โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ไม่ใช่แค่ Bitcoin! เงิน crypto สกุลหลักของโลกกอดคอร่วงรับข่าว “แบน”

Manager Online

อัพเดต 16 ม.ค. 2561 เวลา 23.57 น. • เผยแพร่ 16 ม.ค. 2561 เวลา 23.57 น. • MGR Online

สกุลเงินดิจิทัลหรือ cryptocurrencies หลักของโลกมากกว่า 20 สกุลพร้อมใจเข้าสู่ภาวะมูลค่าลดลงเมื่อวันอังคารที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา บิตคอยน์ (Bitcoin) รายใหญ่เจ็บน้อยที่สุดเพราะมูลค่าร่วง 25% เหลือต่ำกว่า 11,000 เหรียญสหรัฐ ผลกระทบจากความหวั่นใจเรื่องโอกาสที่ประเทศยักษ์ใหญ่จะลงดาบปราบปรามและกำกับดูแลเงิน crypto มากขึ้นในระยะยาว

ภาวะมูลค่าเงินตกต่ำฉับพลันนี้เห็นชัดเจนบนสกุลเงิน crypto ท็อป 10 ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด 10 อันดับแรก เบื้องต้นคาดว่าเป็นผลจากปริมาณการซื้อขายในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่ปรับตัวลดลง

แม้ว่าเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Bitcoin จะลดลง 25% เหลือ 10,338 เหรียญสหรัฐ ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาเป็น 11,000 เหรียญในตลาดนิวยอร์ก แต่ตัวเลขนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นธันวาคมที่ผ่านมา โดยเงินดิจิทัลสกุลรองของโลกอย่างริปเปิล (Ripple) นั้นมูลค่าลดลงมากถึง 40% และเอธีเรียม (Ethereum) ลดลง 31% เหลือ 871 เหรียญสหรัฐเมื่อวันครูที่ผ่านมา

ภาวะทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความผันผวนในตลาดเงิน cryptocurrencies ที่วาดลวดลายหลังจากตลาดขยายตัวรุนแรงเมื่อปี 2017 อย่างไรก็ตาม นาทีนี้ยังมีอีกหลายบริษัทที่วางแผนเปิดตัวบริการ crypto ต่อไป รวมถึงเงินสกุลใหม่ที่แสดงว่าตลาดเงินดิจิทัลนี้จะยังไม่วายไปง่ายๆ

เบื้องต้น ฟาวาด ราซาคซาดา (Fawad Razaqzada) นักวิเคราะห์การตลาดของฟอเร็กซ์ (Forex.com) เปรียบเทียบว่าสถานการณ์ขณะนี้เหมือนการอาบเลือดหรือ "cryptocurrency bloodbath" แต่เวลานี้ก็ถือว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเงิน crypto กำลังถึงกาลอวสาน โดยเหตุผลหลักของวิกฤตินี้คือแนวโน้มเรื่องรัฐบาลเกาหลีใต้อาจดำเนินการตรวจสอบด้านกฎระเบียบเพิ่มขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจลดลง

มาติ กรีนสแปน (Mati Greenspan) นักวิเคราะห์ของบริษัทอีโตโร (eToro) ชี้ว่าปริมาณการซื้อขายที่ลดลงจากตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ คือเหตุผลหลักที่ทำให้มูลค่าเงิน crypto ตกต่ำอย่างหนัก เนื่องจากราคาเงิน Crypto ในตลาดเหล่านี้มักจะมีราคาพรีเมี่ยมซึ่งจะช่วยผลักดันราคาเฉลี่ยทั่วโลก ผู้ค้าในตลาดเอเชียเหล่านี้มักเป็นผู้ซื้อด้วยเช่นกัน แต่ปรากฏว่าวอลุ่มการซื้อขายเงิน crypto ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

จากการประเมินเบื้องต้น พบว่า 2 ประเทศที่มีการซื้อขายเงิน crypto มากที่สุดของโลกนั้นมีสัดส่วนลดลงต่ำกว่า 30% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนไม่ต้องการจ่ายเงินซื้อเงิน crypto เกินราคา และกำลังรอให้ตลาดนิ่งเสียก่อน

นีล วิลสัน (Neil Wilson) นักวิเคราะห์อาวุโสบริษัทอีทีเอ็กซ์ แคปิตอล (ETX Capital) ตั้งข้อสังเกตว่า Bitcoin จะต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องการกำกับดูแลไม่ช้าก็เร็ว แถมทุกฝ่ายยังเห็นสัญญาณของเรื่องนี้มากขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่เกาหลีใต้วางแผนออกกฏห้ามค้าขายสกุลเงิน crypto และการเคลื่อนไหวของจีนที่อาจมีมาตรการควบคุมธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล ทั้งหมดล้วนเป็นความคืบหน้าล่าสุดที่ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันด้านกฎระเบียบที่มากขึ้น

สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่ารัฐบาลจีนเตรียมกำหนดเป้าหมายไปที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่เสนอบริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนแห่เข้าถึงแพลตฟอร์มที่นำเสนอการค้าเงิน crypto แบบเก็งกำไร นอกจากจีน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ “คิม ดงยอน” (Kim Dong-yeon) ยังออกมาประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาอย่างจริงจังเพื่อห้ามซื้อขายเงิน crypto

เหตุผลที่ทำให้รัฐบาลหลายประเทศต้องออกหน้าว่าต้องปราบปรามเงิน crypto เพราะความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากเงิน cryptocurrency ถูกมองว่าเป็นสกุลเงินที่เหมาะสมมากสำหรับบริษัท, อาชญากร และบุคคลทั่วไปในการหลีกเลี่ยงภาษี และธุรกิจเงิน crypto เป็นเพียงธุรกิจที่เน้นเก็งกำไร ไม่ก่อให้เกิดผลดีทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0