“อาร์ต” งดตอบพระเอกพ.ถูกโยง หลังมีประเด็นขโมยเงินผู้จัดฯ
อีกหนึ่งประเด็นดราม่าที่เรียกได้ว่าถึงกับต้องแจ้งความหลังมี 2 เพจดังใช้อักษรย่อ “อ.พ.” ขโมยของลูกผู้จัด พร้อมใช้ภาพของหนุ่ม “อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม” ประกอบภายในข่าว ซึ่งงานนี้ทำเอานักแสดงหนุ่ม “อาร์ต” ได้ออกมาชี้แจงในรายการดัง โดยเผยให้ฟังว่า
สำหรับจุดเริ่มต้นตอนเห็นข่าวที่ลงในเว็บตนเองเห็นรูปก่อนว่าข่าวอะไรอีก เพราะเป็นรูปของตนเอง ก็อ่านพาดหัวว่าแจ้งจับสองพระเอกหนุ่ม เป็นแจ้งจับตนเองทำไม ก็มีอักษรย่อ อ.พ. ก็ดูๆ ว่าถ้ามันชี้เจาะจงก็สามารถแจ้งความได้ บรรดาคนรู้จักก็มีถามๆ ว่าเห็นข่าวนี้ ตนเองก็ไม่อยากพูดถึงประเด็นนี้ แต่ข่าวนี้ทำให้ตนเสียหาย เพราะ 1 ขี้ขโมย และไม่ใช่ขโมยเปล่าเป็นการขโมยของบ้านลูกพี่ “กอบสุข จารุจินดา” แบบนี้คนอื่นจะคิดยังไง มันเป็นประเด็นร้ายแรงกับสังคม ทำให้ตนต้องแจ้งความ
ทางฝั่งเขาก็มีลงขอโทษในเว็บที่นี่ ก็มีโทรมาหาแม่ตนตั้งแต่เช้าว่าไม่แจ้งความได้ไหม เขาก็มีบอกคุณแม่ว่าจะไปในวันแจ้งความด้วย และพาเด็กคนลงมาด้วย ก็มีบอกว่าอะไรที่พาดพิงคนอื่นอย่าไปลง เพราะเป็นข่าวที่แรง เมื่อเช้าก็ลงในเว็บ แต่ไม่ลงหน้าเว็บ ซึ่งเขาไม่ขอโทษในเว็บ ก็มีขอโทษ 3 วัน และใส่รายละเอียดว่าเอามาจากอีกเว็บนึง ตนเองก็บอกว่าทำอะไรขอให้คิดเยอะๆ ในวันนั้นก็มีการคุยและเข้าอ้างว่าเอามาจากอีกสำนักนึงก็เอามาทั้งหมดทั้งเนื้อและภาพ
ในส่วนของเรื่องจริง ตนเองขอไม่พูดถึงประเด็นดังกล่าว เพราะไม่เกี่ยวกับตน มันพาดพิงกับบุคลลอื่น เป็นเกี่ยวกับน้องพระเอก พ. ร่วมช่อง ซึ่งทางฝั่ง “พี่อุ๊บ” ได้ออกมาพูดแบบนั้น ซึ่งจริงๆ เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เกิดที่บ้าน ไม่ใช่วันปาร์ตี้อะไร ตนเองไม่รู้จริงเท็จอย่างไร ไม่ขอพูดในเรื่องตอนนั้น
โดยเมื่อเช้าได้เข้าไปหา “กอบสุข จารุจินดา” เขาก็ให้คำแนะนำว่าให้ข่าวอีกครั้งเดียว ก็คือครั้งนี้ และให้เป็นเรื่องของกฏหมายดีกว่า และก็เลิกลงต่างๆ ทำงานปกติ และลืมเรื่องนี้ไปปล่อยให้เป็นเรื่องของคดีความไป
