24 กันยายนนี้ เป็นพิเศษ ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ที่รัฐสภา เนื่องจากต้องใช้เวลาให้เต็มที่ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ทันเวลา และถ้าหากยังมีเวลาไม่เพียงพอในการพิจารณากฎหมายลูกอีกก็อาจเป็นไปได้ที่กรธ.จะต้องประชุมถึงช่วงเวลาดึก ส่วนที่ ป.ป.ช.มีความกังวลว่าคณะกรรมการที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน จำนวน 7 คน อาจจะไม่ผ่านคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นเหตุให้พ้นตำแหน่งทั้งหมดนั้น ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่จะรีเซตจริงหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปออกมาชัดเจน

มท.1ฮึ่มขรก.หมกเม็ดป่าห้วยเม็ก

ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบพื้นที่ป่าสาธารณะห้วยเม็ก ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ภายหลังบริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ขอยกเลิกการเช่าพื้นที่ รวมถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกระบวนการทำประชาคมที่มีการคัดค้านว่า ในเรื่องการทำประชาคมได้ให้ฝ่ายปกครองสอบสวนข้อเท็จจริงที่มีประชาชนมาร้องเรียนแล้ว หากพบว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและทำให้การพิจารณาไม่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ก็จะตั้งกรรมการดำเนินการทางวินัยและอาญา ซึ่งต้องดูว่าคณะกรรมการอำเภอทำมาอย่างไร ทำไมถึงไม่มีเรื่องการคัดค้านของประชาชน ถ้าอธิบายไม่ได้ต้องถามต่อว่า ทำไมถึงส่งเรื่องมาที่จังหวัดและคณะกรรมการจังหวัดรู้หรือไม่ ถ้าไม่รู้ก็ต้องย้อนกลับไปถามว่า ทำไมอำเภอไม่บอกมา แต่ถ้าจังหวัดรู้ต้องถามว่าทำไมถึงส่งเรื่องมาให้ ส่วนการตรวจสอบการใช้ทางสาธารณะนั้น ถ้ารุกล้ำก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้นายอำเภอไปแจ้งความดำเนินคดี

จ่อร้องสอบครม.อภิสิทธิ์"เรือเหาะ"

วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว. กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า เรือเหาะมีปัญหาเป็นเรือเหี่ยว เหาะไม่ได้นั้น หลายฝ่ายสนใจและออกมาติดตามตรวจสอบเพื่อหาคนรับผิดชอบนั้น ซึ่งก็ได้ติดตามข่าวเรือเหาะด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่เห็นมีการกล่าวถึงในเชิงตรวจสอบสืบสวนแบบเจาะลึกลงไปในบางกรณี โดยเฉพาะต้นเรื่องมูลเหตุตั้งแต่การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้อนุมัติให้ใช้งบกลาง 350 ล้านบาท โดยอาจขัดต่อมติ ครม.ของตนเอง เงินที่ใช้จัดซื้อเรือเหาะจำนวน 350 ล้านบาท เป็นการใช้เงินงบกลางที่เกินกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจาก ครม. โดยได้อนุมัติเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2552 ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่การอนุมัติดังกล่าว มีประเด็นปัญหาที่ต้องพิจารณาก่อนว่า ชอบหรือไม่ ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ครม.ของนายอภิสิทธิ์ เพิ่งอนุมัติแนวทางการใช้เงินงบกลางขึ้นมาใหม่ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งยกเลิกแนวทางเดิมไปแล้วด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ จึงน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐเป็นมูลค่าถึง 350 ล้านบาท ที่ ป.ป.ช.ควรรีบเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากประเด็นที่เห็นกันตามที่เป็นข่าวไปแล้วจากหลายฝ่ายที่ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชน ซึ่งประเด็นที่พบนั้น น่าจะเป็นประเด็นที่ยังไม่มีฝ่ายใดกล่าวถึง ดังนั้น ตนจะนำประเด็นที่ตรวจพบไปร้องขอให้ ป.ป.ช.รีบดำเนินการตรวจสอบไต่สวนโดยทันทีว่า การที่ ครม.สมัยนายอภิสิทธิ์ อนุมัติเงินงบกลางเพื่อจัดซื้อเรือเหาะ 350 ล้านบาทตามแนวทางที่ยกเลิกไปโดย ครม.ของนายอภิสิทธิ์เองนั้น จะชอบหรือไม่ โดยตนจะไปยื่นหนังสือเพื่อให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 22 กันยายนนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.

