คนเราเดี๋ยวนี้อารมณ์ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีใครยอมใคร ไม่มีการโอนอ่อนผ่อนตาม ไม่มีคำว่า “ขอโทษ” และอย่าหวังเลยถึง “การให้อภัย” หรือบอกว่า “ไม่เป็นไร”
ทั้ง ๆ ที่การให้อภัยเป็นอะไรที่ง่าย ไม่ต้องลงทุน แต่น่าแปลกที่หลายคนทำกันไม่ได้ และไม่คิดจะทำ อย่าลืมว่าเราทุกคนมีโอกาสที่จะทำผิดพลั้งพลาดกันทั้งนั้น เมื่อสำนึกผิดเราก็ “ขอโทษ” และอยากฟังคำพูดที่บอกว่า “ไม่เป็นไร” กลับมา ลองคิดดูถ้าทำผิดแล้วขอโทษแต่ไม่ได้รับการให้อภัยจะเป็นอย่างไร
จริง ๆ แล้วทั้งการ “ขอโทษ” และบอกว่า “ไม่เป็นไร” ควรเป็นคำที่แสดงความรู้สึกนั้นจริง ๆ โลกนี้มีหลายอย่างที่จอมปลอมมากพออยู่แล้ว อย่าให้การยอมรับผิดและการให้อภัยเคลือบแฝงไปด้วยความหลอกลวงเลย เพราะสุดท้ายตัวเราเองนั่นแหละที่จะได้รับผลของความไม่จริงใจนั้น
อย่าลืมว่า “ไม่เป็นไร” มีนัยทั้งบวกและลบ ถ้าบอกว่า “ไม่เป็นไร” โดยที่ใจก็คิดอย่างนั้น ก็กลายเป็นความสุภาพ เห็นอกเห็นใจกัน แต่ถ้ามีแต่ปากที่บอกว่า “ไม่เป็นไร” แต่จิตใจ ท่าทาง แววตากลับไม่เป็นอย่างนั้น ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะบอกว่า “ไม่เป็นไร” เผลอ ๆ อาจสร้างความสับสนให้ตัวเองอีกต่างหาก
เมื่อรู้สึกผิด ก็ “ขอโทษ” อย่างจริงใจ
เมื่อให้อภัย ก็ “ไม่เป็นไร” ด้วยใจจริง
อย่า “ขอโทษ” ส่ง ๆ เพื่อหวังจะได้รับการให้อภัย
อย่า “ไม่เป็นไร” ไปงั้น ๆ โดยที่ใจจริงยังเคียดแค้น
เสียเวลา และเปล่าประโยชน์ที่จะทำ