ส่วนหลังมีข่าวนี้ออกไปก็มีงานติดต่อมา ก็ทำให้ตนเองไม่สามารถรับงานในวันนั้นได้ เพราะคดีความพรบ. คอมต้องแจ้งภายใน 3 เดือน ทำให้ต้องยกเลิกงานในวันนั้นไป และทางเพื่อนฝูงก็เข้าใจเพราะรู้ว่าตนเป็นคนแบบไหน มันค่อนข้างเซนซิทีฟ ตนเองไม่เคยโมโหถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ ตนมองเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีมากกว่า โดนไล่ออกจากช่อง ไม่เซ็นสัญญา คือจริงๆ ที่ไม่เซ็นเพราะตนขอออกมาหาประสบการณ์จริงๆ ก็ยังมีไปไหว้ผู้ใหญ่ มีโทรคุย ซึ่งมีข่าวผู้จัดฯ โกรธก็ไม่จริง ยังมีเข้าหาอยู่ตลอด
สำหรับการดำเนินคดีตอนนี้ก็เว็บที่นี่ก็มีขอโทษส่วนอีกเว็บนึงก็ปล่อยไปตามรูปคดี เพราะเดี๋ยวทางสถานีตำรวจจะเข้ากระบวนการต่อไป เรียกสอบปากคำตามกระบวนการ เพราะในรูปมันเป็นรูปของตนก็สามารถเอาผิดได้ ในส่วนของขั้นตอน ก็น่าจะประมาณ 1 เดือนต่อจากนี้ ก็วันนี้จะจบในวันนี้ จะไม่ดราม่าอีก แต่บางเพจที่ขอโทษมาแล้วก็โอเค
ด้านอีกเพจนึงที่ลงตนเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ลงไป ไปฟังจากใครมา จริงๆ ไม่มีเรื่องที่จะต้องทำให้เสียชื่อเสียแบบนี้ อยากให้ฟัง เพราะตนเองเคยบอกไปแล้วว่าถ้าซีเรียสจริงๆ อยากให้พาดหัวข่าวที่ดีๆ ขอให้เกรียติกันบ้าง อย่างที่เคยพูดไปว่าอยากให้นักข่าวเหมือนน้ำพึงเรือเสือพึงป่า สัมภาษณ์ก็อยากให้ตรงไปตรงมา อย่างข่าวรุนแรงก็ให้รุนแรง เรื่องดีก็ให้เป็นเรื่องดี อย่าบิดเบียด เพราะคนสมัยนี้อ่านหัวข่าวก่อนด่าก่อนค่อยว่ากัน อย่างข่าวตอนที่รองเท้าขาดและมีข่าวว่าใส่กล้องแอบถ่ายกระโปรงผู้หญิงก็อยากให้ดูดีๆ เลิกทำลายชีวิตคนด้วยปลายปากกา เรื่องดีก็ขอให้เป็นเรื่องดี เรื่องไม่ดีก็ขอให้ไม่ดี ตอนนี้เพจมั่วก็เยอะ เขาไม่รู้หรอกเพจจริงหรือปลอมเขาด่านักข่าวก่อน ตนเองไม่อยากให้นักข่าวต้องโดนประชาชนด่า อยากให้อ่านและคิดเยอะๆ เห็นหลายๆ มิติ ไม่อยากให้ตัดสินคนที่หัวข่าว
ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้ถามหนุ่ม “อาร์ต” ถึงเรื่องคดีความเขาได้แจงต่อว่าเกี่ยวกับพรบ. คอม และตนเองไม่ได้ถ่ายตัวแจ้งความเพราะมันใช้เวลาในการเขียนค่อนข้างนาน ก็มีคดีหมิ่นประมาทและพรบ. คอม เพราะมันเป็นภาพของตน ตำรวจก็มีถามพยานว่าดูภาพแล้วคิดว่าตน ก็หลายคนเห็นว่าเป็นตนทำให้สามารถเอาผิดได้ เสียชื่อเสีย ในเรื่องของคดีก็ต้องแล้วแต่ตำรวจกับกระทรวงที่เกี่ยวกับพรบ. คอม