ทนายจี้อสส.ทำคดีกรุงไทยให้ครบ

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายวันชัย บุนนาค ทนายความและนักวิชาการด้านกฎหมาย ยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดในคดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทยทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือ จากนั้นนายวันชัยให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า คดีนี้มีอะไรที่ผิดสังเกตไม่ได้รับการพิจารณา และไม่มีหลักฐานการสอบสวนว่าสั่งไม่ฟ้อง เช่นนายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ และนายอุตตม สาวนายน ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ ว่าพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ ตนมองว่าในส่วนของ 2 คนนี้คดียังไม่ระงับ และจะขาดอายุความในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 โดยเรื่องนี้กระทบต่อสถาบันการเงินและเศรษฐกิจ ตลอดเวลายื่นเรื่องนี้ต่อดีเอสไอหลายครั้งแล้ว ความคืบหน้าเป็นไปอย่างล่าช้า และทราบมาว่าที่ผ่านมามีการสรุปสำนวนเพียง 13 คน ไม่ได้ปฏิบัติอย่างทั่วถึงในการส่งสำนวนมาที่อัยการ จึงมาร้องเรียนต่ออัยการให้พิจารณาสั่งการสอบสวนเพิ่มและไม่ควรที่จะแยกสำนวน ส่วนจะขยายผลถึงใครก็ควรทั่วถึงเท่าเทียม

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นคดีเดียวกับที่กล่าวหานายพานทองแท้ ชินวัตร หรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีปล่อยสินเชื่อ 9,900 ล้านบาท ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นคดีเดียวกันกับคดีที่ศาลฎีกาตัดสินแล้ว ซึ่งเป็นหลักที่พนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการสอบสวนบุคคลตามที่มีมติรับไว้ คือกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทยอย่างน้อยให้ครบทั้ง 5 คน ส่วนจะขยายผลถึงใครต่อไปก็ย่อมทำได้ คดีหลักเลขดำที่ 36/2550 ไม่มีข้อความใดปรากฏว่าได้ทำการสอบสวนกรรมการธนาคารกรุงไทยในขณะนั้นให้ครบทั้ง 5 คน และมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องส่งพนักงานอัยการ แต่มีการแยกสำนวนคดีออกมาซึ่งส่อว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ คดีนี้ตามกฎหมายจะจบที่ดีเอสไอไม่ทำสำนวนส่งอัยการไม่ได้ ต้องจบที่อัยการมีความเห็นสั่งหรือไม่ฟ้อง หากเห็นสั่งฟ้องก็ต้องจบที่ศาล ส่วนสำนวนที่เตรียมกล่าวหานายพานทองแท้กับพวกเป็นสำนวนคดีที่แยกในปี 2560 ออกมาเป็นคดีที่ 25/2560

นายกฯปลื้มชูเน็ตประชารัฐ

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานเปิดงาน "Thailand Digital Big Bang 2017" พร้อมเป็นสักขีพยานในพิธีนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระดับนานาชาติในดิจิทัลเพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัล 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ จำนวน 5 ฉบับ และมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่มีผลงานดีเด่นด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอีกด้วย โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกคนรวมถึงนายกฯ เองต้องมีการปรับตัว ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เราคาดหวังก็ไม่เกิดขึ้น เดินไปสู่วิสัยทัศน์ของประเทศไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเชื่อมโยงกับสังคมโลก โดยรัฐบาลภูมิใจที่การพัฒนาดิจิทัลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งคนและเทคโนโลยีดิจิทัลต้องพัฒนาไปด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังได้นำเน็ตประชารัฐมาให้บริการด้านสาธารณสุข เพื่อดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม เช่น ในเรื่องบัตรทองและการให้บริการด้านสาธารณสุขต่างๆ ซึ่งย้ำว่าสิ่งที่เคยทำก็ยังคงทำอยู่ แต่มีการคาดการณ์ว่าภาระด้านสาธารณสุขมีประมาณ 2 ล้านล้านบาท และจะสูงถึง 10 ล้านล้านบาทในอนาคต ในขณะที่งบประมาณของประเทศมีเพียง 3 ล้านล้านบาท จึงต้องเตรียมการและลองคิดถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย

สร้าง1,000นักรบไซเบอร์ในปีหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันสิ่งสำคัญคือ ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เพราะปัจจุบันภัยคุกคามไม่จำกัดพรมแดน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สร้างเครือข่ายความปลอดภัยกับต่างประเทศ และความเข้มแข็งภายใน ขอฝากให้ทุกคนช่วยกันดูแล ซึ่งรัฐบาลจะเร่งพัฒนาผู้เชี่ยวชาญหรือนักรบไซเบอร์ให้ได้ 1,000 คนในปีหน้า เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวัง และแก้ปัญหาด้านไซเบอร์

"ผมพูดยังเหนื่อย แต่ทำเหนื่อยกว่า หากพูดเฉยๆ อย่างเดียวคงไม่เหนื่อย เหนื่อยแต่ปาก วันนี้เน้นเรื่องดิจิทัล จึงจะไม่ตอบคำถามใครทั้งนั้น และจะตอบสื่อในเรื่องดิจิทัลเท่านั้น ขณะเดียวกันวันนี้ขอให้ทุกคนช่วยกันอย่าเพิ่งติ เหมือนติเรือทั้งโกลน ติโขนที่ยังไม่ได้ทรงเครื่อง เพราะตอนนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าอยู่ ส่วนตัวอยากเห็นประเทศมีความเรียบร้อย คนไทยจะอยู่ดีกินดี เหมือนที่ทุกคนคาดหวัง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

งดตอบสื่อหลังทีมงานขอดู4คำถาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ประเด็นอื่นนอกจากเรื่องเกี่ยวกับงาน ภายหลังเสร็จสิ้นการเปิดงานเรื่อง "ดิจิทัลกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในประเทศไทย 4.0" ในงาน "Digital Thailand Big Bang 2017" ซึ่งจัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางทีมงานนายกฯ ได้ประสานมายังผู้สื่อข่าวว่า นายกฯ อาจจะให้สัมภาษณ์หลังเปิดงานเสร็จ โดยขอให้สื่อมวลชนส่งประเด็นคำถามให้ก่อน โดยสื่อมวลชนได้ส่งไป 4 คำถาม ประกอบด้วย 1.การเยือนสหรัฐอเมริกาเตรียมเจรจาเรื่องใดบ้าง 2.ในการหารือกับ ผบ.ทบ.เมื่อวันที่ 20 กันยายน มีเรื่องใดบ้าง เกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่ 3.มีความเห็นอย่างไรที่โพลอีสานที่ยังหนุนพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลและเป็นนายกฯ และ 4.กรณีสื่อญี่ปุ่นนำเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-เวียดนาม ล่าช้า คุณภาพด้อย รวมถึงงบประมาณบานปลาย ทางการไทยจะทบทวนหรือไม่

"ปลัดกห.-ผบ.ทสส." อำลาก่อนเกษียณ

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทสส. เดินทางมาเยี่ยมอำลากองทัพเรือ เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ พร้อมด้วย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ร่วมคณะ มี พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือต้อนรับ โดยขึ้นเรือหลวงปัตตานีเพื่อขึ้นแท่นรับการเคารพ จากนั้นเรือหลวงปิ่นเกล้าได้ยิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติ จำนวน 19 นัด พร้อมทั้งได้ลงเรือ ต.112 เพื่อตรวจพลสวนสนาม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0