สำหรับเรื่องการไกล่เกลื่อ ก็ต้องตรวจสำนวนก่อน รูปภาพจริงไหม IP จริงไหม บังเอิญตนแคปไว้ทันทำให้มีหลักฐานชัดเจน ส่วนเพจต้นเรื่องตอนนี้ก็ยังไม่เห็นว่ามีดำเนินการยังไง ตนเองไม่สามารถบอกได้ว่าสำนวนเป็นยังไง ว่าแจ้งความเท็จไหม IP จริงไหม ส่วนตัวเองอยากบอกคนเขียนและคนลงว่าถ้าเป็นญาติพี่น้องตัวเอง ลูกตัวเอง และมีคนเขียนข่าวแบบนี้จะโกรธไหม คิดให้เป็นตัวเองก่อน ตนเองเข้าใจว่ามันสนุก แต่คนเขียนข่าวจะเป็นยังไง ถามว่าโกรธไหมก็อยากให้เป็นคดีตัวอย่างดีกว่า ตนเองขอเป็นตัวแทนให้เบาๆ ให้ที่ยืนในสังคมด้วย
วินาทีแรกที่ได้เห็นข่าวก็ เหนื่อยหนายทำไมต้องเล่นแรงขนาดนี้ ถามว่ารู้มูลข้อเท็จจริงไหมก็รู้ แต่ไม่อยากเอามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตนเองไม่อยากเอามาเกี่ยวข้อง ก็เจอหน้ากันทุกครั้งกับพี่ๆ นักข่าวจะสวัสดีตลอด ตนเองไม่เคยเรียกไอ้อีเลย ทุกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไรทำไมต้องเล่นประเด็นเป็นคนขี้ขโมยแบบนี้มันไม่โอเค ตนเองอยากรู้ว่าเรื่องจริงๆ มันเป็นยังไง เห็นข่าวไหม เขาก็บอกว่าเห็นแล้ว มองว่าบ้าบอเหมือนกัน ต้องไล่เรียงอีกทีว่ายังไง จุดประสงค์เป็นยังไง เพราะคีย์บอร์ดพิมพ์เองไม่ได้
ตนเองไม่ได้คุยกับใครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง ว่าเขา “พี่อุ๊บ” ออกมาพูดได้ยังไง ก็ต้องรอทางฝั่งเขาออกมาพูดเอง ตนเองไม่รู้อะไรทั้งนั้น เป็นเพียงแค่คนกลางเท่านั้น เรื่องจริงไหม ก็ไม่ทราบ ซึ่งเรื่องในวันนั้นตนเองไม่รู้ว่าเป็นใครอะไรยังไง ตนเองอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น แต่บังเอิญว่านอนหลับอยู่บนเตียง แต่เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ซึ่งตนเองรู้เหตุการณ์ก็สองสามวันหลังจากนั้น เรื่องของน้องพระเอก พ. ร่วมช่อง ก็ต้องไปถามน้องเขาเอง รู้สึกว่าเขาเกลียดอะไรตนเองหนักหนา และคิดว่าหากตนเองเจอเหตุการณ์แบบนี้มันจะโอเคมั้ย ตนเองไม่อยากให้ใครมาว่าพี่ๆ นักข่าว เพราะตนไม่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้ว่าพี่ๆ นักข่าวมีจรรยาบรรณ
ด้านคนรอบข้างก็ขำๆ แฟนคลับก็รู้ว่าเป็นตนเองในรูป ส่วนแฟนตัวจริงก็ไม่มี ขอทำงานให้เต็มที่ก่อน ตนเองไม่เครียดกับเหตุการณ์แบบนี้เพราะหลายคนก็รู้อยู่แล้วว่าตนเองเป็นคนชอบทำการกุศล และถ้าไม่ออกมาพูดคนจะเข้าใจผิด ขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า
